ฆ่ายกครัว! ไอ้เหี้ยมอุ้มหมายิง 3 ศพเด็กก็ไม่เว้น อ้างสางแค้นเพื่อนรักยัดยาแม่ติดคุก (คลิป)

4 พ.ค. 65

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี รับแจ้ง มีคนร้ายบุกยิงเจ้าของร้านแซ่บในสวนน้องปืน พร้อมภรรยา และลูกชายเสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิดที่บ้าน ม.11 ซอยนางสำเภา ต.ลาดสวาย อ.ลาดสวาย จ.ปทุมธานี

886489

โดยผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเอาไว้ได้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านไม้ยกสูง ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านพบร่าง นางสาวกรวิภา ศรีคร้าม หรือ น้ำ ภรรยาย ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง 3 นัด บริเวณขาและเอวอย่างละ 1 นัด

266613617230

ถัดเข้าไปบริเวณประตูหน้าบ้าน ซึ่งอยู่บริเวณประตูกระจก พบร่างของเด็กชายปืน อายุ 5 ขวบ ลูกชาย ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด ส่วนบริเวณในบ้านซึ่งอยู่ทางเข้าห้องนอน พบร่างของนายศราวุฒิ เทียมรักษ์ หรือ เบล อายุ 27 ปี สามีนอนเสียชีวิต ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด ขณะที่คนก่อเหตุ คือนายอำพล บุญช่วย หรือ แก่ อายุ 29 ปี คนรู้จักกับนายศราวุฒิ

696775

วันที่ 4 พ.ค. 65 ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านอาหารร้านแซ่บในสวนน้องปืน ขณะเกิดเหตุพบว่าร้านอาหารยังคงให้บริการตามปกติ แต่เจ้าของบ้านถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านอยู่ใกล้กับร้านอาหาร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ พร้อมด้วยมีเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และชุดสืบสวน รวมถึงแพทย์นิติเวช ได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

891120

ขณะที่ทีมข่าวเดินทางมาถึงนั้นยังพบว่ามีการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งมีการเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับทั้งหมด ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายร่างนำส่งนิติเวชโรงพยาบาล บรรยากาศเป็นไปอย่างหดหู่ เพราะเนื่องจากจะเห็นร่างของนางสาวกรวิภา หรือ น้ำ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน และมองเข้าไปที่บริเวณประตูกระจก จะเห็นร่างของเด็กชายปืนนอนเสียชีวิตอยู่คาประตู บนพื้นบ้านเต็มไปด้วยกองเลือด ร่องรอยของปลอกกระสุน กองพิสูจน์หลักฐานได้มีการเก็บรายละเอียดซึ่งมีปลอกกระสุนไม่ต่ำกว่า 10 ปลอก

260268

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ญาติต่างยังคงเฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ภายใต้ของอาการความโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งจะนั่งอยู่บริเวณศาลพระภูมิหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จะมีทั้งฝั่งพ่อแม่ของนางสาวกรวิภา หรือ น้ำ ครอบครัวของนายศราวุฒิ ทั้ง 2 ครอบครัวนั่งอยู่บริเวณศาลพระภูมิดูความเคลื่อนไหวในการชันสูตรศพเบื้องต้น และการเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสังเกตว่าแม่ของทั้ง 2 ครอบครัวนั่งร้องไห้เสียใจตลอดเวลา

943758

หลังจากนั้น ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตภายในบ้านทั้ง 3 ราย ห่อด้วยผ้าขาว มาวางเรียงกันที่บริเวณหน้าบ้าน ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ยืนยันครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะนำขึ้นรถกู้ภัยส่งนิติเวชโรงพยาบาล จากนั้นก็ได้มีการใช้รถกู้ภัยจำนวน 3 คัน นำร่างของแต่ละคนแยกขึ้นรถ มีครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย มีการจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณ บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน เพื่อขอนำร่างไปเก็บเอาไว้ที่โรงพยาบาล แล้วทางครอบครัวจะเดินทางไปรับเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

975486

ทีมข่าวได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 12.27 น. วินาทีเกิดเหตุ กล้องตัวดังกล่าวจะเป็นบ้านที่อยู่ใกล้กัน แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้นรัวประมาณ 14 นัด และจะเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนบ้านวิ่งแตกตื่นเข้าบ้าน

967877

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวทราบข้อมูลจากครอบครัวของคนตาย โดยนายอำพล คนก่อเหตุ ได้มีการโดยสารมาด้วยรถแท็กซี่สีชมพู ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องบริเวณซอยก่อนที่จะถึงบ้านที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าช่วงเวลาประมาณ 11.27 น. เป็นช่วงที่รถแท็กซี่ขับเข้ามาส่งนายอำพล เพื่อรอครอบครัวนายศราวุธ คนตาย จากนั้นกล้องวงจรปิดตัวเดิม จับภาพได้ช่วงเวลา 11.30 น. หลังจากที่ส่งนายอำพลมือปืนแล้ว ได้ขับกลับออกจากซอย

