อัยการนนท์เดือดมือดีส่งสำนวนชี้นำคดีแตงโมถึงบ้าน เดชาลั่นไม่ให้ค่าหลักฐานโซเชียลฯจวกหยุดจุ้น (คลิป)

คืบหน้ากรณีแตงโม ล่าสุด เฟซบุ๊กส่วนตัวของหมอธวัชชัย มีการลงเนื้อหาในพร้อมกับมีการลงคลิปในขณะที่มีการใช้มีดพก ในการกรีดเนื้อหมูก้อนใหญ่ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า ลักษณะบาดแผลของเนื้อหมูสามารถสร้างได้

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม ในฐานะทนายฝั่งของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า การที่มีบุคลากรทางการแพทย์ หรือมีหมอออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของเขา เพราะไม่ว่าจะมีการทดสอบหรือการจำลอง หรือแม้แต่การนำเนื้อหมูมาวิเคราะห์แล้วโพสต์ลงในพื้นที่ส่วนตัวหรือโซเชียลมีเดีย ก็เป็นการตอบข้อสงสัยสำหรับกระแสสังคมหรือทางโซเชียลมีเดียเท่านั้น

ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้มีการถูกระบุหรือเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี และแม้ว่าจะมีการกล่าวถึงมีด ที่อ้างว่าเป็นมีดพกอาจจะใช้สำหรับการก่อเหตุในคดีของนางสาวแตงโมนั้น ส่วนตัวในฐานะทนายความที่เห็นสำนวนคดี ภายในสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งให้กับอัยการนนทบุรี ไม่มีประเด็นเรื่องของมีดตามที่มีการตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด และไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเด็นมีดหรือที่เปิดขวดไวน์ ก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายทำให้สังคมเข้าใจผิด หรืออาจจะเป็นการหาคำตอบในฐานะนักสืบโซเชียลมีเดีย และสุดท้ายก็อาจจะเกิดเป็นคดีความที่พนักงานสอบสวนอาจมีการฟ้องดำเนินคดีภายหลัง

ในการกระทำของหมอธวัชชัย หรือแม้แต่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ นายอัจฉริยะ และส.ส.เต้ ทั้งหมดถ้าหากจะมีการทำงานเพื่อตอบข้อสงสัยโซเชียลมีเดีย ก็ควรที่จะตั้งตัวว่าเป็นพนักงานสอบสวนโซเชียลมีเดีย แล้วให้มีการตั้งศาลโซเชียลมีเดียขึ้นมาด้วย จะได้มีการพิจารณาให้คดีเป็นไปในทิศทางใดทางหนึ่ง เพราะคนพวกนี้ก็ทำหน้าที่ไม่ต่างจากพนักงานสอบสวนโซเชียลมีเดีย และให้หมอธวัชชัย หรือหมอพรทิพย์ เป็นแพทย์ชันสูตรโซเชียลมีเดีย สุดท้ายก็ให้ร่วมกันตัดสินภายในศาลโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการนำบันทึกซึ่งเป็นข้อความบางอย่างที่อาจเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับคดีของนางสาวแตงโม โดยแม่ของนางสาวแตงโมได้มีการนำมาเปิดเผยสื่อในช่วงแรกที่เริ่มเป็นข่าว และถูกจับผิดเกี่ยวกับข้อความที่ปรากฏอยู่บนเอกสารดังกล่าว คือ “K2” ที่อาจเป็นยี่ห้อหรือรุ่นของมีดพกนั้น ทนายเดชาบอกว่า ตนเองไม่ได้เห็นบันทึกดังกล่าวเพราะช่วงแรกมีทนายอีกคนเป็นคนรับดำเนินการ แต่มาเห็นภายหลังแล้วก็เชื่อว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสำนวนคดี เพราะยืนยันก่อนหน้านี้แล้วว่าทั้งมีดและที่เปิดขวดไวน์ไม่ได้เกี่ยวข้อง ฉะนั้นก็เป็นการตีความและนำมาจับโยงกันเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักอัยการนนทบุรี ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงกรณีที่มีเอกสารซึ่งเป็นการชี้นำเกี่ยวกับคดี ที่สังคมกำลังจับตามองและตนรับผิดชอบอยู่ ซึ่งถูกส่งมาที่บ้านพักเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65

นางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65 ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ลูกชายได้โทรมาบอกกับตนว่ามีเอกสารมาส่งที่บ้าน จ่าหน้าถึงชื่อตน แต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้ส่ง โดยใส่อยู่ภายในกล่องจดหมายหน้าบ้าน ซึ่งเป็นซองเอกสารจำนวน 1 ซอง ค่อนข้างหนา

