รักอลวน หนุ่มหนีตายถูกผัวข้างบ้านทืบ อ้างชอบจุ้นเมีย คดีพลิกชายรอด แต่สาวหายตัว (คลิป)

กรณีนางสาวดาว ได้ร้องเรียนว่านายวุฒิชัย คำแก้ว หรือ แมว อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นสามี ได้เปิดอู่ซ่อมรถอยู่อำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ถูกนายโก้ อดีตนายจ้างทำร้ายร่างกายเจ็บสาหัส จนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 18 พ.ค. 65 นายวุฒิชัยได้หายตัวไปอีกครั้ง คาดว่าน่าจะหายตัวไปพร้อมกัลนางสาวเพ็ญ ซึ่งนางสาวเพ็ญเป็นภรรยาของนายโก้ คาดว่าทั้งสองคนน่าจะหลบหนีไปด้วยกัน เพราะกลัวนายโก้จะหึงหวงแล้วมาทำร้ายนั้น

วันที่ 21 พ.ค. 65 นางสาวดาว ภรรยาของนายวุฒิชัย หรือ แมว เล่าว่า ตัวเองคบหากับนายวุฒิชัยได้ 3 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ กระทั่งต้นปี 65 ตัวเองและสามีเริ่มห่างกัน แต่ก็ยังไม่ได้เลิกรากันแต่อย่างใด เมื่อก่อนสามีอาศัยอยู่ จ.ภูเก็ต กับตัวเอง กระทั่งเดือนมกราคมสามีได้ขอมาเปิดอู่ซ่อมรถที่ จ.สุราษฎร์ธานี

ช่วงประมาณวันที่ 10 พ.ค. ตัวเองได้ยินข่าวมาว่านายวุฒิชัย สามีตัวเอง ได้ไปแอบมีความสนิทแบบมาก ๆ กับนางสาวเพ็ญ ซึ่งเป็นภรรยาของนายโก้ อดีตนายจ้างของสามี ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามนายวุฒิชัยถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งนายวุฒิชัย เขาได้บอกกับตัวเองว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาวเพ็ญ ตัวเองก็เชื่อใจสามี เพราะที่ผ่านมาสามีก็รักแต่ตัวเอง ไม่เคยมีนิสัยเจ้าชู้

กระทั่งเช้าวันที่ 17 พ.ค. 65 เจ้าของห้องเช่าได้โทรศัพท์มาบอกนายอรรณพ พี่ชายของนายวุฒิชัยว่านายวุฒิชัยได้ถูกทำร้ายร่างกายตั้งแต่คืนวันที่ 16 พ.ค. 65 ช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ค. นายอรรณพมาสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ที่โรงพยาบาลไชยาว่ามีเหตุน้องชายถูกทำร้ายร่างงกายมาแจ้งความ และมารักษาตัวหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 แห่งก็บอกว่าไม่มี

ต่อมาเวลา 18.14 น. ของวันที่ 17 พ.ค. 65 เข้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา ได้โทรศัพท์มาหาพี่ขายของสามี บอกว่าเจอตัวพี่ขายแล้ว ที่คูน้ำแห่งหนึ่ง ข้างวัดในพื้นที่ ซึ่งสามีตัวเองมีอาการบาดเจ็บสาหัส แล้วตำรวจก็ได้พาตัวสามีตัวเองส่งโรงพยาบาล เวลาประมาณ 19.00 น. พี่ขายของสามี ได้ไปที่โรงพยาบาล เพื่อจะดูอาการน้องชาย แต่ก็ไม่เจอตัวนายวุฒิชัยแต่อย่างใด ทราบจากเจ้าหน้าที่พยาบาลว่ามีนางสาวกั้ง (นามสมมติ) เจ้าของบ้านเช่า ได้มารับตัวนายวุฒิชัยกลับไปแล้ว

จากนั้นพี่ชายของสามีจึงตามไปที่บ้านนางสาวกั้ง ก็พบว่านายวุฒิชัย สามีตัวเอง ได้อยู่ที่นั่นจริง โดยสามีตัวเองมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายตามร่างกาย จากนั้นนายอรรนพ จึงตั้งใจจะพานายวุฒิชัยไปรักษาตัวต่อ แล้วในคืนวันที่ 17 พ.ค. เข้าสู่วันที่ 18 พ.ค. นายวุฒิชัย สามีตัวเอง ก็ได้หายตัวไป จนเช้าวันที่ 18 พ.ค. 65 นางสาวกั้ง เจ้าของบ้านเช่าได้มาบอกกับพี่ชายสามีว่านายวุฒิชัยด้หนีไปกับนางสาวเพ็ญแล้ว จากนั้นตัวเองจึงเดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต มาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจะติดตามหาตัวสามี เพราะไม่รู้ว่าสามีหายตัวไปไหน และกลัวสามีจะถูกอุ้มทำร้าย

ช่วงค่ำวันนี้ ทีมข่าวได้ไปที่บ้านของนายโก้ บอกกับทีมข่าวว่า ที่ผ่านมาตัวเองช่วยเหลือครอบครัวนายวุฒิชัยมาตลอด เพราะเห็นเขาเป็นเพื่อน เวลาเขาไม่มีข้าวกิน ตัวเองก็ให้ลูกชายขับรถตากฝน เอาข้าวไปให้เขาทาน ส่วนวันเกิดเหตุ นายวุฒิชัย และภรรยาตัวเองได้หายไปจากบ้าน ลูกชายตัวเองจึงวนรถหาทั้งคืน ก็ไม่เจอภรรยาตัวเอง เขากลัวว่าแม่เขาจะถูกนายวุฒิชัยพาไปทำร้ายร่างกาย เพราะนายวุฒิชัยเขาก็มีประวัติเรื่องยาเสพติด

กระทั้งนายวุฒิชัยกลับมาเขาก็ได้มีปากเสียงกับลูกชาย ตัวเองไปเจอว่าเขากำลังทำร้ายร่างกายลูกชายอยู่ จึงเข้าไปช่วยลูกชาย // และยืนยันว่าตัวเองไม่เคยคิดจะเผานั่งยางนายวุฒิชัยแต่อย่างใด คิดว่าฝั่งนายวุฒิชัยแต่งเรื่องขึ้นมา แค่เรื่องเมียมีคนอื่น ตัวเองไม่ถึงขั้นไปฆ่าใครขนาดนั้นหรอก ทำให้ติดคุกเสียเปล่า

ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปที่อ่อนนุช แขวง-เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตามข้อมูลที่ได้มาว่ นายวุฒิชัย และ น.ส.เพ็ญ หลบหนีมาอยู่ด้วยกันนายวุฒิชัย ก็ได้พาทีมข่าวเดินเข้าไปตรวจสอบภายในบริเวณห้องเช่าที่มาพักอาศัย ระหว่างหลบหนีรักษาบาดแผล เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าอาศัยอยู่เพียงคนเดียว โดยไม่ได้มี น.ส.เพ็ญ หลบซ่อนอยู่ด้วย

นายวุฒิชัย คำแก้ว อายุ 51 ปี ผู้บาดเจ็บ เผยว่า กรณีที่ตนถูกนายโก้และลูกชายทำร้าย ตนขอไม่รื้อฟื้นอะไรมาก เนื่องจากเป็นจริงตามคำที่ภรรยาของตนให้ข้อมูลกับทางทีมข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ตอนนี้ตนอยากชี้แจงกับทางทีมข่าวคือ ที่ตนหลบหนีออกจาก รพ. ขณะทำการพักรักษาตัว เป็นเพราะตนมีความกังวลเกรงว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ จึงขอให้เพื่อนที่รู้จักกันมารับตัวไปอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง ก่อนติดต่อกับเพื่อนที่รู้จักกันในกรุงเทพฯ แนะนำเดินทางเข้ามาซ้อนตัวที่ห้องเช่าเพื่อรักษาอาการ ยืนยันว่าตนมาคนเดียว

ทั้งนี้ ตนขอสาบานหรือจะพาตนไปสาบานที่ไหนก็ได้ว่าตนและ น.ส.เพ็ญ เป็นเพียงคนรู้จักที่สนิทกัน เนื่องจาก น.ส.เพ็ญและครอบครัว คอยช่วยเหลือตนเวลาเดือดร้อนเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยเชิงชู้สาว ซึ่งการที่นายโก้และลูกชายก่อเหตุทำร้ายตน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลทั่วบริเวณร่างกาย ยอมรับว่าแค้น แต่ น.ส.เพ็ญ เคยพูดขอตนไว้ว่าไม่อยากให้แจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเป็นห่วงเกรงว่าจะมีผลกระทบกับลูกชาย น.ส.เพ็ญ ตนจึงเกิดความเห็นใจ และเห็นแก่ที่ น.ส.เพ็ญ เคยช่วยเหลือตนไว้ยามเดือดร้อน

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ตนอยากบอกกับภรรยาของตนเหมือนที่เคยอธิบายให้ฟังไปแล้วว่า "ตนรักและยังเป็นคนสม่ำเสมอกับถรรยาเสมอ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน" ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอยากให้ภรรยาเชื่อใจ และเข้าใจตนมากที่สุด แต่ตอนนี้ที่ตนยังไม่เดินทางกลับไปหาภรรยา เนื่องจากมีความต้องการอยากจะรักษาตัวให้หายจากอาการบาดเจ็บก่อน เพราะเกรงว่าหากกลับไปหากถูกคู่กรณีตามมาทำร้ายซ้ำ ตนจะไม่สามารถหลบหนีได้

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสายไชยา-ชุมพร อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นห้องแถวของนายวุฒิชัย ผู้บาดเจ็บ พบว่าที่ด้านในห้อง มีข้าวของกระจัดกระจายเต็มห้อง เดินทางต่อมาอีก 300 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายวุฒิชัย ผู้บาดเจ็บ วิ่งหลบหนีนายโก้ ผู้ก่อเหตุ มาหลบในท่อน้ำไหล ที่คูน้ำหน้าวัดสวนโมกขพลาราม ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี คลิปวงจรปิดบันทึกวินาทีชาวบ้านมาเจอนายวุฒิชัยหลบซ่อนตัวอยู่ในท่อน้ำไหล กระทั่งมีการแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล