จากกรณี นางสาวมุก (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ร้องเรียนไปยังหมอปลา มือปราบสัมภเวสี หลังถูกพระเกจิชื่อดังใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร มีพฤติกรรมลวนลาม ใช้มือจับหน้าอกและลูบไล้ตามร่างกายของเธอและแม่ ขณะเดินทางไปทำบุญและกราบไหว้พระรูปดังกล่าวภายในวัด ซึ่งลูกศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ อ้างว่าพระเกจิดังกล่าวทำเพราะท่านเมตตาเท่านั้น ไม่คิดเป็นอย่างอื่น
วันที่ 11 พ.ค. 65 หมอปลา ประสานงานกับผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร เดินทางไปที่วัดป่าดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เพื่อเข้าไปตรวจสอบและให้พระเกจิชื่อดังที่ถูกกล่าวหาออกมาชี้แจง หลังจากที่ผู้เสียหายได้ร้องเรียนมากับทางหมอปลา พบว่าพระเกจิชื่อดังคือหลวงปู่แสง
ทีมข่าวได้สอบถามว่าพระลูกวัดและแม่ชีว่าได้กินฉี่เหมือนกันหรือไม่ โดยแม่ชีคนหนึ่งได้บอกกับทีมข่าวว่า ตนกินฉี่ของหลวงปู่แสงเช่นเดียวกันและกินมานานแล้ว ผู้ใดที่ได้กินฉี่ของหลวงปู่แสงนั้นถือว่าเป็นผู้มีบุญ ฉี่ของหลวงปู่แสงสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ทุกคนทั้งแม่ชีทั้งพระลูกวัดต่างกินฉี่ของหลวงปู่แสงทั้งหมดทุกคน แทบไม่มีใครไม่กิน เพราะทุกคนเชื่อและศรัทธาหลวงปู่แสง ว่าฉี่บำรุงสุขภาพ
ทีมข่าวยังได้สอบถามลูกศิษย์ผู้หญิงอีก 2 คนที่เดินทางมาทำบุญที่วัดว่าเคยถูกหลวงปู่แสงแตะเนื้อต้องตัวหรือลวนลามทางเพศหรือไม่ ทั้ง 2 คนยืนยันว่า ไม่เคยถูกหลวงปู่ลวนลามเลยสักครั้ง ตลอด 5 ปีที่เดินทางมาทำบุญกับหลวงปู่ที่วัด มองว่าท่านเป็นพระที่น่าเลื่อมใสศรัทธา น่ารัก เป็นพระที่ปฏิบัติดี ส่วนคลิปที่ปรากฏ ตนเองเห็นแล้วมองว่าภาพไม่ได้ชัดว่าหลวงปู่กำลังสวนลามสีกาคนในคลิปแต่อย่างใด หลวงปู่น่าจะหยอกเล่นเท่านั้น หลวงปู่แก่แล้วอาจจะทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัวมากกว่า
นอกจากฉี่ของหลวงปู่ที่ลูกศิษย์เชื่อว่าเป็นพระธาตุได้แล้ว ยังมีอุจจาระ เลือดของหลวงปู่ ที่จะใส่ไว้ในแพมเพิส นำมาแปะตามเสาปล่องระบายความร้อนเพื่อให้แห้ง เสาดังกล่าวอยู่บริเวณห้องครัวประกอบอาหารของทางวัด
ทีมข่าวได้สำรวจพบว่า พระลูกวัดได้นำแพมเพิร์สของหลวงปู่แสงมาแปะไว้รอบปล่องอีกด้วย ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อึและเลือดของหลวงปู่แสงจะกลายเป็นพระธาตุ เป็นเม็ดกลม ซึ่งพระลูกวัดก็จะเก็บนำไปแจกจ่ายให้ลูกศิษย์บูชาอีกด้วย