จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Phimdalin Teerapattranit” โพสต์เล่าเรื่องราวจากร้านเหล้าแห่งหนึ่ง หลังมีชายพาหญิงมานั่งดื่มกิน พร้อมสั่งอาหารชุดใหญ่ แต่ถึงเวลาจ่ายเงิน ฝ่ายชายหาย ฝ่ายหญิงยืนร้องไห้ เพราะมีเงินอยู่ 100 บาท ซ้ำร้ายยังถูกฝ่ายชายขโมยโทรศัพท์ไปด้วย
ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังร้านอาหารจุดเกิดเหตุ ตั้งอยู่ริมถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย กทม. น.ส.พิมพ์ดลิน ธีรภัทรานิตย์ เจ้าของร้าน เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี กับผู้หญิง 1 คน อายุประมาณ 40 ปี มาใช้บริการที่ร้าน เดินเข้ามาพร้อมกันเวลา 22.30 น. เลือกนั่งโต๊ะ k1 ซึ่งอยู่ริมสระ ทุกอย่างดูปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. มีการสั่งอาหารกลับบ้านชุดใหญ่ เฉพาะอาหารประมาณ 1,500 บาท ที่ร้านเข้าใจว่าคงจะสั่งไปทานต่อที่บ้าน ก็เป็นเรื่องปกติ
จนถึงเวลาที่เราเตรียมเคลียร์บิล ช่วงเกือบเที่ยงคืน ผู้หญิงยืนงงร้องไห้พูดว่า "มันเอามือถือไปแล้ว ไม่มีเงิน มีเงินติดตัวอยู่ 100 บาท" ร้านก็สั่งเก็บอาหารห่อกลับทันที แล้วมาสอบถามผู้เสียหายว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ทราบว่าชายหญิงคู่นี้เจอกันผ่านแอปฯหาคู่ เป็นวันแรกที่ได้คุยกัน และมาเจอกัน
โดยฝ่ายชายขี่รถจักรยานยนต์ไปรับฝ่ายหญิงที่บ้านเพื่อพามาทานข้าว พอมาถึงก็สั่งเครื่องดื่มเป็นเบียร์ 2 ขวด น้ำอัดลม 1 ขวด เเละอาหารอีก 2-3 อย่าง เพื่อนั่งทาน พอนั่งไปสักพักผู้ก่อเหตุก็เริ่มออกอุบายว่าให้โอนเงินให้น้องสาวที เพราะโทรศัพท์แบตหมด ถึงบ้านจะโอนคืนให้ ฝ่ายหญิงก็โอนให้ไป 2,000 บาท หลังจากนั้นฝ่ายชายก็คะยั้นคะยอให้สั่งอาหารกลับบบ้านเยอะ ๆ จะกลับไปกินต่อที่บ้าน ฝ่ายหญิงก็บอกไม่มีเงินนะ ฝ่ายชายบอกสั่งเลย แล้วก็ขอยืมมือถือฝ่ายหญิงโทรหาใครบางคนแล้วเดินออกไปเนียน ๆ พอถึงเวลาเคลียร์บิล ฝ่ายชายก็ไม่กลับมาสักที ผู้เสียหายจึงเดินออกไปดู ปรากฏว่ารถที่จอดไว้ข้างร้านได้หายไปเเล้ว ทางผู้เสียหายทำอะไรไม่ถูก จึงยืนร้องไห้
ซึ่งผู้เสียหายสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะในโทรศัพท์ที่ผู้ก่อเหตุขโมยไป มีแอปฯธนาคาร กลัวผู้ก่อเหตุจะโอนเงินออกจากบัญชี โดยหลังจากทราบเรื่องราว ตนก็เกิดความสงสารจึงยกบิลทั้งหมดให้ลูกค้า โดยบิลค่าอาหารที่สั่งมาทานบนโต๊ะ รวมถึงอาหารที่สั่งกลับบ้าน ราคารวม 1,795 บาท ทางร้านไม่ได้เก็บเงินเงิน และให้ความช่วยเหลือเปิดกล้องวงจรปิด พาไปแจ้งตำรวจที่ สน.บางขุนนนท์ ซึ่งผู้เสียหายไม่มีข้อมูลของอีกฝ่ายเลย ไม่มีชื่อ ไม่มีทะเบียนรถ จำไม่ได้กระทั่งเบอร์ตัวเอง จึงทำอะไรไม่ได้เลย
หลังจากเกิดเหตุจึงนำเรื่องดังกล่าวโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เนื่องจากเหตุการณ์เเบบนี้ไม่ใช่ครั้งเเรก ก่อนหน้านั้นเคยมีผู้ชายพาผู้หญิงมาทานอาหรในร้าน แล้วชิ่งหนี ปล่อยให้ผู้หญิงจ่ายเงินเอง ซึ่งทางร้านเจอแบบนี้มา 2-3 ครั้งเเล้ว จึงอยากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าปัจจุบันมิจฉาชีพมีหลายรูปเเบบ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ ส่วนคนก่อเหตุก็อยากให้อยุดพฤติกรรม เพราะคนอื่นเดือดร้อน
กล้องวงจรปิดจากบริเวณด้านในร้าน เวลา 22.30 น. เห็นผู้ก่อเหตุลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสามส่วนสีขาว สวมแมสก์สีดำ และสวมเเว่นตา เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับผู้เสียหาย
จากนั้นเวลา 23.52 น. เห็นผู้ก่อเหตุเดินออกจากร้าน ทำท่าคุยโทรศัพท์ ซึ่งโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวเป็นของผู้เสียหาย ก่อนออกจากร้านยังทำท่าชี้นิ้วเหมือนชวนการ์ดหน้าร้านคุย
