อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำเอาเจ้าของรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวแทบทรุด หลังกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์โจรแสบ ขโมยรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเข็นไปไกลหลายกิโลเมตร ก่อนนำรถเข็นไปซุกไว้ในซอย ชาวบ้านเห็นคนร้าชาย 2 หญิง 1 ช่วยกันนำรถเข็นขึ้นรถกระบะก่อนขับหนีไป
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 12 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเจ้าของรถเข็นก๋วยเตี๋ยวว่ามีคนร้ายก่อเหตุขโมยรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวที่จอดอยู่ริมถนนเทพารักษ์ หน้าหมู่บ้านเฟื่องฟ้าวิลล่า 16 เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.18 น.
คลิปกล้องวงจรปิดปรากฏภายชาย 1 คน สวมชุดดำใช้ผ้าคลุมหัวเพื่ออำพรางใบหน้า ก่อเหตุขโมยรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวของผู้เสียหายโดยคนร้ายเข็นรถไปไกลเกือบ 3 กิโลเมตร แล้วนำรถเข็นไปจอดแอบไว้ ก่อนที่ช่วงเช้าผู้ก่อเหตุจะนำรถกระบะมาขนไป
ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดขณะที่ทางผู้ก่อเหตุได้เดินผ่านหน้าร้านวัสดุก่อสร้าง ตอนแรกจะเป็นลักษณะคล้ายผู้หญิง สวมชุดสีดำ ผ่านมาสักระยะคล้ายว่าทางคนก่อเหตุได้ถอดชุดสีดำออก ช่วงหนึ่งที่กง้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ เห็นว่าลักษณะคนดังกล่าวคล้ายกับถอดวิกผมยาว แล้วเก็บไว้ภายในรถเข็น ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดข้างของแล้วเดินต่อไป
วันที่ 13 พ.ค. 65 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าปากซอยหมู่บ้านเฟื่องฟ้าวิลล่า 16 เขตเทพารักษ์ นายกรวิทย์ เจริญสุข อายุ 31 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว เล่าเหตุการณ์ว่าย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ 12 พ.ค. 65 ประมาณช่วง 07.00 น. เจ้าของบ้านที่ตนเช่าที่อยู่โทร.มาสอบถามว่าไม่ขายก๋วยเตี๋ยวแล้วเหรอ เห็นรถเข็นไม่อยู่ ตนและแฟนสาวก็เลยรีบออกมาดู กลับพบว่าโซ่ที่ผูกรถกับเสาไว้โดนตัด ขณะที่รถเข็นก็หายไป ตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น
ก่อนที่ตนและทางแฟนสาวจะกลับมาดูกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาประมาณตี 3.15 น. พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำ ใส่แมสก์ ได้เข้ามาตัดโซ่ที่ผูกอยู่กับเสาไฟหน้าร้าน ก่อนจะทำการเข็นรถขายก๋วยเตี๋ยวออกไปจากจุดดังกล่าว มุ่งหน้าไปทางถนนเทพารักษ์ ก่อนที่ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าทางผู้ก่อเหตุเองเข็นรถคันดังกล่าวไปจอดอีกจุดอับแห่งหนึ่งข้างทาง ก่อนที่จะขนขึ้นรถกระบะหายไป ใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 2 นาที ก่อนจะเข็นรถจากจุดที่ขโมยไปยังจุดที่เอาไปแอบใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทรัพย์ที่ติดไปกับรถเข็นนั้นก็มีมูลค่าประมาณ 5,000 บาท พวกพัดลม วัตถุดิบน้ำซุป เส้น เครื่องปรุง ลำโพง เป็นต้น ส่วนคนร้ายคาดว่าเขาเองคงมาดูลาดเลาประมาณ 1-2 วัน เพราะใช้เวลาในการก่อเหตุแป๊บเดียว หนำซ้ำอาจจะแกล้งทำทีมาใช้บริการก็ได้ ก่อนหน้าที่จะมาขโมย
นายกรวิทย์ บอกว่า ส่วนตัวเพิ่งเริ่มขายก๋วยเตี๋ยวได้เพียง 1 เดือน 12 วัน หลังจากแต่ก่อนตนจะออกไปทำงานต่างจังหวัดเป็นประจำ อยากจะหาอาชีพเสริมให้แฟนสาว ยอมเอาเงินเก็บที่มีอยู่ประมาณ 40,000 กว่าบาท ซื้อรถเข็นมือหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์มูลค่า 20,000 กว่าบาท ส่วนตัวก็ตกใจไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งที่ตั้งใจจะตั้งหลักกับแฟนสาว ถามว่าตนเองอยากจะฝากบอกอะไรกับคนก่อเหตุหรือไม่ ก็ไม่อยากจะฝากบอกอะไร แต่ตนอยากฝากวอนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า ให้ช่วยจับกุมคนที่ก่อเหตุให้เร็วที่สุด ตนจะเอาเรื่องที่สุด จะเอาทั้งของที่หายไปคืนมา และจะดำเนินคดีกับคนที่ขโมยไป เพราะตอนนี้ตนเองเดือดร้อนค่อนข้างหนัก ขาดรายได้ไปตกวันละ 2,000-3,000 บาท อีกทั้งตนยังต้องส่งค่างวดรถเข็นด้วย ประมาณ 10,000 กว่าบาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ขณะที่ค่าเช่าที่นั้น ทางเจ้าของเองก็เห็นใจ และไม่เก็บค่าเช่าที่ในช่วงนี้
นางอมรา สมสมัคร"อายุ 57 ปี เจ้าของร้านส้มตำ เล่าว่า ประมาณช่วงตี 3 ครึ่ง ตนเห็นชายแก่คนหนึ่งเข็นรถก๋วยเตี๋ยวคันดังกล่างผ่านหน้าร้าน ขณะที่ตนกำลังจัดข้างของภายในร้าน ก่อนที่จะเห็นว่าชายคนดังกล่าวเอารถเข็นไปจอดไว้บริเวณมุมอับข้างร้านของตนห่างไปประมาณ 50 เมตร จุดดังกล่าวปกติจะเป็นที่จอดรถ หลังจากนั้นตนเองก็ได้ออกไปตลาดเพื่อไปชื้อวัตถุดิบ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตนก็กลับมาที่ร้านหลังจากที่ไปจ่ายตลาด ก็ยังเห็นรถเข็นคันเดิมจอดทิ้งไว้ในจุดดังกล่าว แต่ไม่มีคนเฝ้า
ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น. ก็มีรถกระบะ 2 ประตูสีขาว มีรั้วเหล็กกั้นด้านหลัง ขับมาจอดที่รถเข็นคันดังกล่าว ตนด้วยความอยากรู้ก็เลยเดินไปสอบถาม กลับพบว่าเจอกับผู้ขาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน ที่มาพร้อมรถกระบะลักษณผู้ชายกับผู้หญิงเหมือนแฟนกัน ขณะที่ผู้ชายที่เหลืออีกคนหน้าตาค่อนข้างดี ผิวขาว ย้อมผมสีทอง ไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับคนที่เข็นมาเมื่อข่วงเช้าที่ตนเห็น ตนเลยสอบถามว่าจะเอารถเข็นไปไหน เจ้าตัวก็บอกว่าจะมาเซ็งร้านก๋วยเตี๋ยวแถวนี้ต่อ มาจากพระประเเดง เขาชวนคุยต่อว่าแล้วแถวนี้ขายของดีไหม ตนเองก็บอกไปว่าค่อนข้างยาก จะขายได้บางช่วง ทางอีกฝ่ายก็เออออกับตน กระทั่งผ่านไปสักพักเขาเองก็บอกว่างั้นเดียวไปหาทำเลอื่นดีกว่า ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะช่วยกันยกรถเข็นคันดังกล่าวขึ้นกระบะและขับหายไป
หลังจากนั้นทางผู้เสียหายก็เดินทางมา และพบว่าทางคนก่อเหตุทิ้งผ้าคลุมรถไว้ที่จุดใกล้ร้านตน เลยมีการสอบถาม จนได้รู้ความจริง ในส่วนของใบหน้าคนก่อเหตุ เขาใส่เเมสก์เลยทำให้ไม่เห็นหน้าชัดเจน แต่ไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน