อู่เรือนั่งไม่ติดยันเรือแตงโมไม่ถูกสลับต่างแค่มุมภาพ แซนแฉบังแจ็คตื๊อแต่ไม่ให้ค่า (คลิป)

วันที่ 22 พ.ค. 65 นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ เจ้าของอู่เรือ NBC BOAT CLUB ระบุว่า หลังจากที่โซเชียลของแตงโมมีการเคลื่อนไหว โดยมีการแชร์คลิปที่มีเจ้าของอู่เรือติดอยู่ไหนนั้น พร้อมกับรูปภาพเครื่องยนต์สีดำของเรือว่าใช่เครื่องยนต์ของเรือลำที่เกิดเหตุหรือไม่ ในระยะหลังมานี้ ตนไม่ได้ติดตามข่าวแตงโมสักเท่าไร เนื่องจากสังคมหลงประเด็นแล้วออกนอกประเด็นไปมาก

จากกรณีที่โซเชียลของแตงโมมีการเคลื่อนไหว แล้วมีการแชร์คลิปที่แตงโมถ่ายกระติกใส่ส้นสูงขณะจะเดินขึ้นเรือ ตนจำเหตุการณ์นั้นได้ ซึ่งขณะนั้นตนกำลังจับเรือให้เข้าชิดฝั่ง จากนั้นตนก็ได้พากระติกขึ้นเรือ ตามด้วยแตงโม โดยตนได้ให้ทั้ง 2 คนจับแขนเพื่อก้าวขึ้นเรือ เนื่องจากการเดินบนทุ่นลอยน้ำอาจจะไม่สะดวกสำหรับผู้หญิง เพราะผู้ชายขึ้นเรือกันไปก่อนแล้ว จากนั้นกระติกและแตงโมขึ้นเรือ เรือออกไปเติมน้ำมันแล้ววนกลับมารับแซน

ส่วนในประเด็นที่โซเชียลแชร์รูปเครื่องยนต์ของเรือ ตนแยกออกเป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 เป็นเครื่องยนต์ของเรือลำที่เกิดเหตุจริง เพราะเรือโคบอลต์ในประเทศไทย มีทั้งหมดเพียง 4 ลำ ซึ่งแต่ละลำนั้นคนละสี และเครื่องยนต์ก็ต่างยี่ห้อกันหมด ตนจึงยืนยันได้ว่าเรือและเครื่องยนต์ในรูปนั้นเป็นรูปของเรือลำที่เกิดเหตุจริง กรณีที่ 2 เป็นรูปของเรือโคบอลต์ต่างประเทศ แต่บังเอิญใช้เครื่องยนต์ยี่ห้อเดียวกันกับเรือลำที่เกิดเหตุ

แต่ตนคิดว่าน่าจะเป็นกรณีที่ 1 มากกว่า โดยตนอยากบอกกับสังคมให้สบายใจว่าไม่มีการเปลี่ยนเรือหรือเปลี่ยนเครื่องยนต์อย่างแน่นอน เพราะทำได้ยาก ต้องมีการเดินไฟหลายจุดและใช้เวลานาน ทั้งนี้ ตนพูดและให้สัมภาษณ์เหมือนเดิมทุกครั้ง ซึ่งตนเคยพูดไปหมดแล้ว โดยตนไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมจึงหยิบยกเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ยิ่งมีคนนำโซเชียลของแตงโมไปใช้ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คาดว่าที่ทำไปเพียงเพราะอยากปั่นกระแสบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่เรียกคนที่คอมเมนต์วนไปวนมาเกี่ยวกับแตงโมในโซเชียลว่าเป็นแฟนคลับ เพราะคนเหล่านั้นเหมือนถูกจ้างให้มาคอมเมนต์เพื่อปั่นกระแส เนื่องจากคนเหล่านี้คอมเมนต์วนไปวนมาคล้ายกับไม่เคยดูข่าวและไม่เคยติดตามข้อมูลมาก่อน ตนอยากให้สังคมรอกระบวนการยุติธรรม จะตรงใจหรือไม่ตรงใจ ก็ต้องยอมรับให้ได้

โดยเมื่อ วันที่ 21 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้เรียกตัวหลายบุคคลเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยเหลือเพียง 1.นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ซึ่งอัยการฯ ให้แจ้งข้อหาเพิ่ม ได้แก่ ข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 และ 2.นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ที่ยังไม่ได้เดินทางเข้ามายังสภ.เมืองนนทบุรี โดยแจ้งว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี จะเร่งทำสำนวนการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อส่งให้กับอัยการจังหวัดนนทบุรีให้ทันเวลาในการสั่งฟ้องตามกำหนด วันที่ 27 พ.ค. นี้

วันที่ 22 พ.ค. 65 เวลา 09.45 น. นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ พร้อมทนายความ เดินทางมายัง สภ.เมืองนนทบุรี ด้วยรถตู้สีดำ ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าตัวก็ได้เดินเข้าไปภายในสถานีตำรวจ โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ในประเด็นเกี่ยวกับการเดินทางมายังสถานีตำรวจในวันนี้ รวมถึงกรณีโซเชียลของนักแสดงสาวมีการเคลื่อนไหว โดยมีการโพสต์เนื้อความเกี่ยวกับคดี ในช่วงค่ำของเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ใช้เวลาในการให้ปากคำประมาณ 45 นาที จากนั้นเจ้าตัวก็ได้เดินทางกลับออกจาก สภ.เมืองนนทบุรีในทันที โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน แม้กระทั่งคำถามที่ว่าจะเดินทางไปร่วมพิธีฏาปนกิจของแตงโมหรือไม่

