เอชเอ็มดี มองยุค ศก.รัดเข็มขัดเป็นโอกาส ลุยสมาร์ทโฟนระดับกลางจับเทรนด์ผู้บริโภค

7 มิ.ย. 65

เอชเอ็มดี เผยยุคเศรษฐกิจรัดเข็มขัด เป็นโอกาสของสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่าง เมื่อผู้บริโภควางแผนการใช้จ่ายที่รัดกุม พบผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในราคาประหยัดมากขึ้น 

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล จำกัด (HMD) เผยว่า ช่วงสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อ และค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาวางแผนการเงินและรัดเข็มขัดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เน้นความคุ้มค่าในด้านราคา สอดรับกับสถิติพบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ให้ความสำคัญต่อการจับจ่ายใช้สอย และความคุ้มค่ามากขึ้น

พบผู้บริโภคส่วนใหญ่ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในราคาประหยัด ในขณะที่ยังเน้นคุณภาพของสินค้าและบริการมาเป็นอันดับแรก รวมถึงการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนปัจจัยที่ 5 ระดับกลาง-ระดับล่างมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน สำหรับการสื่อสารผ่านการโทร และใช้งานรูปแบบออนไลน์ เพื่อการทำงาน การเรียน การสื่อสารกับคนในครอบครัวและสังคมรอบตัว รวมถึงสามารถใช้จ่ายแทนเงินสดบนแอปพลิเคชันของธนาคาร โดยผู้บริโภคมีความฉลาดซื้อ ฉลาดเลือกมากยิ่งขึ้น ในการมองหาสมาร์ทโฟนราคาจับต้องได้ แต่มี สเปกที่คุ้มค่าเกินราคา และมีความคงทนในการใช้งาน

เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนนานขึ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่อยากยุ่งยากในการเปลี่ยนเครื่องเพราะต้องมีการโหลดแอปพลิเคชัน ขอรหัสการใช้งานใหม่สำหรับแอปพลิเคชันด้านการเงินซึ่งมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างมากในปัจจุบัน ส่งผลให้เทรนด์การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่าง ในราคาที่จับต้องได้ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์เริ่มคึกคักมากขึ้นในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี เอชเอ็มดีมองเห็นถึงเทรนด์ดังกล่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการเก็บข้องมูลของบริษัทฯ เองพบว่าผู้บริโภคทั่วโลก 81% มีความต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับการใช้งานได้แม้เวลาจะผ่านไปนานปี เช่นเดียวกับผู้บริโภคในประเทศไทย 95 % ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น พร้อมกันนี้ยังพบว่า 51.9% ของคนไทย คำนึงถึงปลอดภัยในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลในสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน และที่สำคัญสุดคือต้องการใช้สมาร์ทโฟนในราคาสมเหตุสมผล พร้อมคุณภาพที่คุ้มค่าด้วยฟังก์ชันและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ในปัจจุบัน

“ปัจจุบันการใช้ชีวิต New Normal หลังสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังเริ่มซาลง หลายพื้นที่เริ่มปลดล็อค และสามารถออกเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น แต่ด้านการสื่อสาร การทำงาน และทำธุรกรรมต่าง ๆ หรือแม้แต่การจับจ่ายใช้สอย หลายคนยังอาศัยใช้งานผ่านระบบออนไลน์เป็นหลักอยู่ เนื่องจากความสะดวกสบาย และรวดเร็วที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ จึงทำให้สมาร์ทโฟนยังคงมีบทบาทมาก เปรียบเสมือนกระเป๋าทำงาน หรือกระเป๋าสตางค์ที่ครบจบในเครื่องเดียว ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสมาร์ทโฟนที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีความคงทน และใช้งานได้นานมากกว่า 1 ปีขึ้นไป และต้องการฟีเจอร์ ฟังก์ชันที่เน้นตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ถึงล่างเติบโตอย่างเห็นได้ชัด” กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ ด้วยโจทย์ด้านความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่สอดคล้องกับแนวคิดของโนเกีย ในปีนี้ เอชเอ็มดี วางแผนส่งสมาร์ทโฟนระดับกลาง ถึงระดับล่างในตระกูล C และ G ซีรีส์ ลุยตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวไปแล้ว 2 รุ่น คือ Nokia C21 ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,990 บาท มั่นใจในความปลอดภัย มอบประสบการณ์ถ่ายภาพดียิ่งขึ้น ด้วยกล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล และ Nokia G21 มาพร้อมฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้าแม้ตอนใส่แมสก์ เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในยุคนิวนอร์มอล ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,490 บาท

รวมถึงน้องเล็ก Nokia C1 2edition(2022) ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ราคาเพียง 2,090 บาท เน้นตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจที่หลายครอบครัวต้องรัดเข็มขัด ด้วยสมาร์ทโฟนงบสบายกระเป๋า ราคาสมเหตุสมผล แต่ยังคงตอกย้ำ DNA ของ Nokia คือ “ทนทาน คุ้มค่า เน้นใช้งาน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Love it. Trust it. Keep it. ใส่ใจทุกรายละเอียด ผ่านขั้นตอนการผลิต และทดสอบที่ได้มาตรฐาน ด้วยวัสดุคุณภาพ มาตรฐานสแกนดิเนเวียน ให้ฟังก์ชันการใช้งานเกินราคา คงทน ใช้งานได้นาน ด้วยความอึดของแบตเตอรี่ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รองรับการอัปเกรดได้นาน 2 ปี มั่นใจในการปลอดภัยที่เชื่อถือได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม