หลานเปลือยคลั่งยาจับย่าหัวโขกพื้นตาย แถมกระทืบศพ ญาติหยั่งรู้ทำนายถูกจุดจบ (คลิป)

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 65 นายปิยะณัฐ หรือ พัตเตอร์ บุตรตะคาม อายุ 22 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุทำร้ายย่าของตัวเองวัย 80 ปี จนเสียชีวิตกลางถนน ในหมู่บ้าน ต่อหน้าเพื่อนบ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสามีของย่า สาเหตุเพราะคลั่งยาบ้ามานานเหตุ

ที่เกิดเหตุ หน่วยกู้ชีพดอนอะรางกำลังให้การปั๊มหัวใจ นางคำตั๋น บุตรตะคาม อายุ 80 ปี ซึ่งนอนหายใจรวยริน อยู่ภายในชายคาบ้าน ในสภาพบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลท่วมใบหน้า ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองกี่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้นตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายปิยะณัฐ บุตรตะคาม หรือ พัตเตอร์ อายุ 22 ปี ในสภาพใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว พูดจาวกไปวนมา จึงนำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.หนองกี่

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยัง สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อจะไปสอบถามกับนายปิยะณัฐ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เมื่อไปถึง นายปิยะณัฐ ยังคงถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมเซ็นเอกสาร และไม่ยอมให้ตำรวจตรวจปัสสาวะ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหากับ นายปิยะณัฐ ทำร้ายบุพการีจนถึงแก่ชีวิต ส่วนเรื่องของข้อหายาเสพติด ต้องรอการตรวจปัสสาวะ ก่อนนำตัวไปฝากขัง ในวันพรุ่งนี้

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านที่เป็นจุดเกิดเหตุ ญาติได้รับศพของ นางคำตั๋น บุตรตะคาม อายุ 80 ปี มาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน บรรยากาศในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติและชาวบ้านมาร่วมพิธี

นายจันทร์ บุตรตะคาม อายุ 79 ปี สามีผู้ตาย และเป็นปู่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ในช่วง 07.00 น. นายปิยะณัฐ หลานชายที่เป็นคนก่อเหตุ เดินเข้าบ้านมาขอเงินไป 300 บาท โดยไม่ได้บอกว่าจะเอาเงินไปทำอะไร พอตนเองให้เงินไป หลานก็หายไปทั้งวัน จากนั้นประมาณเที่ยงกว่า ตนกับภรรยาได้นั่งกินข้าวกันอยู่ในบ้าน หลานก็ขี่รถเข้ามาในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้า ด้วยความที่เป็นห่วงหลาน ก็เลยดุด่าว่ากล่าวไปเล็กน้อยว่าทำไมมึงไม่ใส่เสื้อผ้า ไม่อายชาวบ้านบ้างหรือไง หลานก็ไม่ตอบ แล้วก็เดินไปหยิบกางเกงมาถือไว้ เดินวนไปวนมาอยู่ในบ้าน

พอตนเองอิ่มข้าว ก็เลยเดินเอาจานไปเก็บหลังบ้าน ส่วนภรรยายังกินต่อ กระทั่งหลานได้เดินปรี่เข้าไปจิกหัวภรรยา บีบคอ แล้วก็ลากออกไปนอกบ้าน ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงได้แค่ตะโกนว่า ”อย่าทำอะไรย่าเลย มันบาปกรรรม” แต่หลานไม่ได้สนใจ จับหัวภรรยาของตนกระโขกกับถนนคอนกรีตหลายครั้ง ทำให้ภรรยานอนแน่นิ่งไป

จนกระทั่งตนเองทนไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปห้ามแต่ถูกสะบัดออก แล้วหลานก็พยายามจะหันมาทำร้ายตน จึงวิ่งหนีเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้าน ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ได้แต่มองภาพหลานตัวเอง กระทืบร่างภรรยา แล้วจิกหัวลากไปลากมา ก่อนจะลงมือกระทืบซ้ำแบบไม่ยั้ง ตนยอมรับว่าเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงตอนนี้ยังรับไม่ได้ เพราะมันรุนแรงเกินไป อยากให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด โดยจะไม่ไปประกันตัว หรือให้ความช่วยเหลือใด ๆ กับหลานคนนี้อีก ยืนยันจะไม่อโหสิกรรมเด็ดขาด

นางกนกวรรณ อินทรีย์ อายุ 55 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต มีศักดิ์เป็นป้าผู้ก่อเหตุ บอกว่า ที่ผ่านมาหลานเคยก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน ติดคุกมาแล้ว 4 ครั้ง เรื่องยาเสพติด ก่อนหน้านี้เคยจี้เอาเงินในปั๊มน้ำมันของตัวเอง แต่โชคดีมีลูกค้ามาช่วยไว้ได้ทัน

ที่ผ่านมาหรือกว่า 8 ปีที่ผ่านมา หลังจากหลานมีอาการคลั่งเป็นระยะ ญาติ ๆ ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันคอยระวังตัวเคยคุยกันว่า ”ถ้ามันไม่ตาย อาจจะมีคนครอบครัวนายสักคตาย” ไม่คิดว่าจะเป็นแม่ของตัวเองที่เคราะห์ร้าย

ด้านนายสมพร ทองเหลืองพล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุมีชาวบ้านโทรไปแจ้งให้มาระงับเหตุ หลานทำร้ายย่าตัวเอง ด้วยความตกใจจึงขับรถไปดู ปรากฎว่าพอไปถึงก็เห็นนายปิยะณัฐ กำลังเหยียบคอนางคำตั๋น อยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว ด้วยความเป็นห่วงนางคำตั๋น ก็เลยใจดีสู้เสือเข้าไปดึงตัวนายปิยะณัฐออก แล้วก็ขอร้องให้นายปิยะณัฐปล่อยนางคำตั๋น แต่นายปิยะณัฐ ก็ไม่ยอมปล่อย

ด้วยความที่เห็นนางคำตั๋นหายใจโรยรินแล้ว ตนเองจึงพยายามดึงแขนให้เท้าที่นายปิยะณัฐเหยียบคอนางคำตั๋นหลุดออก จนนายปิยะณัฐโมโหหันมาต่อยตนเองหลายครั้ง พอตนเองสู้ไม่ไห วก็วิ่งหนีไปล้มชนเสาบ้านจนคิ้วแตก ยอมรับว่าเสียใจมากที่ช่วยนางคำตั๋น ไม่ได้