537165

จากนั้น กล้องวงจรปิดจุดดังกล่าว ยังจับภาพรถมอเตอร์ไซต์ พีซีเอ็กซ์ สีแดง ซึ่งเป็นรถของนายศราวุธคนตาย เป็นคนขับ และมีลูกชายคือน้องปืนใส่หมวกกันน็อกสีแดงนั่งบริเวณด้านหน้า ส่วนภรรยาคือนางสาวกรวิภา ใส่เสื้อสีเทานั่งโดยสารมาด้านหลัง ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายหลังจากที่ออกไปซื้อของในตลาด ขับกลับเข้ามา ก่อนที่จะเข้าไปที่บ้าน แล้วถูกนายอำพลยิง

336070

นายพิชัย โพธิ์บางหวาย อายุ 61 ปี อาของนายศราวุฒิ คนตาย คนที่อยู่พูดคุยในโทรศัพท์ซึ่งเป็นปลายสายที่ได้ยินวินาทีก่อเหตุยิง เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองตั้งใจที่จะโทรหาหลานชาย เพื่อที่จะยืนยันว่าในตอนค่ำตามนัดหมายกันจะมีการตั้งวงดื่มสังสรรค์ จึงได้โทรหาเพื่อคอนเฟิร์ม ในขณะที่มีการพูดคุยกันนั้น หลานชายเพิ่งกลับมาจากตลาด โดยหลานชายไปซื้อของเพิ่มเพื่อที่จะมาเตรียมครัวในการสังสรรค์ตอนเย็น เป็นการเติมของในครัวซึ่งเป็นร้านอาหารที่หลานชายทำอยู่

110563

ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ตนเองก็พยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นลักษณะเหมือนโทรศัพท์ตกพื้น ผ่านไปไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นต่อเนื่อง ได้ยินแต่เสียงหวีดร้องและเสียงของคนปลายสาย ซึ่งมีเด็กชายปืน ลูกชายของนายศราวุฒิร้อง และเสียงของนางสาวกรวิภา ภรรยาของหลานชายร้อง ตนเองจึงได้โทรกลับไปอีกครั้ง ปรากฏว่าตัวของผู้ต้องหารับโทรศัพท์เอง บอกว่า "ไม่ต้องโทรมาหรอก ผมยิงตายหมดยกครอบครัวแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นก็ไม่ต้องถามมาก รู้ว่าผมเครียดเก็บกดมานาน และอีกสักพักผมก็จะยิงตัวเองตายตามเหมือนกัน"

224679

ในตอนนั้นตนเองก็พยายามสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุที่ยิงเพราะคิดว่าเป็นการพูดเล่น ไม่คิดว่าหลานชายจะโดนยิงตาย แต่สุดท้ายตนเองก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นความจริง เพราะพยามโทรเข้าเบอร์โทรศัพท์ของนางสาวกรวิภา แต่ตัวของคนก่อเหตุก็เป็นคนรับอีกครั้ง จึงแน่ชัดว่าเกิดเหตุเกิดขึ้นในบ้านแล้ว ตนได้ประสานญาติและรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตอนนั้นตนเองอยู่ลาดพร้าว ซึ่งไกลจากปทุมธานี จึงไม่สามารถที่จะเดินทางมาโดยทันทีได้

323884

เมื่อตนเองเดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าตำรวจได้มีการล็อกตัวคนก่อเหตุไปแล้ว แต่ตอนแรกได้มีการเจรจาเกลี้ยกล่อมกันอยู่ระยะหนึ่ง เจ้าตัวมีท่าทีว่าจะต่อสู้ เจ้าหน้าที่ก็กำลังจะวิสามัญ แต่ทราบว่าเจ้าตัวตัดสินใจมอบตัวเสียก่อน โดยปกติแล้วคนที่จะเดินเข้านอกออกในบ้านของหลานชายได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่รู้จักกัน และเรียกได้ว่าสนิทกันพอสมควร ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถที่จะมานั่งรอในขณะที่หลานชายออกไปจ่ายตลาดได้

346391

สำหรับกรณีที่ผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่าหลานชายไปแจ้งจับคนในครอบครัวของเขา ประเด็นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงทำให้เจ้าตัวไม่พอใจมาชำระแค้นนั้น ตนเองไม่รู้ว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าตอนที่เจ้าตัวยิงแล้วอาจจะพูดไปเรื่อยก็ได้ เพราะคนก่อเหตุก็อาจจะพูดเพื่อแก้ตัว แต่ตนเองก็เชื่อว่าหลานชายคงไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น สำหรับประเด็นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็ยืนยันว่าหลานชายไม่เคยมีประวัติเรื่องนี้ ทำมาหากินสุจริต แล้วเจ้าตัวก็กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารที่เปิดอยู่ข้างบ้าน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงคือเรื่องอะไร

950801

นายครรชิต เทียมรักษ์ อายุ 51 ปี พ่อของนายศราวุธคนตาย เปิดเผยว่า ตอนที่เกิดเหตุ หลังจากที่ทราบว่าลูกชายโดนยิงตายก็ได้รีบเข้ามาที่เกิดเหตุทันที มาถึงตอนนั้นตำรวจกำลังมีการคุมตัวนายอำพล หรือ แก่ ซึ่งเป็นคนที่ลูกชายรู้จักและเคารพเหมือนเป็นพี่น้องกันเพราะโตมาด้วยกัน ตอนนั้นก็ไม่ทันได้พูดคุยอะไรมาก เพราะตำรวจมีการคุมตัวเจ้าตัวไปโรงพัก จึงไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับสาเหตุที่มีการยิงลูกชาย

485405

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนายศราวุธ กับนายอำพล ซึ่งเป็นเด็กในสลัมย่านลาดพร้าว ซึ่งโตมาด้วยกัน แม้ว่าจะไม่ใช่พี่น้องกันแต่ก็นับถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่หลังจากที่ลูกชายโตก็ย้ายออกมามีครอบครัวและทำธุรกิจ แต่ก็ยังไปมาหาสู่กับนายอำพล และที่สำคัญ ตอนที่มีงานสังสรรค์หรือกินเหล้ากัน ก็ยังอยู่ด้วยกันตามปกติ แล้วตัวเองก็ไม่คิดว่าทั้งคู่จะมีปัญหาอะไรกัน

ตนยอมรับว่าไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมตัวของนายอำพลถึงมายิงลูกชาย แต่เท่าที่ตนเองได้คุยกับญาติของอำพล ทราบว่าเจ้าตัวเครียดหลับมา 2 วันแล้ว ลักษณะกินไม่ได้นอน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับประเด็นก่อนที่จะมาก่อเหตุยิงลูกชายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าหากเป็นการก่อเหตุยิงเพียงแค่ลูกชาย ส่วนตัวก็พอที่จะยอมทำใจหรือให้อภัย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการยิงนางสาวกรวิภา และน้องปืน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยอมรับไม่ได้ หากมีความแค้นส่วนตัวกับลูกชายก็ไม่ควรที่จะไปลงที่คนอื่น ฉะนั้นจึงอยากให้รับโทษให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจมาก

503569

นางสุรีลักษณ์ ศรีคร้าม อายุ 58 ปี แม่ของนางสาวกรวิภา คนตาย เล่าว่า ตอนนั้นช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. มีรถแท็กซี่แท็กซี่สีชมพู ซึ่งมีนายอำพลเป็นคนนั่งโดยสารมา จอดบริเวณหน้าบ้าน เจ้าตัวลงรถมาพร้อมกับหมาตัวเล็กสีขาว สวมใส่เสื้อสีฟ้า แต่ตอนนั้นไม่สังเกตเห็นอาวุธปืน เพราะเจ้าตัวอุ้มหมาอยู่ที่หน้าอก เดินเข้ามาในบ้าน

518459

ตอนนั้นตัวของนายศราวุฒิและนางสาวกรวิภรพร้อมด้วยน้องปืนขี่รถมอเตอร์ไซค์สีแดงออกไปซื้อของ เพราะตอนเย็นจะมีงานเลี้ยง จึงกลัวว่าอาหารจะไม่พอ เจ้าตัวก็เลยอาสาขับรถไปซื้อของในตลาด ปรากฏว่านายอำพลมาถึงก่อน ระหว่างนั้นตัวของนายศราวุฒิได้มีการโทรศัพท์เข้ามาเพื่อบอกกับตนเองว่า "จะมีเพื่อนเข้ามาที่บ้าน ฝากแม่เอาเบียร์และอาหารต้อนรับเพื่อนหน่อย" ตนเองก็สังเกตเห็นว่านายอำพลมาถึง เจ้าตัวก็ได้เดินเข้ามาทักทายและยกมือไหว้ บอกว่าตนเองชื่อแก่ เป็นเพื่อนกับนายศราวุฒิ หลังจากที่ตนเองรับรู้แล้วก็บอกให้ไปนั่งคอยอยู่ที่บ้าน เพื่อที่จะเตรียมเบียร์และอาหารไปให้เจ้าตัวกินตามที่นายศราวุฒิบอก แต่ตนเองสังเกตว่าด้วยพฤติกรรมของนายอำพล ก็ไม่ได้มีนิสัยว่าจะเกเรหรือจะเข้ามาก่อเหตุ ยังทักทายพูดคุยดี อุ้มหมามาทักทายตามปกติ

จากนั้นเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของนายศราวุฒิ พาเมียและลูกมาถึง ตัวลูกก็ได้ขึ้นไปเล่นกับนายศราวุฒิบนบ้าน ส่วนนางสาวกรวิภา ได้มาช่วยตนเองในครัวที่ร้านอาหาร จากนั้นปรากฏว่าได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้น และได้ยินเสียงของน้องปืนกรีดร้อง ตนเองจึงได้ใช้ให้นางสาวกรวิภา เดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้าน ซึ่งการที่ตนเองส่งลูกสาวไปที่บ้านหลังดังกล่าวกลายเป็นว่าส่งให้ลูกสาวไปโดนยิงตาย ตนเองก็ไม่คิดว่าการให้ไปดูเหตุจะถูกยิงตายด้วย จากนั้นเมื่อตนเองเห็นลูกสาวถูกยิงล้มต่อหน้า ก็ได้สังเกตเห็นว่าน้องปืนยังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าประตู แต่จังหวะเดียวกันนั้นนายอำพลจ่อยิงน้องปืนต่อหน้าต่อตา แต่ตัวของนายอำพลก็ไม่ได้มีการหันปลายกระบอกปืนมาจะยิงตนเอง ทั้งที่ตะโกนขู่ว่า "กูจะฆ่ายกบ้าน" ตนเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเจ้าตัวไปแค้นอะไรคนในครอบครัวของลูกสาว ทั้งที่ตนเองก็อยู่ ทำไมไม่ยิงตนด้วย

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยอมรับไม่ได้ เพราะการก่อเหตุยิงนั้นเป็นการยิงหลานวัยเพียงแค่ 5 ขวบด้วย ซึ่งเป็นเด็กที่ยังไม่มีทางสู้อะไร ทำไมถึงต้องยิงเด็ก การก่อเหตุถ้าหากมีเรื่องทำไมไม่คุยกันก่อน เพราะที่ผ่านมายืนยันว่าตัวของนางสาวกรวิภาและแม้กระทั่งนายศราวุฒิก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกับเจ้าตัว และอย่าลืมว่าการเดินทางมาที่บ้านก็ไม่มีใครรับรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เนื่องจากครอบครัวของลูกสาวก็ยังบอกว่าให้หาของกินให้นายอำพลกิน

206449

เวลา 18.45 น. ที่สถานีตำรวจภูธรคูคต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายแก่ ผู้ต้องหาเพื่อเข้าห้องขัง โดยอ้างว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะแค้นที่ผู้ตายนำยาเสพติดไปวางยาที่บ้าน ทำให้แม่ของตนต้องถูกจับติดคุก จึงวางแผนแก้แค้น โดยคิดมานานแล้ว และตัดสินใจเข้าก่อเหตุ ส่วนที่ต้องยิงผู้หญิง กับเด็ก 5 ขวบด้วยนั้น เพราะตกใจขาดสติ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยิง อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายด้วย ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว

256424

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านญาติของนายมิ้น หรือ แก่ ผู้ตองหา ได้พูดคุยกับนายต่อ (นามสมมติ) ลุงของผู้ต้องหา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความแค้นตามที่หลานชายให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้ โดยเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว ผู้ตายนำยาเสพติดประมาณ 1,000 เม็ด มาวางไว้ใต้ถุนบ้านของผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบและจับกุมแม่นายแก่ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน
โดยแม่รับว่ายาเสพติดเป็นของตัวเอง เพราะไม่อยากให้ลูกชายต้องติดคุก แม่จึงถูกจับ โดยศาลตัดสินจำคุก 25 ปี

จึงเชื่อว่ามีการวางงานจากครอบครัวผู้ตาย เพราะที่ผ่านมาทั้งคู่ซื้อขายยาเสพติดกันมาตลอด ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนั้นแม่ของผู้ตายน่าจะเป็นคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ เพราะไม่พอใจที่พ่อของผู้ตาย มีท่าทีเหมือนชอบแม่ของผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลานชายเป็นคนเรียบร้อย และไม่เคยพูดถึงการล้างแค้น ตนก็ไม่คิดว่าหลานจะไปก่อเหตุ ซึ่งก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าหลานไม่น่าทำแบบนี้ โดยเฉพาะยิงเด็กวัย 5 ขวบ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส