น้ำมันแพง ผู้โดยสารลดฮวบจากโควิด เรือข้ามฟาก 8 ท่า ประกาศขอขึ้นราคาค่าโดยสารเที่ยวละ 50 สตางค์ เริ่มตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้
นายสุธีย์ สุภาพร ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมเรือไทย และผู้ให้บริการท่าเรือข้ามฟาก เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ เรือข้ามฟาก จำนวน 8 ท่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 50 สตางค์/เที่ยว หลังกรมเจ้าท่าอนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ตามที่ทางสมาคมร้องขอ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อน หลังจำนวนผู้โดยสารลดลงเหลือประมาณ 500 คน/วัน จากการระบาดของโรคโควิด โดยก่อนเกิดการระบาด บางท่าเรือมีผู้โดยสารวันละ 5,000-6,000 คน ประกอบกับช่วงปลายปี 2564 ราคาน้ำมันดีเซล พุ่งสูงต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันแตะที่ลิตรละ 32 บาทแล้ว ผู้ประกอบการไม่สามารถจะแบกรับภาระต้นทุนนี้ได้อีกต่อไป หากไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร
ทั้งนี้ ท่าเรือ 8 ท่า ที่ขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ได้แก่
• เรือข้ามฟาก เส้นทางท่าเรือบางศรีเมือง-ท่าน้ำนนทบุรี จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4 บาทต่อเที่ยว
• เส้นทางท่าเรือวัดระฆัง-ท่าเรือวังหลัง จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4 บาทต่อเที่ยว
• ท่าเรือท่ารถไฟ-ท่าพระจันทร์ จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4 บาทต่อเที่ยว
• ท่าเรือวังหลัง-ท่าพรานนก จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4 บาทต่อเที่ยว
• ท่าเรือท่าเตียน-วัดอุรณ จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 4 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4.50 บาทต่อเที่ยว
• ท่าราชวงศ์-ดินแดง จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4 บาทต่อเที่ยว
• ท่าสี่พระยา-ท่าเรือคลองสาน จากเดิมเก็บค่าโดยสาร 4.50 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 5 บาทต่อเที่ยว
• ท่าเรือโอเรียนเต็ล-ท่าเรือวัดสุวรรณ เดิมเก็บค่าโดย 4 บาทต่อเที่ยว จะเพิ่มเป็น 4.50 บาทต่อเที่ยว
อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดีเซลปรับราคาขึ้นเกินกว่าลิตรละ 35 บาท ผู้ประกอบการจำเป็นต้องหารือกับกรมเจ้าท่า เพื่อขอปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มอีกครั้ง ส่วนเรือคลองแสนแสบและเรือด่วนเจ้าพระยา กรมเจ้าท่าได้ขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารออกไปก่อน ทำให้ยังไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้
