โอละพ่อ เจ้าบ่าวถูกปืนจี้ที่แท้หนีซุกหญิงม่าย แม่สุดช้ำตบดังโบ๊ะ แค้นบูชาเมีย (คลิป)

กรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนและร้องขอความช่วยเหลือจาก นางสาวธาราวดี ศรีมณี อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมครอบครัวให้ช่วยเหลือพี่ชายนายปัญญาวุฒิ ศรีมณี อายุ 37 ปี ถูกชายฉกรรจ์ ขับรถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์-ทอง ไม่ทราบทะเบียน ขับรถมาจอดหน้าบ้าน

จากนั้นมี 1 ใน 4 ชายที่นั่งมาในรถลงมาจากรถ พร้อมอาวุธปืนเดินเข้ามาล็อกคอพี่ชาย แล้วลากขึ้นยนต์กระบะ ก่อนพี่สาววิ่งตาม แต่คนขับรถพยายามถอยหลังชน จนล้มลงได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลถลอกตรงมือและหัวเข่า ก่อนคนร้ายขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตามเส้นทางลำสินต์-ต้นไทร ในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมนั้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้คลิปวงจรปิด มาจากตรงข้ามบ้านของนายปัญญาวุฒิ ผู้เสียหาย เวลา 11.18.17 น. รถกระบะของร้ายขับตามถนนผ่านหน้าบ้านของนายปัญญาวุฒิ

จากนั้นก็ได้ขับพ้นกล้องไป แล้วไปจอดอุ้มนายปัญญาวุฒิ เวลา 11.18.30 น. ได้ยินเสียงนางสาวณัฐยา ศรีมณี พี่สาวของนายปัญญาวุฒิ ตะโกนร้องใส่คนร้าย คนร้ายเร่งเครื่องแล้วขับรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว นางสาวณัฐยา วิ่งมาขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม

คลิปวงจรปิดอีกมุม วินาทีคนรถกระบะขับหลบหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุ เวลา 11.05 เห็นรถกระบะขับออกจากจุดเกิดเหตุ ผ่านบ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่รถจะขับออกพื้นที่ไป

วันที่ 17 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ม.5 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง จุดเกิดเหตุเป็นถนนหน้าบ้านของผู้สูญหาย สำหรับจุดเกิดเหตุ เป็นบริเวณถนนหน้าบ้านของนายปัญญาวุฒิ ผู้สูญหาย

นางศศิวรรณ ศรีมณี อายุ 56 ปี แม่ของนายปัญญาวุฒิ เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันนี้ครอบครัวตัวเอง ก็ได้เดินทางไปที่บ้านของนางสาวแอม แฟนของลูกชาย แต่ตัวเองไม่ได้ไป เพราะมีความสงสัยว่านางสาวแอม น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกชาย กระทั่งพอไปถึงล้านนางสาวแอม ไม่พบนางสาวแอมอยู่ที่บ้าน พบแต่พ่อนางสาวแอม บอกแค่ว่าลูกชายตัวเองปลอดภัย และคืนนี้จะให้ลูกชายตัวเองโทรมาหาตัวเอง ตอนนี้ตัวเองก็ติดต่อลูกชาย และนางสาวแอมไม่ได้ ไม่รู้ลูกชายจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ตัวเองพาลูกชายไปตกลงเรื่องสินสอดกับครอบครัวฝ่ายหญิง ที่บ้านของฝ่ายหญิง ครอบครัวฝ่ายหญิงเรียกสินสอดจากฝั่งตัวเองจำนวน 30,000 บาท และทองคำสองสลึง ตัวเองจึงต่อลองลงมาเหลือ 20,000 บาท ซึ่งฝั่งเจ้าสาวเขาก็บอกเอาตามนั้น กระทั่งวันที่ 4 พ.ค. 65 เจ้าสาวได้โทรศัพท์มาหาตัวเองบอกว่า ขอสินสอดเป็น 30,000 บาท จากนั้นตัวเองก็บอกว่าขอจบแค่นี้ และขอล้มเลิกงานแต่ง ไม่ให้ลูกชายตัวเองมาแต่งกับนางสาวแอม ต่อมาวันที่ 9 พ.ค. 65 ลูกชายตัวเองได้กลับจากบ้านนางสาวแอม และมาอยู่ที่บ้าน กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว

ตอนนี้ตัวเองก็เป็นห่วงลูกชาย อยากเจอลูกชาย ไม่รู้ลูกชายจะเป็นอยู่อย่างไร ตัวเองก็อยากฝากถึงฝ่ายหญิง ให้เอาลูกชายตัวเองมาคืน แค่เรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาอุ้มลูกชายตัวเองไปด้วย หลังจากนี้ถ้าเขาไม่เอาลูกชายมาคืน ตัวเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด

นางสาวณัฐยา ศรีมณี อายุ 37 พี่สาวคนหายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 11.17 น. ก่อนเกิดเหตุตัวเองนั้งอยู่ที่เก้าอี้หน้าบ้าน ส่วนนายปัญญาวุฒิ น้องชาย ได้ยืนถ่ายรูปเซลฟี่บริเวณถนนหน้าบ้านจุดเกิดเหตุ น้องชายตัวเองยืนหันหลังให้ถนน ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็สังเกตว่าน้องชายมีสีหน้าเครียด

จากนั้นรถกระบะของผู้ก่อเหตุ ได้ขับมาจอดดเลนซ้ายมีชายฉกรรจ์ 1 คน ลงมาจากรถ สวมเสื้อสีเทา กางเกงขายาว วิ่งเข้ามาล็อกคอน้องชายตัวเอง จากนั้นตัวเองได้ยินเสียงน้องชายบอกว่า "ช่วยด้วย ๆ" และตัวเองรีบวิ่งจากหน้าบ้าน กระโดดไปยังถนนเพื่อจะไปช่วยน้องชายให้รถกระบะคันดังกล่าวหยุดรถ แต่ชายฉกรรจ์ก็ได้ล็อกคอน้องชาย เข้าไปที่เบาะคนขับ ถอยรถมาชนตัวเองจนได้รับบาดเจ็บที่ขา ส่วนนางสาวธาราวดี น้องสาวตัวเองอีกคนก็พยายามจะเปิดประตูฝั่งคนขับ เพื่อช่วยนายปัญญาวุฒิ แต่คนร้ายเขาก็ไม่จอดรถ และขับรถมุ่งหน้าหมู่ 10 ต.บ้านนา อ.ศรีนครรินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถไปออก จ.ตรัง ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ตัวเองก็คาดว่าคนร้ายน่าจะมากันประมาณ 4 คน

กรณีที่นายปัญญาวุฒิ น้องชายตัวเองถูกคนร้ายอุ้มครั้งนี้ ทางครอบครัวตั้งปมไว้ 2 ประเด็น คือสงสัยแฟนสาวของนายปัญญาวุฒิ และปัญหาเรื่องยาเสพติด สำหรับปมเรื่องแฟนสาวของนายปัญญาวุฒินั้น นายปัญญาวุฒิคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อนางสาวแอม ชาวอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง ได้ประมาณ 5 ปี กระทั่งทั้งสองฝ่ายตกลงจะแต่งงานกันวันที่ 13 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา แต่งานแต่งก็ล่ม เนื่องจากฝ่ายหญิงเขาอยากได้สินสอดเป็นเงินสด 30,000 บาท และสร้อยทอง 2 สลึง แต่แม่ตัวเองก็ได้ขอลดค่าสินสอด และตกลงกันที่ 20,000 บาท ซึ่งตอนแรกทางครอบครัวฝ่ายหญิงเขาก็ตกลง แต่หลังจากนั้นมาเขากลับคำ อยากได้ 30,000 บาท เหมือนเดิม แม่ตัวเองจึงยกเลิกงานแต่ง แล้วพาน้องชายกลับบ้าน