ตอนแรกตนคิดว่าเป็นเอกสารจำพวกแผ่นโฆษณา ซึ่งจะมีเอกสารพวกนี้ส่งมาที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ต่อมาตนจึงได้เปิดซองเอกสารดังกล่าว พบว่าในซองเอกสารมีเอกสารถึง 22 ฉบับ จากการอ่านเอกสารดังกล่าวก็พบสิ่งผิดปกติภายในเอกสาร ทั้งตราสัญลักษณ์ ทั้งรายละเอียดต่าๆ ๆ เนื่องจากตนทำงานเป็นอัยการมาหลายปี จึงรู้ได้ในทันทีว่าเอกสารทั้งหมดนั้นเป็นเอกสารที่ผิดกฎหมาย

ลักษณะเหมือนการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และภายในเอกสารมีรายละเอียดเนื้อหาเป็นการชี้นำเกี่ยวข้องในคดีสำคัญที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบ โดยที่ทั้งหมดเป็นเอกสารที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานศาลยุติธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องคำฟ้องต่าง ๆ ซึ่งตนจับพิรุธได้ทันที เนื่องจากว่าลักษณะชื่อตราประทับ รวมทั้งข้อความที่ลงไว้ในเอกสาร ไม่ใช่ศัพท์หรือข้อความทางกฎหมายที่ทนายความหรืออัยการใช้กัน

น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนอยู่ที่ทำงานก็เป็นพนักงานอัยการ ทำหน้าที่และปฏิบัตหน้าที่ตามปกติ แต่เมื่ออยู่บ้านตนเป็นประชาชนคนธรรมดา เป็นแม่คนหนึ่ง มีชีวิตส่วนตัวเหมือนคนอื่นทั่วไป แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ การทำแบบนี้มันล้ำเส้นเกินไป ที่สำคัญเข้ามาวุ่นวายถึงที่บ้านตรงนี้ ถือเป็นบ้านพักส่วนตัว แล้วการที่ส่งเอกสารมาถึงที่บ้าน ได้แสดงว่าจะต้องมีคนภายในบอกข้อมูลให้ เพราะข้อมูลที่อยู่เป็นข้อมูลส่วนตัว ถ้าหากใช้วิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตนไม่เคยกลัว แต่จะกลัวก็ต่อเมื่อจะเลือกใช้วิธีที่ผิดกฎหมายเรื่องเอกสาร หากจะต้องการยื่นเอกสารอะไรก็สามารถไปยื่นให้ตนได้ที่สำนักงานอัยการได้

เบื้องต้น ได้เข้าแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.ฉัตรราชย์ สังข์พระกร รองสว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว

ด้านเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท" โพสต์ข้อความระบุว่า "...คดีน้องแตงโม. ...ด้วยความเคารพ. ...หากในชั้นอัยการมีการสอบเพิ่มเติมได้ว่า บาดแผลที่ขาน้องแตงโมเกิดจากมีดหรือของมีคมโดยเรียกบุคคลที่เป็นกลางมาให้ความเห็น รับรองคดีพลิกจากคดีประมาทเป็นเจตนาทำร้ายหรือเจตนาฆ่าอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอนครับ... ...ส่วนแรงจูงใจ คือ เมา ครับ... ( 4 กฎ 6 หลัก ที่ผมร่ำเรียนมา ครับ )"

"...สมัยก่อน ผมก็มีมีดพับขนาดเล็กใช้เปิดขวดไวน์. (ดูคลิปเอาเองว่าเป็นของใครที่อยู่บนเรือ) ...กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ครับ..."

ล่าสุด เมื่อเข้าไปดูในอินสตาแกรม @melonp.official ของแตงโม ปรากฏว่าได้ถูกเปลี่ยนสถานให้เป็น "Remembering" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายถึงอินสตาแกรมนี้จะเป็นที่จดจำ หลังจากที่เจ้าของได้จากไปแล้ว เพื่อให้คนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ได้รำลึกถึงผู้ที่จากไป

"เบิร์ด เทคนิค" ก็ได้แจ้งข่าวดีแท็กแตงโมผ่านไอจีสตอรี่ ด้วยโพสต์ของ "แอนนา" หนึ่งในเพื่อนรักของแตงโม ที่ได้รับแมวของแตงโมไปเลี้ยง และได้โพสต์รูปของแบมบี้ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชั่นว่า "คุณแม่แพ้ท้องกินแล้วนอนอย่างเดียวช่วงนี้" และลงโพสต์รูปรถ แคปชั่นว่า นอนไม่หลับ