กรณีเมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 16 พ.ค. 65 ร.ต.อ.สุธี ชูทิพย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณริมถนนกาญจนวนิช หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เขตเทศบาลเมืองเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะแต่งซิ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผธ 9925 สงขลา สภาพพังยับเยิน ด้านขวาชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าริมถนน ส่งผลให้นายสมภพ อุนธุระเลิศ คนขับเสียชีวิตคาที่ติดอยู่ในซากรถ สภาพศีรษะแหลกจากแรงกระแทก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมาโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ชื่อนายศิลา จันทรธรรมรงค์ อายุ 26 ปี เป็นคนหาของเก่า สภาพถูกชนกระเด็นอัดกับประตูร้านค้าเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.จิราพร บิลตาล อายุ 24 ปี เป็นผู้โดยสารนั่งข้างคนขับ อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งรักษา ที่ รพ.สงขลา แล้ว
ล่าสุด หลังจากเกิดเหตุได้ 2 วัน มีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ได้ลงข้อความว่า "ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ น้องช้างอยู่กับแม่บุญธรรมมาตั้งเเต่ อายุ1เดือน โดยที่เเม่แท้ๆขายน้องช้างให้กับแม่บุญธรรมนี่คือประวัติย่อๆ โดยที่แม่แท้ๆของน้องช้างไม่เคยใยดีเด็กคนนี้เลยพอมาเกิดเหตุการณ์ที่น้องต้องจบชีวิตเเม่แท้ๆต้องการผลประโยชน์ที่จะเอาศพน้องช้างไปทำตามความเป็นจริงต้องให้เเม่บุญธรรมที่เลี้ยงเขามาเป็นเวลา 26 ปี ทำศพไหมค่ะ สงสารน้องนะ หากผู้ใดจะช่วยเหลือครอบครัวน้องให้บริจาค..."
วันที่ 19 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านแม่บุญธรรมของนายศิลา หรือ ช้าง ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นบ้านเพิงพักชั้นเดียว โดยก่อนหน้านี้นายศิลา ก็ได้อาศัยอยู่กับแม่บุญธรรมเพียง 2 คน นางเหรียม ทองเงิน อายุ 51 ปี แม่บุญธรรมของนายศิลา ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตัวเองเป็นแม่บุญธรรมของนายศิลา เลี้ยงนายศิลามาตั้งแต่อายุ 1 เดือน จนกระทั่งเขาอายุ 26 ปี แล้วมาเสียชีวิต
โดยเมื่อ 26 ปี ที่ผ่านมา ตัวเองทำงานก่อสร้าง แล้วรู้จักกับนางประดับ จันทรธรรมรงค์ แม่แท้ ๆ ของนายศิลา โดยตอนนั้นตัวเองเห็นความเป็นอยู่ของนายศิลาค่อนข้างลำบาก จึงเกิดความสงสาร แล้วขอเอานายศิลามาเลี้ยง ซึ่งตอนนั้นอายุได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น แล้วตัวเองก็ให้เงินกับนางประดับเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย หรือที่เรียกว่าค่าน้ำนม จำนวน 5,000 บาท ตอนที่ตัวเองเอานายศิลามาเลี้ยงเป็นลูกนั้น ด้วยความเชื่อใจกันกับฝั่งแม่แท้ ๆ ตัวเองจึงไม่ได้เซ็นหนังสือโอนกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด
ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองก็ส่งเสียนายศิลาเรียนถึง ป.2 แต่เขาก็ขอออกจากโรงเรียน และมาช่วยตัวเองทำงาน เก็บของเก่าขาย โดยนายศิลาเป็นเด็กที่ดี กตัญญู และเป็นเสาหลักหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด เพราะในชีวิตมีกันแค่ 2 คนแม่ลูก ตัวเองป่วยเป็นโรคหืดหอบ วันไหนไม่สบาย เขาก็จะพาตัวเองไปหาหมอ
กระทั่งก่อนจะเกิดเหตุ ช่วงค่ำวันที่ 16 พ.ค. 65 ลูกชายขอไปเก็บขยะที่เมืองหาดใหญ่ วันนั้นตัวเองก็เหมือนเป็นลางสังหรณ์ เพราะเห็นใบหน้าของลูกชายมีลักษณะดำคล้ำผิดปกติ ตัวเองเตือนลูกชายแล้วว่าไม่ต้องไปทำงานเก็บขยะ เพราะมันดึกแล้ว เดี๋ยวเกิดอันตราย กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. กว่าของวันดังกล่าว ตัวเองถึงมาทราบข่าวว่าลูกชายถูกรถกระบะขับมาชนเสียชีวิต
หลังจากลูกชายเสียชีวิต ตัวเองก็ไม่มีอำนาจในการที่จะเอาศพลูกชายมาประกิบพิธีทางศาสนา เนื่องจากนางประดับ แม่แท้ ๆ ของลูกชาย ได้ใช้สิทธิ์ตามกฏหมายแล้วนำศพลูกชายตัวเองไปจัด ซึ่งต่อมาชาวบ้านในหมู่บ้านเขาเห็นว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ในศพลูกชาย อีกทั้งตัวเองก็ขาดเสาหลักไปแล้วนั้น ชาวบ้านจึงขอเลขบัญชีธนาคารกับตัวเอง แล้วโพสต์เปิดรับบริจาค สำหรับตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเงินบริจาคตอนนี้ยอดได้เท่าไร เพราะยังไม่ได้ไปเช็กกับทางธนาคาร สำหรับเงินบริจาคดังกล่าวตัวเองจะนำไปใช้จ่าย 2 ส่วน คือส่วนแรกจะเอาไว้ใช้ในการทำบุญ 100 วันให้ลูกชาย ส่วนที่สองจะเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลของตัวเอง ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ชาวบ้านเขาสงสารตัวเอง ตัวเองก็คิดว่าแม่แท้ ๆ ของลูกชาย เขาคงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาว่าต่อตัวเอง
ด้านนางสาวประดับ จันทรธรรมรงค์ อายุ 55 ปี แม่แท้ ๆ ของนายศิลา ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สำหรับนายศิลา เขาเป็นลูกชายแท้ ๆของตัวเอง ซึ่งพอเขาเดินได้ตอนนั้นตัวเองจำไม่ได้ว่าลูกอายุกี่ขวบ กระทั่งตัวเองได้ไปทำงานกับนางเหรียม นางเหรียมจึงมาขอนายศิลาลูกชายตัวเองไปเลี้ยง ตัวเองจึงยกลูกชายให้นางเหรียมไปเลี้ยง แต่ก็ไม่ได้เซ็นกรรมสิทธิ์ให้เขาแต่อย่างใด
ซึ่งนางเหรียมก็เลี้ยงลูกชายตัวเองตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 26 ปี แล้วมาเสียชีวิต แต่ที่ผ่านมานายศิลา ลูกชายตัวเอง ก็ไปมาหาสู่กับตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเขาก็รับรู้ว่าตัวเองเป็นแม่แท้ ๆ ตัวเองขอยืนยันต่อหน้าพระเลยว่าตัวเองไม่ได้ขายลูกชายให้นางเหรียมแต่อย่างใด ซึ่งตอนที่นางเหรียมเอาเงินให้ตัวเองนั้น เขาก็ให้แค่หลักร้อยเท่านั้น เพื่อให้ตัวเองซื้อกิน ไม่ได้เป็นค่าซื้อลูกแต่อย่างใด ซึ่งพอลูกชายตัวเองเสียชีวิตไป ตัวเองก็มีสิทธิตามกฎหมายในการที่จะดำเนินการเรื่องงานศพ
โดยทางฝั่งตัวเองก็เปิดรับบริจาคเหมือนกัน เนื่องจากหลังลูกชายเสียชีวิต ตัวเองไม่มีเงินจัดงานศพ ทางด้านน้องสาวจึงได้เปิดรับบริจาคตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ได้ไปปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว ได้เงินบริจาคมา 40,900 บาท เงินจำนวนดังกล่าวนี้ ตัวเองก็จะเอาไปใช้จ่ายในงานศพของลูกชาย ส่วนฝั่งของนางเหรียม แม่บุญธรรมของลูกชายนั้นถ้าเขาจะเปิดรับบริจาค ตัวเองก็ไม่ติดใจ และไม่ขอยุ่งเกี่ยวเงินส่วนนั้น เพราะอยู่ที่สิทธิของชาวบ้านที่จะโอนเงินบริจาคให้กับนางเหรียม
แต่ตัวเองไม่พอใจตรงที่ญาติฝั่งแม่บุญธรรม เขาได้โพสต์ว่าตัวเองไปเอาศพลูกชายมาประกอบพิธีแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ทำให้ตัวเองเสียหาย ตัวเองก็ยืนยันคำเดิมว่าตัวเองมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการเอาลูกชายมาประกอบพิธีทางศาสนา ถึงแม้ว่าฝั่งนั้น เขาจะเลี้ยงดูแต่เด็กแล้วก็ตาม ส่วนทางด้านกระบะคู่กรณีที่ขับรถชนลูกชายนั้น ตัวเองก็ไม่ได้รับการเยียวยาจากเขา เนื่องจากตำรวจบอกว่าคู่กรณีที่เป็นคนขับรถกระบะเขาไม่มีญาติ
