"ลูกนัท" จ๋อยนัดคิวขอโทษผกก. เซ่นคลิปถ่มน้ำลายรด ตร.จับจริงหมิ่นศักดิ์ศรี (คลิป)

22 เม.ย. 65

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิทซอย 3 เพื่อเก็บหลักฐาน กรณีของ "นายปริญญ์ พานิชภักดิ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ถูกกล่าวหา มีเหยื่อหลายรายอ้างว่าเป็นสถานที่ที่ผู้ถูกกล่าวหาล่อลวงมาก่อเหตุนั้น

881182

ขณะที่ระหว่างตรวจค้นเก็บหลักฐานนั้นทางด้าน นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท และแอนนา แฟนสาว หนึ่งในเหยื่อเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ แต่เนื่องจากพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ไม่อนุญาตให้เข้าไป ทำให้ทางด้านไฮโซลูกนัทโวยวายเจ้าหน้าที่

903149

ล่าสุด วันที่ 22 เม.ย. 65 ฝ่ายกฎหมายตำรวจนครบาล 5 พิจารณาแล้วว่ามีความผิด หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ผ่านการพิมพ์ข้อความทางเฟซบุ๊ก จึงส่งเรื่องให้ ผกก.สน.ลุมพินี แจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งจะมีการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเร็ว ๆ นี้

729385

นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท สามีของคุณแอนนา ผู้เสียหาย เปิดเผยทางโทรศัพท์ กรณีตำรวจ สน.ลุมพินี เตรียมแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานฯ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเจ้าตัวโวยวายระหว่างตำรวจเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมของอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองในสุขุมวิทซอย 3 ว่าเบื้องต้นได้ประชุมกับทีมทนายความ พร้อมตั้งทีมสืบค้นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตอนตำรวจตรวจค้นแล้ว พบว่าหากมีการขอหมายค้นจากศาลนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ

ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่จะให้ผู้เสียหายขึ้นคอนโดฯ ในวันดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ แต่ด้วยความแปลกของหลักปฏิบัติในวันดังกล่าว ทำให้ตนจึงเกิดข้อสงสัย เกิดความไม่สบายใจจนนำไปสู่การแสดงออกที่เสียมารยาท และไม่สุภาพ ซึ่งก็ยอมรับในส่วนนี้

เบื้องต้นได้ติดต่อไปผ่านหมอของขวัญ เนื่องจากสามารถประสานกับ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ได้ ตนก็พร้อมจะรับผิดชอบ และเข้าไปขอโทษตำรวจ พร้อมกระเช้าสวย ๆ ตามเวลาและความเหมาะสม มองว่าการแจ้งข้อหาถือเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ จากนี้ จะขอให้หมอของขวัญได้นัดหมายการเข้าพบตำรวจอีกครั้ง เนื่องจากวันนี้ยังคงติดธุระอยู่ ส่วนสภาพจิตใจของคุณแอนนา ภรรยา หลังโพสต์คลิปออกมาให้กำลังใจเหยื่อก็แข็งแกร่งขึ้น คนรอบข้างก็คอยให้กำลังใจ พวกเราทั้ง 2 คนก็ใช้ชีวิตแบบคอยให้กำลังใจกันในทุกเรื่องกันอยู่แล้ว

869322

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ดูแลด้านกฎหมายและคดี ให้ข้อมูลว่าขณะนี้มีผู้เสียหายในคดีทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็นคดีข่มขืน 3 ราย อนาจาร 7 ราย ข่มขืนและอนาจาร 1 ราย อนาจารและพรากผู้เยาว์ 1 ราย ขาดอายุความ 1 ราย คดีต่างประเทศ 1 ราย และกำลังพิจารณาว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ 1 ราย ซึ่งคดีที่ สน.ลุมพินี มี 9 ราย โดยมีคดีของผู้เสียหายที่มีคลิปเสียงการสนทนากับผู้ต้องหา ตอนแรกผู้เสียหายประสงค์ให้การเป็นพยานเท่านั้น เพราะได้รับการชดใช้มาส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตำรวจพิจารณาแล้วเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ จึงกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรับเป็นคดี

กรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม อ้างว่ามีนายตำรวจยศพลตรีเข้ามาแทรกแซงคดีนั้น วานนี้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ได้คุยกับมารดาผู้เสียหายในคดีแรก ยืนยันที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตำรวจนายนี้เป็นข้าราชการบำนาญเกษียณราชการที่ฝ่ายผู้เสียหายมีความเคารพนับถือและรู้จักมานาน จึงได้สอบถามเรื่องข้อกฎหมาย ยืนยันว่าอดีตตำรวจนายนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับคดี หรือแม้แต่ติดต่อพนักงานสอบสวนเข้ามา ฝ่ายผู้เสียหายยังคงเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ยังไม่มากลับคำให้การหรือถอนการแจ้งความ เพียงแต่ต้องการความเป็นส่วนตัว เชื่อว่าทนายตั้มอาจเข้าใจผิด

ซึ่ง ผบ.ตร.กำชับให้ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม รวดเร็วและรอบคอบ คดีแรกที่รับไว้จะปิดสำนวนได้ในเวลาไม่นาน เพียงแต่รอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา ในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าในการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม

ส่วนกรณีของนายธนัตถ์ หรือ ลูกนัท ที่ส่งเสียงโวยวายและชูนิ้วต่อว่าเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าตรวจค้นคอนโดฯ ผู้ต้องหาย่านสุขุมวิทซอย 3 นั้น ฝ่ายกฎหมายตำรวจนครบาล 5 พิจารณาแล้วว่ามีความผิด 2 ข้อหาฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ผ่านการพิมพ์ข้อความทางเฟซบุ๊ก จึงได้ส่งเรื่องให้ ผกก.สน.ลุมพินี แจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งจะมีการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเร็ว ๆ นี้

582450

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ส่วนตัวอยากจะแสดงความคิดเห็นว่าในตามหลักกฎหมายการใช้สิทธิเสรีภาพในฐานะผู้เสียหายไม่มีกฎหมายรองรับว่าคุณสามารถทำพฤติกรรมดังกล่าวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ทั้งเรื่องการไปด่าทอ ชูนิ้วกลาง ถมน้ำลาย ไม่สามารถทำได้ เพราะสิทธิเสรีภาพของผู้เสียหายก็มีขอบเขตกำหนดไว้ ไม่งั้นหากเป็นเคสอื่น ๆ แล้วผู้เสียหายรู้สึกไม่พอใจตำรวจ ก็ออกมาด่าทอทำพฤติกรรมแบบไฮโซนัทกันหมด ก็คงแย่

ส่วนประเด็นที่ 2 ส่วนตัวอยากจะให้ผู้เสียหายเข้าใจถึงการทำหน้าที่ของเข้าหน้าที่ตำรวจ เขาเองก็ทำงานด้วยความสุจริต แต่อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่เข้าใจตรงกันระหว่างเหยื่อกับตำรวจ การใช้อารมณ์ไม่ใช่ทางออก เราเองควรให้เกียรติและเชื่อมั่นเขาในการทำหน้าที่ ซึ่งพออีกฝ่ายไปแสดงพฤติกรรมดังกล่าว จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาจากผู้เสียหาย อาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอื่นแทน เพราะพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการดูหมิ่นพนักงาน หนำซ้ำยิ่งเอาคลิปไปโพสต์ในสังคมออนไลน์ทำให้หลายคนเข้าใจผิด ก็อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งกระทบต่อศักดิ์ศรีและเกียรติของตำรวจ แม้ว่าอีกฝ่ายอ้างว่าจะนำกระเช้าไปขอโทษ แม้ว่าทางตำรวจจะรับ แต่ในทางคดีเขาเองก็คงดำเนินการต่อ อยากเตือนให้เป็นบทเรียนสำหรับคนอื่น ตนอยากให้ทุกเคารพซึ่งกันและกัน

ตนมองว่าการกระทำ "ไฮโซนัท" ดูเกินไป หากเขาเองไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีขั้นตอนหรือมีการยื่นเรื่องอยู่แล้ว แต่การแสดงพฤติกรรมอย่างนั้นดูเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาท ไม่ควรทำ ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้มีคนออกมาด่าตำรวจเยอะแยะ ทั้งที่ตำรวจอาจจะมีทั้งดีและไม่ดี แต่ตนไม่อยากให้เหมารวม ใครไม่ดีก็ด่าไป แต่หากตำรวจคนไหนทำตามหน้าที่ ก็ควรให้โอกาสเขาทำงาน ควรให้ความเป็นธรรมกับเขา เขาเองก็คือคน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาก็มี ถอดเสื้อมาหลังเลิกงานเขาก็คือประชาชนคนหนึ่ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส