จากกรณี วันที่ 10 พ.ค.65 เวลา 10.00 น. ศูนย์วิทยุอาสามูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรีรับแจ้งเหตุ จาก สภ.ทุ่งคลี ร้องขอสนับสนุนในที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานและ แพทย์เวร รพ.เดิมบางนางบวช ออกตรวจสอบในที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านคูเมืองบ้านในหมู่ 2 ต.ทุ่งคลี อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพ นายมานิต ตุ้มปี อายุ 44 ปี นอนเสียชีวิตจมอยู่กองเลือดภายในบ้าน สภาพถูกมีดปาดคอลึก 1 ซม. ยาว 10 ซม. และบาดแผลตามร่างกายกว่า 20 แผล ใกล้กันพบพ่อเลี้ยง และแม่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณใกล้ศพ
จากสอบถาม นายว่อง หรือ ขาว อายุ 65 ปี พ่อเลี้ยง กับนางพจนีย์ รักสุข อายุ 64 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เบื้องต้น อ้างว่านายมานิช ผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตายเอง ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวทั้งคู่ไปสอบปากคำเพิ่มเติม สภ.ทุ่งคลี และแจ้งข้อหากับพ่อเลี้ยง
จากนั้น เวลา 13.00 น. ที่ สภ.ทุ่งคลี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายว่อง ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" เบื้องต้นจากการสอบสวนตลอดทั้งคืน นายว่องยังให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนจึงนำตัวนายว่องขออำนาจศาลฝากขังต่อศาล จ.สุพรรณบุรี และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมสวนสอบสวนนางพจนีย์ แม่ของผู้ตายเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายว่อง อายุ 65 ปี พ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของลูกชาย ถึงแม้ว่าตนจะเป็นพ่อเลี้ยง ตนก็รู้สึกเสียใจเพราะผู้เสียชีวิตก็ถือเป็นลูกชาย แต่การเสียชีวิตในครั้งนี้ตนยืนยันว่า ตนจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ว่าลูกชายเสียชีวิตได้อย่างไร หรือเกิดจากฝีมือตนหรือไม่ เพราะขณะเกิดเหตุตนดื่มสุราหนัก จึงอยู่ในอาการมึนเมา ซึ่งหากจำเหตุการณ์ได้ ตนคงให้การกับทางเจ้าที่ตำรวจตามความจริงไปแล้ว เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องมาตอบคำถาม สำหรับการเสียชีวิตของลูกชาย ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าเสียใจ หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก
ด้านนายริติพงศ์ คล้ายมาลา หรือ แบงค์ อายุ 23 ปี เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตใช้ชีวิตอยู่กันภายในบ้านจุดเกิดเหตุเพียง 3 คน ปกติชีวิตประจำวันนอกจากรับจ้างทั่วไป ทั้ง 3 ก็มักจะมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ คือ ตั้งวงดื่มสุรากันภายในครอบครัว เป็นชีวิตประจำวัน หนักถึงขั้นได้เงินมาก็ซื้อเหล้าก่อนที่จะซื้อข้าวกิน
อีกทั้งเวลาเมื่อดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา ก็มักจะมีปากเสียงทะเลาะวิวาท ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันบ่อยครั้ง ซึ่งช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา นายว่อง พ่อเลี้ยง และนายมานิต ก็ได้ฟันกันเองหลายครั้ง จากอาการเมาสุราเป็นเหตุ ชาวบ้านต้องช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ปากคอตายล่าสุด
ส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เชื่อว่านายมานิชจะฆ่าตัวตายเอง เพราะมองว่าหากคนที่จะฆ่าตัวตายก็คงไม่ใช่วิธีการฆ่าตัวเองแบบทรมาน แต่จากการสังเกตบาดแผลมีทั้ง ถูกมีดบาดบริเวณคอ ตามร่างกายมีแผลกว่า 20 แผล จึงเชื่อว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตาย แต่น่าจะเป็นการฆาตกรรมภายในครอบครัวมากกว่า
