สาว 15 แจ้งจับพ่อขืนใจมาราธอน 44 ครั้ง แม่ไม่ห้าม พ่อแฉกลับกุเรื่องแค้นกีดกันรัก (คลิป)

กรณีผู้เสียหายเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 15 ปี ร้องเรียนมาทางอมรินทร์ ทีวี ระบุว่าถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนกระทำชำเรารวม 44 ครั้ง เข้าแจ้งความแล้วคดียังไม่คืบหน้า

น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี น้าผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่ 9 เม.ย. นายเอ (นามสมมติ) พี่เขยพา น.ส.ลูกแก้ว หลานสาว มาฝากไว้ที่บ้าน เพราะพี่สาวของตนซึ่งเป็นแม่ของลูกแก้วติดโควิด-19 ขณะนั้นก็สังเกตว่าหลานดูซึมไป จนวันที่ 11 เม.ย. นายเอมาเยี่ยมลูกแก้ว (นามสมมติ) และเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง ตนจึงสอบถามและคาดคั้น จนหลานเล่าให้ฟังว่าถูกนายเอ เป็นพ่อแท้ ๆ ข่มขืนหลายครั้ง ตนจึงพาหลานเข้าแจ้งความที่ สภ.พานทองทันที

ส่วนแม่ของน้องลูกแก้วทราบเรื่องแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะสามีตามง้อ และขอโอกาสในการดูแลครอบครัว โดยตนยืนยันจะเอาเรื่องพี่เขยให้ถึงที่สุด เพราะสงสารหลานสาวมาก ตอนนี้หลานมีอาการเศร้า ไม่ค่อยพูด อยากให้เรื่องทุกอย่างจบ หลานจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

ตนได้พูดคุยกับ น.ส.ลูกแก้ว เล่าว่าก่อนหน้านี้ตัวเองอาศัยอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัด จนอายุ 13 ปี ก็ย้ายมาอยู่กับพ่อแม่ และน้องสาววัย 4 ขวบ ที่ จ.ชลบุรี โดยเมื่อย้ายมาอยู่กับพ่อก็เริ่มถูกพ่อลวนลามด้วยการจับหน้าอกเป็นประจำ ในช่วงแรกตนไม่ค่อยรู้เรื่อง จนโตขึ้นเริ่มรู้ความก็บอกแม่ แต่แม่ก็เข้าข้างพ่อ กระทั่งวันที่ 15 ก.พ. ช่วงเช้า หลังจากแม่ออกไปทำงานในเวลา 06.00 น. ตัวเองอยู่บ้านกับพ่อและน้องสาว พ่อมาเคาะประตูห้องตนเสียงดังหลายครั้ง ตนเดินไปเปิดประตู หลังจากนั้นพ่อผลักตนขึ้นเตียงพร้อมบังคับให้ถอดกางเกง ก่อนจะจัดการใส่ถุงยางอนามัยให้ตัวเอง และเข้ามาข่มขืนตน มีการขู่ว่าห้ามไปบอกใคร ไม่งั้นจะฆ่าญาติให้หมด

หลังจากนั้น พ่อยังเข้ามาข่มขืนตนเป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ที่แม่หยุดงาน ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ถึง 6 เม.ย. 56 รวม 44 ครั้ง จากนั้นแม่ติดโควิด-19 ตัวเองจึงย้ายไปอยู่กับน้าสาวชั่วคราว จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้น้าฟัง น้าจึงพาเข้าแจ้งความ

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยนายเอ พ่อของ น.ส.ลูกแก้ว และเป็นผู้ถูกกล่าวหา ออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว ปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา ระบุว่า ลูกโกรธที่ตนกีดกันเรื่องความรักจึงทำแบบนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาลูกมีแฟนตั้งแต่อยู่ต่างจังหวัดกับตายาย แล้วตนห้ามไม่ให้คบกัน เพราะอยากให้ลูกตั้งใจเรียน แต่ลูกก็ยังไม่หยุด จึงย้ายลูกมาอยู่ด้วยกัน

หลังจากนั้น ช่วงที่ภรรยาตนติดโควิด แล้วนำลูกไปฝากบ้านน้า ลูกสาวไม่โทรศัพท์มาสอบถามข่าวคราวของแม่ ตนจึงไปหาลูกและต่อว่าเรื่องนี้ จนมีปากเสียงกัน ตนเกือบจะตีลูก ทำให้ลูกโกรธตน และอ้างว่าถูกตนข่มขืน หลังลูกเข้าแจ้งความทั้งตนและภรรยาเสียใจมาก ไม่คิดว่าลูกจะกล้าทำขนาดนี้

ด้านนายธีระพงษ์ พัฒนาชัยเจริญ ทนายความ ระบุว่า ตอนนี้ได้พาผู้เสียหายเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งรัดออกหมายจับผู้ก่อเหตุ เพราะทราบว่าอีกฝ่ายเป็นคนอารมณ์ร้อน เกรงว่าจะใช้อารมณ์กับคนในครอบครัวคนอื่น ๆ เคสนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่จากการสอบถามทางผู้เสียหายยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง ระบุว่า ส่วนคดีจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง และรอผลการตรวจร่างกายผู้เสียหาย จากนั้น จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป