จากกรณี หมอปลา บุกไปวัดป่าดงสว่างธรรม จ.ยโสธร หลังได้รับร้องเรียนว่ามีพระเกจิดัง อายุเกือบ 100 ปี มีพฤติกรรมลวนลามผู้หญิง จับหน้าอก จับอวัยวะเพศ อ้างว่าสามารถรักษาโรคได้ พร้อมเผยคลิปพระเกจิดัง คือหลวงปู่แสง กำลังแตะเนื้อต้องตัวสีกาภายในกุฏิ ขณะสีกากำลังก้มกราบ โดยมีพระเลขาฯที่คอยดูแล พร้อมลูกศิษย์ชายอีก 2 คน แต่กลับไม่มีใครเตือนหรือห้ามหลวงปู่แสงเลย
เฟซบุ๊ก "ดาวแปดแฉก" โพสต์ข้อความตั้งคำถามว่า "#หลวงปู่อายุ100กว่าพรรษา80เพิ่นเฒ่าแล้วเด้สู..เพิ่นลุกนั่งเองบ่ได่จำไผกะบ่ได่ เพิ่นบ่เล่นขี้กะบุญแล้ว(หมอปลา vs หลวงปู่แสง) กรณีสื่อพาดหัวจับนมล้วงจิ๋ม #หลวงปู่สิมีแฮงยกแขนจกได่ติจิ๋มนั้น..จะจับหลวงปู่สึกว่าส้านนน..คือเก่งแถะสู "จากคลิปให้ลูกสาวเข้าไป แม่เป็นคนถ่าย"เมื่อเราเป็นพุทธศาสนิกชน ศิษย์พระกัมมัฏฐานสายป่า รู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น #ดาวแปดแฉก"
เฟซบุ๊ก "ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา" ระบุข้อความว่า “ กฎแห่งกรรม ยุติธรรมที่สุด “ “ บุญและบาป ไม่มีวันลืมเจ้าของ ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น “ “ พ่อแม่ครูบาอาจารย์อายุตั้ง ๑๐๐ ปี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาทั้งชีวิต “ ลูกศิษย์ลูกหาก็อยู่กันเยอะแยะมากมาย ทำไมไม่ช่วยกันดูแลครูบาอาจารย์ให้ดี ปล่อยให้โยมผู้หญิงขึ้นไปบนอาสน์สงฆ์ ไปใกล้ชิดพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้อย่างไร ดูในคลิปท่านก็เมตตาเคาะหัวให้ ยังบอกให้เข้าไปใกล้อีก ..ท่านก็เป่าหัวให้ เหมือนจงใจอัดคลิป และยังบอกให้เข้าไปใกล้ๆอีก ก็ไปหาว่าท่านลวนลามจับนม การถ่ายคลิปก็เหมือนตั้งใจถ่าย หรือ จะมีการแบล็คเมล์อะไรหรือเปล่า พระที่ชี้แจ้งก็น่าจะดูแลครูบาอาจารย์ที่อาพาธให้ดี ไม่ใช่ปล่อยป่ะละเลยให้โยมผู้หญิงไปใกล้ชิดท่านขนาดนั้น
…พระผู้เฒ่า อายุตั้ง ๑๐๐ ปี พรรษายุกาลก็มากโข ทำไมทำกับท่านได้ขนาดนี้ ขนาดเดิน หลวงปู่ท่านยังเดินไม่ได้เลย..
#ดีไม่ดีหลวงปู่ท่านอาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ลองคิดดูว่าเป็นปู่ ย่า ตา ยายของเราซิ อายุ ๑๐๐ ปีขึ้น ท่านจะจำได้มั้ยว่า เมื่อวานท่านทำอะไร วันนี้กินข้าวหรือยัง ฯลฯ
#ผมสังเวชใจยิ่งนัก _ คงจะเป็นวิบากของหลวงปู่ตั้งแต่อดีตชาติ_ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย ขนาดพระโมคคัลลานะอัครสาวกเบื้องซ้ายยังหนี้ไม่พ้นกฎแห่งกรรม เพราะต่อไปหลวงปู่จะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว
#กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพครับ_มีโอกาสผมจะไปกราบนมัสการหลวงปู่ครับ
นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา เปิดเผยว่า ส่วนตัวออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อมีการตำหนิ 2 ส่วน คือ การทำงานของสื่อมวลชนที่เข้าไปร่วมเกาะติด และทำการตรวจสอบกับหมอปลา โดยสื่อมีสิทธิ์ที่จะร่วมตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่หรือสิ่งที่กระทำอยู่ แต่ควรที่จะมีการวิเคราะห์และไตร่ตรองว่าการกระทำของสื่อนั้นสมควรหรือไม่ โดยตนเองได้ตำหนิสื่อโดยเฉพาะบางสำนักที่มีการใช้คำพูด และรวมถึงเข้าไปใช้กิริยาตอบพระผู้ใหญ่ ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบเกี่ยวกับอาการป่วย หรือบุคคลที่ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป เพราะการกระทำดังกล่าวแม้ว่าจะอ้างว่าเป็นการทำหน้าที่ในฐานะสื่อ แต่ภายใต้ของการกำกับดูแลของคณะกรรมการการกำกับดูแลสื่อโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง หรือ กสทช. มีอำนาจในการตรวจสอบและเข้ามากำกับดูแล
โดยการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับบุคคลที่มีอาการป่วยทางจิต หรือบุคคลที่ไม่ปกติ ซึ่งก็ได้รับข้อยกเว้น ไม่ต่างจากกรณีเคสของเด็ก ดังนั้นจึงเชื่อว่าสื่อก็ควรจะรู้ดี ว่าการนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องเด็กกับเรื่องของผู้ป่วยจิตเวช หรือป่วยทางจิตนั้น ควรที่จะต้องมีระเบียบหรือวิธีการนำเสนออย่างไร เชื่อว่ามีสื่อบางสำนัก ทราบว่าพระรูปดังกล่าวมีอาการป่วย เนื่องจากมีแพทย์ยืนยันแล้ว ก็ได้ตัดสินใจที่จะถอนและตัดสินใจไม่ใช้ข่าวดังกล่าวในการนำเสนอ หรือควรที่จะมีการปิดชื่อของท่าน เพื่อที่จะเคารพต่อสิทธิ์ของความเป็นผู้ป่วย
สำหรับในการกระทำของหมอปลา แม้ว่าที่ผ่านมาหมอปลาจะค่อนข้างมีผลงานโดดเด่นเกี่ยวกับการตรวจสอบพระที่กระทำไม่ดี แต่ในการเข้าไปร่วมตรวจสอบครั้งนี้ ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบก่อน เพราะอย่าลืมว่าด้วยพฤติกรรมของพระผู้ใหญ่ท่านนี้มีอายุมาก และล่าสุดมีแพทย์ออกมายืนยันว่าท่านป่วย ซึ่งหมอปลาก็ไม่ได้ผิด เพราะมีคนร้องเรียนและมีผู้เสียหาย แต่ก็อยากจะให้วิเคราะห์พิจารณาและดำเนินการตรวจสอบพระที่กระทำผิด ไม่ใช่พระที่ป่วย
ส่วนพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกล่าว ด้วยวิธีการและพฤติกรรมของท่าน หากมีการมองและวิเคราะห์แล้ว เรียกว่า “อาการป่วยหรือเป็นโรค” เปรียบเสมือนคำพูดของคนโบราณที่พูดว่า “เล่นขี้” คำพูดนี้ก็ถือว่ามีมาแต่โบราณ คนที่ไม่ปกติหรือทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเด็ก และแม้แต่สติปัญญาก็ไม่เหมือนเดิม เพราะด้วยอาการสมองฝ่อ การเล่นขี้ก็เหมือนกันย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กหรือความทรงจำบางช่วงหายไป เสมือนที่ท่านนำขี้หรืออุจจาระของท่านมาทำเป็นพระ ดังนั้นคำว่าเล่นขี้ก็น่าจะรู้ว่าพฤติกรรมของท่านไม่เหมือนเดิม
หรือแม้แต่ถ้าสังเกตจากพฤติกรรมที่ท่านแตะเนื้อต้องตัวสีกา หรือแม้แต่ท่านมีการให้ของมงคล สังเกตว่าท่านจะย้ำคิดย้ำทำ โดยการเรียกมาให้ของหรือโยนของให้ซ้ำๆ หรือแม้แต่การที่ท่านมีการสัมผัสตัว ท่านอาจไม่รู้ว่ากระทำอะไรลงไปอยู่ เพราะสมองที่จดจำบางช่วงหายไป แม้แต่การที่สัมผัสกับสีกาหรือสัมผัสกับลูกศิษย์ จะมีการใช้ความรุนแรงโดยการบีบจับ บางครั้งถึงช้ำเขียว ซึ่งการกระทำดังกล่าวท่านก็ทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้หรือการที่จะแก้ไขปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับพระที่กระทำผิด ตนเองอยากจะให้ย้อนไปถึงในช่วงยุคของพระพุทธะชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง ที่ก่อนหน้านี้พบการกระทำผิดของพระไม่ว่าจะเป็นพระผู้ใหญ่หรือเณร จะมีคำสั่งทำโทษและดำเนินการโดยทันที ไม่ใช่เพียงเขียนเพียงแค่กระดาษและคำชี้แจง หรือมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใด ควรที่จะมีการลงโทษโดยทันที ฉะนั้นเรื่องนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงสำนักพุทธศาสนา และพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ควรที่จะลงมาดำเนินการเองและทำงานบ้าง ไม่ใช่มัวแต่ให้หมอปลาลงมาทำสร้างงานอยู่แต่เพียงคนเดียว ถ้าหากสำนักพุทธศาสนาหรือพระเถระสมาคมลงมาดูแล หมอปลาก็ไม่จำเป็นต้องมีหน้าที่สำหรับปราบใคร
