สุดซึ้ง! กู้ภัยนำพ่อป่วยติดเตียง เข้าร่วมงานอุปสมบทลูกชาย

สุดประทับใจ กู้ภัยฯนำพ่อป่วยติดเตียง มาเข้าร่วมงานอุปสมบทลูกชาย จนพ่อที่มีอาการทรุดหนัก กินข้าวกินน้ำไม่ได้ ดีขึ้นเหมือนมีปาฏิหาริย์

วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพ บรรยากาศภายในงานอุปสมบทของ พระสิทธิชัย โพธิ์ทอง อายุ 39 ปี ที่วัดสันติธรรม ต.ประดู่งาม อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัย พ้งไล้16 ศรีเทพ ช่วยกันประคองเข็นเตียงพ่อพระ ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงมานานกว่า 30 ปี ไม่สามารถที่จะลุกหรือเดินได้ มาเข้าร่วมพิธีอุปสมบทลูกชายตัวเอง พร้อมกับระบุข้อความ ว่า”#สานต่อทุกความสุข ทางมูลนิธิขอเป็นส่วนหนึ่งของความสุขผู้ป่วยติดเตียง อุปสมบทลูกชาย สาธุ” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกโพสต์ออกไป ทำเอาชาวเน็ตพากันซึ้งใจ น้ำตาคลอเบ้า เข้ามากดไลค์ กดแชร์ และร่วมอนุโมทนาบุญ ในงานบวชครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก

ขณะที่นายณัฐชกิจนันท์ ยอดไสว เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เจ้าของโพสต์ เล่าว่า ตนได้รับคำร้องขอจากทางญาติ ให้ช่วยเคลื่อนย้ายคุณพ่อสดใส โพธิ์ทอง ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถลุกหรือเดินได้มานาน 30 ปี ไปร่วมงานบวชลูกชายที่วัดสันติธรรม ทางมูลนิธิฯ จึงได้นำรถไปรับคุณพ่อสดใสที่บ้าน พร้อมทั้งได้อาสาสลับกันเข็นเตียงคุณพ่อสดใส ร่วมในขบวนแห่นาครอบอุโบสถ พร้อมเคลื่อนย้ายเข้าโบสถ์ร่วมพิธีบวชลูกชายจนแล้วเสร็จ

จากภาพบรรยากาศงานบวชในวันนี้ ทำให้ตนรู้สึกประทับใจ อบอุ่น และซาบซึ้งใจมาก บ่งบอกถึงความรักบริสุทธิ์ ของพ่อแม่ที่มีให้กับลูก หลังจากแล้วเสร็จพิธีทางมูลนิธิฯ ก็ได้เคลื่อนย้ายคุณพ่อสดใส ขึ้นรถเพื่อไปส่งที่บ้าน ขณะเดียวกันพระสิทธิชัย ก็ได้เดินมาส่งและบอกกับโยมพ่อสดใส ว่าให้โยมพ่อรักษาตัวดีๆ กินไม่ได้ก็ให้ฝืนๆ กินหน่อยนะครับ ยิ่งทำให้ตนรู้สึกประทับใจเข้าไปอีก เมื่อส่งคุณพ่อสดใส เสร็จ ก่อนกลับตนจึงได้ขออนุญาตนำภาพ และเรื่องราวอันแสนอบอุ่นในวันนี้ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ต.ประดู่งาม อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายสดใส โพธิ์ทอง อายุ 60 ปี และนางบุญเรือน ยันไทสง อายุ 56 ปี พ่อแม่ของพระสิทธิชัย โดยคุณพ่อสดใส เล่าว่า เดิมตนเป็นช่างเดินท่อประปาอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์สายเหนือชนท้ายรถจักรยานยนต์ตนและเพื่อน ซึ่งเพื่อนเป็นคนขับเสียชีวิตทันที ส่วนตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไขสันหลังหัก ตั้งแต่นั้นร่างกายท่อนล่างก็ไม่มีความรู้สึกอีกเลยตลอด 30 ปี ซึ่งขณะนั้นพระสิทธิชัย เพิ่งจะอายุได้ 10 ขวบ เท่านั้น

ในวันที่พระสิทธิชัย เข้ามากราบและบอกว่า จะบวชให้พ่อนะ เพื่อให้บุญครั้งนี้ส่งผลให้พ่อมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น มีอายุที่ยืนยาว ทันทีที่ตนได้ยินทำให้ตนน้ำตาคลอ ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก และมีความสุขมากจริงๆ จากที่ก่อนหน้านี้ประมาณ 8-9วัน ตนกินข้าว กินข้าวไม่ได้เลย ต้องให้ออกซิเจน เมื่อวานและเช้าวันนี้ตนเริ่มมีอาการดีขึ้น เริ่มกินข้าวได้บ้างแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่คิดว่าชาตินี้ตนจะได้มีโอกาสไปร่วมงานบวชลูกชาย และได้เห็นชายผ้าเหลืองของลูกชาย ที่ผ่านมาลูกชาย ตั้งใจจะบวชหลายครั้งแล้วแต่ก็มีอุปสรรค มีเหตุขัดข้องมาตลอดจนลูกชาย อายุ 39 ปี ก็ยังไม่ได้บวช

และที่สำคัญเรื่องงานบวชครั้งนี้ลูกชายเป็นคนจัดการเองคนเดียวทั้งหมด ไปหาหลวงพ่อที่วัดเอง และติดต่อไปยังกู้ภัยฯ ให้มารับตนไปร่วมงานบวช ซึ่งตนมองว่าเป็นไปได้ยากและคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะต้องใช้คนใช้อุปกรณ์อะไรอีกหลายอย่าง แต่ทาง กู้ภัยฯ ก็นำตนไปร่วมงานบวชลูกชายได้สำเร็จ นาทีที่ตนเห็นชายผ้าเหลืองลูกชาย ตนมีความสุขมาก อยากเข้าไปสวมกอด และที่สำคัญทำให้ตนมีแรงสู้ที่จะอยู่ต่อไปให้ได้

ขณะที่ พระสิทธิชัย บอกว่า ที่ตัดสินใจบวชในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณบิดามารดาที่ได้เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนอาตมา มาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะตลอดระยะ 30 ปี ที่ตั้งแต่โยมพ่อเกิดอุบัติเหตุ เดินไม่ได้กลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง แต่โยมพ่อและโยมแม่ ก็ได้สอนเลี้ยงดูอาตมามาเป็นอย่างดี แต่มาในช่วงหลังๆนี้ ตนสังเกตว่าอาการโยมพ่อไม่ค่อยดี เจ็บหนักถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาล น้ำท่วมปอด เจาะปอดเอาน้ำออก ก็เอาออกได้แค่ข้างเดียว นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลได้ 2 วัน หมอบอกว่าโยมพ่อติดเชื้อไวรัสโควิด19 อาตมาคิดว่าโยมพ่อต้องจากไปแล้ว แต่โยมพ่อก็อดทนสู้ จนหายจากเชื้อไวรัสโควิด19 มาได้ จนหมออนุญาตให้โยมพ่อกลับบ้าน แต่อาการโยมพ่อก็ทรุดลงอีก กินอะไรไม่ได้หลายวัน ถึงขั้นต้องนอนให้ออกซิเจน ทำให้อาตมาเป็นทุกข์อย่างมาก อาตมาจึงได้ตัดสินใจบวช จึงได้ไปปรึกษาหลวงพ่อที่วัดสันติธรรมเพื่อขอบวชให้โยมพ่อ ซึ่งทางหลวงพ่อ ท่านก็เมตตาอนุญาตและช่วยเรื่องจัดงาน วันนี้อาตมารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ดีใจมาก ที่สีหน้าโยมพ่อดูสดใสขึ้นมาก และกินข้าวได้ จากเดิมที่กินอะไรไม่ได้เลย อาตมาจึงมีความตั้งใจว่าจะยังไม่สึก และไม่มีกำหนดสึก เพื่อให้บุญกุศลที่อาตมาครองตนอยู่ในผ้าเหลืองในครั้งนี้ จะช่วยต่ออายุไขให้กับโยมพ่อได้