และอีกหนึ่งสาเหตุหนึ่ง ตัวเองก็คาดว่าน้าจะมาจากปัญหาเรื่องยาเสพติด เมื่อเช้าวันนี้ตัวเองได้เกินทางไปยังบ้านของนางสาวแอม แฟนสาวของน้องชาย แต่ก็ไม่เจอ เจอแต่พ่อของนางสาวแอม ซึ่งพ่อของนางสาวแอมก็บอกว่าลูกสาวของเขาเป็นคนที่อุ้มนายปัญญาวุฒิ น้องชายตัวเองไปจริง แต่เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พ่อของนางสาวแอมก็บอกว่า "ตอนนี้นายปัญญาวุฒิยังไม่ตายหรอก" ตัวเองมองว่า ถ้านางสาวแอม ขาอุ้มน้องชายตัวเองไปจริง เขาทำเกินกว่าเหตุมาก เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจของครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ที่ไห้อยู่ตลอดเวลา

เวลา 17.00 น. นางสาวแอม และนายปัญญาวุฒิ ได้เดินทางมาที่ สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมข่าวได้สอบถามนางสาวแอม และนายปัญญาวุฒิว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องอะไร เกี่ยวกับการอุ้มฝ่ายชายไหม นางสาวแอมก็บอกว่า "เรารักกันค่ะ" ส่วนนายปัญญาวุฒิก็บอกว่าไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด แล้วตอนเกิดเหตุก็ไม่ได้ตกใจ นางสาวแอมบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่แบบนั้น ไม่ได้เป็นการอุ้มตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ นางสาวแอม และนายปัญญาวุฒิ ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากสอบปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ให้พ่อและแม่ของนายปัญญาวุฒิ เข้าไปพูดคุยกับนายปัญญาวุฒิและนางสาวแอมในห้องสอบสวน ซึ่งมีการพูดคุยกับประมาณ 5 นาที

หลังจากนางศศิวรรณ ศรีมณี อายุ 56 ปี แม่ของนายปัญญาวุฒิ เข้าไปพูดคุยกับลูกชาย และนางสาวแอมแล้วนั้น ให้สัมภาษณ์ว่า จากการที่ไปคุยกับลูกชาย เขาก็ยืนยันยันเขาจะไม่กลับบ้านไปกับแม่แล้ว เขาจะไปอยู่กับฝ่ายหญิง ตอนนี้ลูกชายไม่เห็นหัวผู้เป็นแม่แล้ว

ตนคุยกับลูกตัวเองก็บอกให้ลูกชายยืนขึ้น ตัวเองจะกราบเท้าลูกชายเอง ตัวเองเจ็บขนาดไหนที่เบ่งลูกชายออกมา แต่พอลูกชายออกมาแล้ว ทำไมเขาถึงมาพูดอย่างนี้กับตัวเอง ส่วนนางสาวแอม เขาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับตัวเอง เขาบอกแค่ "พอ พอ พอ" คำเดียวเท่านั้น พูดเพื่อให้ตัวเองหยุดพูด

ตัวเองไม่โอเคเลยที่ลูกชายทำอย่างนี้กับตัวเอง ตัวเองอยากบอกลูกชายว่าถ้าตัวเองตายไป ก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน ตอนนี้ตัวเองเสียใจอย่างแรง ที่ลูกชายเห็นผู้หญิงดีกว่าคนที่อุ้มท้องเขามา

เวลา 18.40 น. หลังสอบปากคำนายปัญญาวุฒิและนางสาวแอมเสร็จ ซึ่งฝ่ายชายก็บอกกับเจ้าหน้าที่ และครอบครัวว่าขอกลับไปอยู่กับฝ่ายหญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวทั้งคู่ขึ้นรถเพื่อจะไปส่งที่บ้าน ระหว่างพาตัวนางสาวแอมและนายปัญญาวุฒิออกมานั้น ทีมข่าวก็ได้สอบถามทั้งคู่อีกครั้งว่าเหตุที่เกิดขึ้น มาจากเรื่องอะไร แต่ทั้งคู่ก็ไม่ตอบคำถามทีมข่าว ทั้งยังปัดไมค์หนี

ซึ่งระหว่างนางสาวแอมและนายปัญญาวุฒิเปิดประตูขึ้นรถ พ่อและนางสาวณัฐยา น้องสาว ได้ใช้กำปั้นเข้าไปทุบหัวนายปัญญาวุฒิ 3 หมัด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบปิดประตูรถ และขับออกไปจากโรงพักทันที