เวลา 11.30 น. นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรอนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ที่กำลังจะเดินทางมายัง สภ.เมืองนนทบุรี ในเวลาประมาณ 12.00 น. เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ได้ชี้แจงว่า นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียงแค่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวเท่านั้น

จากนั้นในเวลา 13.00 น. นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ก็ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนนทบุรี โดยสาเหตุที่เดินทางมาล่าช้า เนื่องจากได้เดินทางไปเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะขอเข้าให้ปากคำก่อน จากนั้นจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ใช้เวลาในการให้ปากคำประมาณ 30 นาที ซึ่งในเวลา 13.30 น. เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์พร้อมนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ บอกว่า ตนรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่ายเกี่ยวกับคดี สำหรับการเคลื่อนไหวของโซเชียลของแตงโม ตนไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร และไม่ทราบว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอะไร แต่ตนไม่กลัวการถูกพาดพิง แต่อาจจะพิจารณาฟ้องร้องภายหลัง โดยตนอยากให้อีกฝ่ายรีบนำรูปและคลิปออกมาเปิดเผย เพราะหากช้าจะยิ่งทำให้คดีดำเนินไปล่าช้า ส่วนบางรูปที่ถูกเปิดเผยมีรูปที่ตนนั่งท้ายเรือ ก็ยืนยันแล้วว่าท้ายเรือนั้นสามารถนั่งได้

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งเป็นวันพิธีฌาปนกิจของแตงโม ตนได้พูดคุยกับแม่ของแตงโมแล้ว ตนจะเดินทางไปร่วมงานอย่างแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าบุคคลบนเรือรายอื่นจะเดินทางไปร่วมด้วยหรือไม่

นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ บอกว่า วันนี้นายวิศาพัชได้เดินทางมารับทราบพฤติการณ์ของคดีตามที่อัยการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลบนเรือเพิ่มเติม แต่ข้อกล่าวหาของนายวิศาพัชยังเป็นข้อกล่าวหาเดิม ซึ่งนายวิศาพัชยังขอยืนยันและปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนการฟ้อง “จิน ธรรมวัฒนะ” สามีของ “หนิง ปณิตา” คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะมีการส่งหมายเรียกไป ซึ่งทางคดีไม่มีอะไรน่าหนักใจ เนื่องจากหลักฐานการหมิ่นประมาณค่อนข้างชัดเจน

จากนั้นนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน กับทนายความ ก็ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นของ “บังแจ็ค” ที่มีกระแสว่าอยู่เบื้องหลังโซเชียลของแตงโม และประเด็นเกี่ยว “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่มักจะพูดพาดพิงถึงตัวเองและกล่าวหาว่าตัวเองโกหก

แซน บอกว่า บังแจ็คได้ติดต่อตนมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน โดยอีกฝ่ายได้พยายามโทรและส่งข้อความมา แต่ตนไม่ได้ตอบกลับ ซึ่งตนไม่ทราบเจตนาของอีกฝ่าย แต่คาดว่าอีกฝ่ายน่าจะหิวแสง ส่วนในประเด็นของนายอัจฉริยะ “คุณลุงต้องการอะไรคะ หากคุณลุงอยู่บนเรือแล้วคุณลุงมีอารมณ์ทางเพศ คุณลุงจะฆ่าเพื่อนที่ไปด้วยกันบนเรือเพื่อสำเร็จความใคร่ไหม คิดง่าย ๆ ค่ะ หยุดเพ้อเจ้อ แซนเหนื่อยมากแล้ว พอเถอะ แซนไม่รู้คุณลุงมีเจตนาอะไร มันถึงเวลาพอได้แล้ว ไร้สาระ”

นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ บอกว่า อัยการจังหวัดนนทบุรีน่าจะสั่งฟ้องตามกำหนด ในวันที่ 27 พ.ค. นี้ จึงคาดว่าเรื่องทุกอย่างน่าจะจบลงได้ ส่วนประเด็นข่าวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเอกสารปลอมที่ส่งถึงอัยการ ตนไม่ขอออกความเห็น แต่คาดว่าน่าจะเป็นการป่วนขบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ แซน เปิดใจถึงกระแสการใช้มีดกรีดขาแตงโมแล้วจับโยนทิ้งน้ำว่า ไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ ตนคบหากับแตงโมมา 10 ปี หากมีคนทำร้ายเพื่อน ตนคงไม่ยอม และถ้าแตงโมโดนทำร้ายจริงตนคงตกใจตกน้ำไปด้วย การที่คนหรือสังคมกล่าวหาและคิดอะไรแบบนี้ได้ ถือว่าโหดร้ายมาก

“หน้าพวกเราดูไม่ศิวิไลซ์ขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนั้น คงต้องใจตกน้ำไปพร้อมกันแล้ว เห็นเลือดก็เป็นลมแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นตามที่คนเขาว่ากัน แบบนั้นมันหนังแล้ว นี่ชีวิตจริง ถ้ากรีด แซนคงตกใจตกเรือไปด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำกันได้ สังคมต้องลองคิดกันดูนิดนึง เพื่อนกันมา 10 ปี ยังไงก็ต้องช่วยเพื่อน ใครจะปล่อยให้ใครมากรีดขาเพื่อนเรา ไม่มีใครทำหรอกยุคนี้ โหดร้ายนะ คนที่เขาพูดกล่าวหากันแบบนี้ ไม่รู้ว่ามีปมอะไรถึงคิดแบบนี้ได้”