"บังแจ็ค" ขำ ๆ ถูกแฉแอบอ้าง ตร. ยันช่วยสอนภาษา แก๊งทนายหวั่นหลักฐานเท็จ (คลิป)

จากกรณีที่ "บังแจ็ค" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางอมรินทร์ทีวี ถึงประเด็นเรื่องมือถือของแตงโม ก่อนหน้านี้ตัวของบังแจ็คได้ระบุว่า อยู่แคลิฟอร์เนีย จากนั้นจะไปชิคาโก้ และไปนิวยอร์ก

ก่อนที่เพจ CSI LA ได้ออกมาเผยข้อมูลแย้งว่าบังแจ็คไม่ได้อยู่แคลิฟอร์เนีย อย่างที่กล่าวอ้าง แต่อยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และกำลังหลอกทุกคนอยู่ อีกทั้งมีคดีการข่มขืนเด็กด้วย นอกจากนี้ โซเชียลจับผิดมีภาพถ่ายบังแจ็คยืนคู่กับตำรวจคล้ายกับถูกจับกุมหรือไม่นั้น

วันที่ 29 พ.ค. 65 ราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค เปิดเผยถึงประเด็นแอบอ้างเป็นตำรวจสากล เรื่องนี้ตนเองปฏิเสธ ตนไม่เคยแอบอ้างภาพที่มีการถ่ายกับตำรวจ น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตนเองไปสอนภาพาอังกฤษให้ตำรวจ ไม่ได้แอบอ้าง แต่เพจเอาไปลงเอง

รวมไปถึงการที่เพจบอกว่าตนเองถูกจับเรื่องพาเด็กหญิงเข้าโรงแรม ตนเองก็ไม่เคยมีคดีพวกนี้ หากจะมีคดีที่ไทยก็เป็นเรื่องการหมิ่นประมาท ซึ่งเกิดหลังจากออกจากประเทศไทยมาแล้ว ตนอยากบอกเพจว่าให้เปิดหน้าออกมาหน้า อย่าเก่งแต่ใช้ในจอมืด ให้ลูกผู้ชายออกมาเปิดเผยตัวตน

ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความถึงคดีของแตงโม ระบุว่า " จุดยืนของผมในคดีแตงโม

1.ผมไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 ว่าแตงโม ฉี่ท้ายเรือ และตกเรือตาย
2.ผมไม่เชื่อแนวทางการสอบสวนทั้งหมด (เชื่อผลนิติเวช ในส่วนแตงโมจมน้ำตาย แต่ไม่เชื่อเรื่องบาดแผลที่ถูกใบพัดเรือ ซึ่งตอนแรกก็เชื่อนะ แต่พอตำรวจเอาภาพจาก เว็บไซด์ the sun มาอ้างตอนแถลงข่าว กับ ที่คุณอัจฉริยะเอาคลิปมาเปิด เห็นหมอนิติเวช ใช้มือ หมุนใบพัดเรือเพื่อให้เข้ากับบาดแผล ด้วยความเร็วที่หมุนด้วยมือเท่ากับเครื่องยนต์ (ประชด) เลยไม่เชื่อเลย
3.ไม่เชื่อว่าเป็นการฆาตรกรรม เพราะไม่มีมูลเหตุจูงใจ ในการวางแผนฆ่าแตงโม
4.ไม่เชื่อน้ำคำ บังแจ๊ก ว่ามีคลิปเห็นการฆาตรกรรมแตงโมบนฝั่ง ไม่ใช่ตายในน้ำ (ตามที่แม่พูด) เพราะมันขัดแย้งกับผลนิติวิทยาศาสตร์ ที่พบโคลนและน้ำในปอดของแตงโม
สำหรับบังแจ๊ก ผมไม่เชื่อเลย ให้ 0 %
5. ผมเชื่อว่า แตงโมตาย บนเรือ และตกน้ำตาย แต่ไม่ใช่อุบัติเหตุ สันนิษฐานว่า มีคนทำ อาจจะพลั้งมือ เล่นแรง หรือแกล้งทำ หรืออารมณ์ ชั่ววูบก็เป็นไปได้
แต่ผมไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้ เช่นกัน
6.ผมไม่ได้โต้แย้ง ในกรณีที่ทีมกฎหมายคุณแม่ จะฟ้องคนบนเรือ ในข้อหา ฆาผู้อื่นตาย และอยากให้ฟ้องโดยเร็วในเมื่อมีหลักฐานเด็ด เพื่อที่สังคมจะได้ไม่สับสน ฟ้องเถอะครับ โลกจะได้สงบ"

วันที่ 29 พ.ค. 65 ทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานและผลนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ตนเชื่อว่าแตงโมน่าจะเสียชีวิตในน้ำ เพราะในปอดของแตงโมมีทั้งโคลนและน้ำ แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการกระทำของบุคคล ไม่เชื่อว่าแตงโมตกน้ำตายเองเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ

ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์แตงโมที่บังแจ็คกล่าวอ้างนั้น ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ผลนิติวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจแถลงนั้น ตนก็ไม่ได้เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะแม้ตนจะเชื่อว่าแตงโมจมน้ำตาย แต่แผลบนร่างกายนั้นตนก็ไม่เชื่อว่ามันจะเกิดจากใบพัดเรือ เพราะในช่วงตำรวจแถลงข่าวนั้น ตำรวจได้มีการนำภาพของชาวต่างชาติมาอ้างอิงในคดีแตงโม ทั้งที่ภาพนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือเลย

ขณะเดียวกันตำรวจได้มีการนำคลิปจำลองการเกิดบาดแผลจากใบพัดเรือ แต่ใช้เป็นการจับตัวหุ่นหมุนไปกับใบพัด ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าแตงโมน่าจะเสียชีวิตจากการตกน้ำและอาจจะถูกบุคคลบนเรือกระทำ อาจจะเกิดจากการเล่นกัน หรืออารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็คงไม่ถึงกับวางแผนฆาตกรรมกัน

นายทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ข้อความระบุว่า "มีลูกเพจส่งมาถามว่า “แม่ส่งโทรศัพท์ไป บังแจ็คบอกว่าไม่ได้มีแค่โทรศัพท์แล้วโชว์กล่องใหญ่ อาจจะมีของใช้ส่วนตัวแตงโม ต่อมาบังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมา” แบบนี้จะน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้าแม่ส่งอย่างอื่นไปด้วยที่มีDNAแตงโม? คือคนถามๆว่าเกิดมีคนเอาdnaที่ส่งจากไทยไปป้ายในผ้าขาวที่อเมริกาแล้วส่งกลับมาตรวจ แบบนี้ใช้เป็นวัตถุพยานได้กี่%"

ด้านทนายรัชพล ศิริสาคร มีการโพสต์เช่นกัน เกี่ยวกับคดีของแตงโมว่า "ตายเพราะขาดอากาศหายใจ มีทรายในปอด แต่ตายบนบก ข้าพเจ้างง? #ขบวนการแอดเวนจี้"

นอกจากนี้ จากบทสัมภาษณ์ของเหล่าทนายความ ระบุถึงความน่าเชื่อถือของบังแจ็คที่อ้างว่ามีหลักฐานเด็ดของคดีแตงโม ต่างแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าไม่มีความน่าเชื่อ ประกอบกับบังแจ็คก็มีคดีความในช่วงที่ผ่านมาด้วย