รวบมิจฉาชีพเปิดบัญชีม้าแฝงตัวหลอกขายพระ รวมเสียหายกว่า 3 ล้าน

4 มิ.ย. 65

ตำรวจสอบสวนกลางรวบมิจฉาชีพเปิดบัญชีม้าแฝงตัวหลอกขายพระในกลุ่มเฟซบุ๊ก พบผู้เสียหายหลายราย รวมมูลค่ากว่า 3 ล้าน อ้างเปิดบัญชีให้คนรู้จักใช้

 

วันที่ 4 มิ.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ แล พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.อ.มนตรี สงคง รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ 1 กก.6 บก.ป. (ชป.ตรัง) ร่วมกันจับกุม นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับดังต่อไปนี้

 

  1. หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.136/2564 ลงวันที่ 31 มี.ค.2564 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
  2. หมายจับศาลแขวงดอนเมืองที่ 190/2564 ลงวันที่ 22 พ.ย.64 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
  3. หมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 326/2564 ลงวันที่ 9 ก.ค.64 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง, นำเข้าข้อมูล อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
  4. หมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 22/2564 ลงวันที่ 22 ม.ค.64 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
  5. หมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 154/2563 ลงวันที่ 23 ก.ย.63 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
  6. หมายจับศาลอาญาที่ 34/2565 ลงวันที่ 24 ม.ค.65 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”

 

สืบเนื่องจากได้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเช่าพระต่าง ๆ ในเฟซบุ๊ก แล้วได้โพสต์ประกาศให้เช่าพระภายในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจสั่งซื้อพระเครื่องดังกล่าวไป โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารชื่อ นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) แต่ภายหลังเมื่อโอนเงินแล้ว ผู้เสียหายกลับไม่ได้พระตามที่ได้ตกลงกันไว้ จึงเชื่อว่าผู้ขายคงไม่มีพระจริงและเป็นมิจฉาชีพที่ได้แฝงตัวเข้ามาหลอกลวง ผู้เสียหายตามท้องที่ต่าง ๆ จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท

 

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสุรชัยฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีข้างต้น ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ละแวก ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จว.ตรัง จึงได้เข้าติดตามจับกุม โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับทั้ง 6 หมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารให้กับคนรู้จักนำไปใช้งาน และเมื่อมีเงินโอนเข้ามาในบัญชีดังกล่าว ผู้ต้องหาก็จะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 500 - 1,000 บาท

 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตน ให้ผู้อื่นใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน อาจถูกนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริต เช่น รับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่นทุกประเภท หรือ นำไปใช้รับโอนเงินการพนันออนไลน์ ยาเสพติด เจ้าของบัญชีธนาคาร อาจถูกดำเนินคดีอาญาได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส