หนุ่มซิ่งกระบะหลับใน รับผิดเฉี่ยวคนเก็บขยะ เจรจาเหยื่อเรียก 5 หมื่น ขอต่อเหลือ 500 อ้างไม่มีเงิน (คลิป)

15 พ.ค. 65

จากกรณีเพจอีซ้อขยี่ข่าวโพสต์ภาพและข้อความลงเพจเฟชบุ๊ก ระบุว่า หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายกำลังยืนเก็บขยะอยู่ริมถนน เกิดมีรถกระบะคันนึงพุ่งเข้ามาชน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางคนขับรถกระบะยอมรับว่าตัวเองหลับใน

847722

อุบัติเหตุครั้งนี้พนักงานเก็บขยะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นตรวจพบว่ามีเลือดออกในสมอง กระดูกขาหักต้องใส่เหล็ก ทางคู่กรณีชดเชยค่าเสียหายให้ 500 บาท ที่ได้รับมามาจากประกันภัย ส่วนค่าทำขวัญเป็นคำพูดของคู่กรณีที่บอกกับคนในครอบครัวว่า "ดีแค่ไหน ที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมาทัน เพราะถ้าไม่หักหลบอาจมีคนต้องตายในหน้าที่" แต่ซ้ำร้ายกว่านั้นทางเทศบาลอ้างว่า "ปกติแล้วก็ไม่เคยชดเชยให้อยู่แล้ว" มีแค่เงินเดือนที่จ่ายให้ เรื่องราวของคนเก็บขยะกับเสาหลักที่มีลูกเล็กอีก 3 คนที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ฝากสื่อและพี่ๆ นักข่าวช่วยด้วยค่ะ

148647

ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากในปั๊มน้ำมันใกล้จุดเกิดเหตุ เวลา 05.35 น. รถเก็บขยะของเทศบาลบางเลนคันสีเหลือง ขับผ่านมาอย่างช้า เพราะต้องชะลอเพื่อเก็บขยะ ผ่านไปสักพักจะเห็นรถกระบะสีน้ำเงินเข้มมีตู้ทึบสีเงินขับผ่านไปด้วยความเร็ว

มุมซ้ายของกล้องตัวนี้ จะเห็นหัวรถขนขยะค่อย ๆ เคลื่อนตัว จากนี้มีรถกระบะคันสีน้ำเงินมีตู้ทึบขับมาเชี่ยวชนท้ายรถขนขยะอย่างแรง ทำให้นายสมศักดิ์กระเด็นออกมาจากท้ายรถหัวฟาดพื้น ขาหัก โดยมีภรรยาและพนักเก็บขยะด้วยกันลงมาช่วย และโทรเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

190963

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ภรรยาของผู้บาดเจ็บมาชี้จุดเกิดเหตุ ที่ขณะสามีกำลังขึ้นรถขนขยะ จังหวะนั้นรถกระบะพิกอัปใส่ตู้ทึบขนส่งของ ก็ขับมาด้วยความเร็วเชี่ยวชน จนสามีกระเด็นไปยังกลางถนน ในสภาพหมอสติ

หลังจากนั้น พาทีมข่าวไปดูสามีที่ได้รับบาดเจ็บ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้าน นายสมศักดิ์ มงคลแท้ อยู่ในสภาพขาขวาหักแผลยาวทั้งหน้าแข้ง และบริเวณศีรษะด้านขวามีแผลเล็กน้อย แต่สามารถพูดคุยได้ปกติ

107724

นางประภัสสร มานิตย์คำ ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าเหตุการณ์ว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 05.30 น. เป็นช่วงที่ตนและสามีกำลังเก็บขยะในถังขึ้นรถขยะเป็นถังสุดท้าย รถกำลังจะออก แล้วสามีก็กระโดดขึ้นรถ จากนั้นก็มีกระบะเป็นมีตู้ทึบขับมาอย่างเร็วเฉี่ยวเข้า ที่บริเวณท้ายรถด้านขวา ซึ่งจุดที่สามีเกาะรถอยู่ จากนั้นสามีก็กระเด็นล่วงลงไปนอนกับพื้น แล้วหมดสติไป ตนตกใจมากวิ่งเข้าไปดูสามี คิดว่าเขาจะเสียชีวิตแล้ว เพราะรถชนแรงมาก โดยพบว่าหัวของสามีฟาดพื้น หัวปูด ขาขวาหัก จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล

ในตอนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้หนีไปไหน เดินมายกมือไหว้ขอโทษ ยอมรับกับตนว่า ขับรถหลับใน และโชคดีที่จังหวะนั้น ตื่นขึ้นมาจึงหักหลบทัน เฉี่ยวชนรถขยะทางด้านขวา ทำให้รถของตนเองด้านซ้าย ซึ่งคิดว่าโชคดีดีนะที่ไม่ชนรถเก็บขยะทั้งคันไม่งั้นอาจจะทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้

ที่ต้องนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ ผ่านโซเชียลมีเดียก็เพราะว่าอยากให้ได้รับการช่วยเหลือ เบื้องต้นคู่กรณีไม่ได้หลบหนีไปไหน ให้ประกันภัยทำการชดใช้ค่าเสียหายค่ารักษาพยาบาล แต่ตนยังไม่ได้รับสินไหมทดแทนจากประกันหรือคู่กรณีเลย ตอนนี้จึงต้องใช้เงิน ที่เหลืออยู่ที่บ้าน พาแฟนไปโรงพยาบาล ซื้ออาหาร แพมเพิสและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งก็กลายเป็นภาระ ที่ทางครอบครัวต้องแบกรับ ทั้งที่สามีก็ออกไปทำงานไม่ได้แล้ว

ส่วนทางเทศบาล รับจ้างเก็บขยะได้เดือนละ 10,000 บาท ก็ยังโชคดีที่สามีบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ จึงยังได้รับเงินเดือนระหว่างที่พักฟื้น นอกนั้น ก็ไม่มีใครออกมาช่วยเหลือใด ๆ เลยแม้แต่คู่กรณีเองก็ยังไม่มีการจ่ายค่าสินไหม ค่าตกใจ หรือมาเยี่ยมสามีตนเลย โดยตนได้เรียกเงินกับคู่กรณีไปสัปดาห์ละ 1,400 บาทเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปหาหมอ และซื้ออาหารการกิน อุปกรณ์บางอย่างที่ต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วย แต่ปรากฏว่าคู่กรณีก็บอกว่าเขาไม่มีเงิน เพราะว่าต้องใช้เงินรักษาเมียที่ป่วยเป็นมะเร็ง แล้วก็เอาบิลค่ารักษาภรรยาให้พวกตนดู เพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะต้องเดือดร้อนเหมือนกัน จึงนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ต่อสื่อเพื่อต้องการให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งออกมาช่วยเหลือ เพราะตนก็มีลูก 3 คน และมีหลานอีก 1 คนที่ต้องดูแล แถมยังต้องดูแลสามีที่ป่วยขาหักเดินไม่ได้อีก

454545

นายจิรภาส ไพรวงศ์ อายุ 46 ปี ยอมรับว่า ในวันที่เกิดเหตุกำลังขับรถไปส่งของเกิดหลับใน วูบไปช่วงหนึ่ง พอตื่นมองเห็นรถขนขยะของเทศบาลออยู่หน้ารถแล้ว จึงพยายามหักหลบ แต่รถก็ยังเชี่ยวชนรถขนขยะ และชนพี่พนักงานตกจากรถ จากนั้นจึงพยายามนำรถจอดข้างถนน แล้ววิ่งไปดูผู้บาดเจ็บ พอเห็นพี่เขานอนนิ่งก็ตกใจมาก กลัวและยกมือไหว้ขอโทษจากใจจริง ยอมรับกับเขาว่าหลับใน

นายจิรภาส บอกว่ายอมรับผิดทุกอย่างตามกฎหมาย โดยการเยียวยาให้เป็นหน้าที่ของประกันรถยนต์ ส่วนตนไม่ได้มีเงินมากมาย หาเช้ากินค่ำ โดยตนก็มีภาระดูแลแฟนป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ไม่มีเงินก้อนจะให้เขาจริง ๆ หรืออาจจะขอผ่อนให้เขา ตอนนี้ถูกตัดเงินจากบริษัท และเปลี่ยนจากพนักงานขับรถเป็นพนักงานขนของแทน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส