หลังจากพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แจ้งความที่กองปราบปราม พร้อม “ทนายตั้ม” และ “แจง ปุณณาสา” ภรรยาของ “แจ๊ส ชวนชื่น” หลังทนไม่ไหวกับพฤติกรรม “บังแจ็ค” ขู่ฆ่าและหมิ่นประมาท จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม กล่าวถึงกรณีทนายตั้มพร้อมด้วย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และน.ส.ปุณณาสา พรหมยศ หรือ แจง ภรรยา แจ๊ส ชวนชื่น เข้าแจ้งความบังแจ็คหลังแอบอ้างเพจเฟซบุ๊กปลอม ชื่อแจ๊สสปุ๊กนิคปาปิยองกุ๊กกุ๊ก fc V.2 และ โพสต์ข่มขู่หนุ่ม กรรชัย โดยมีความผิดมากกว่า 30 กระทง
ในส่วนนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสคุยกับทาง หนุ่ม กรรชัย และ ทนายตั้ม ซึ่งเป็นการแจ้งความเอาผิดบังแจ็คล่วงหน้า เพราะจากข้อมูลที่ทราบมาพบว่าทางบังเเจ็คโดนเนรเทศออกนอกประเทศไทยประมาณ 10 ปี ตอนนี้ไปอยู่ต่างประเทศได้ 6 ปีแล้ว เหลือเวลาอีกประมาณ 4 ปี ถึงจะกลับมาไทยได้ ต้องมีการเข้าไปแจ้งความเพื่อรอเวลาอีก 4 ปี หากทางบังแจ็คกลับมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมได้ เพราะอายุความมีเวลาเป็น 10 ปี ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทางผู้เสียหายจะไปแจ้งความหวังปรามให้เขาหยุดปล่อยข่าวหรือข้อมูลเท็จ
เมื่อถามว่าทางคุณแม่แตงโมจะเข้าไปแจ้งความด้วยหรือไม่ ปมที่บังแจ็คออกมาให้ข้อมูลมั่วกระทบต่อคดี ในส่วนนี้ก็คงยังไม่ดำเนินการ เพราะตามที่บอก ตนไม่อยากให้แสงคนกลุ่มนี้ อีกทั้งเขาเองดูไม่มีราคา แต่หากอนาคตยังไม่หยุด ก็คงจะมีการฟ้องแน่
สืบเนื่องจากกรณีที่ นายราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค ที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อมูลหลักฐานหลากหลาย อ้างเป็นหลักฐานเด็ด ตั้งแต่เเชตลับพูดคุยกับกระติกในช่วงเกิดเหตุ รวมไปถึงล่าสุด อ้างว่ามีผ้าขาวที่แตงโมใส่ก่อนเสียชีวิต ซึ่งไม่ตรงกับที่แตงโมใส่ ด้านทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาบอกว่าไม่น่าเชื่อถือ อีกทั้งรู้อดีตที่มาบังแจ็คเคยขายถั่วแถวพาหุรัดมาก่อน แต่บังแจ็คบอกว่าไม่เคย เคยแต่เป็นครูสอนภาษาในหลายโรงเรียน ทั้งโรงเรียนนานาชาติ มีทั้งโรงเรียนในพื้นที่ กทม. จ.นครราชสีมา จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย
โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ย่านหนองแขม ตามที่ทางบังเเจ็คได้กล่าวอ้าง ทีมข่าวเองได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าว เปิดสอนแบบนานาชาติ มีอาจารย์จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ มีนักเรียนหลากหลายสัญชาติที่มาเข้าเรียน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้บริหารได้มีการเชิญคุณครูที่ดูแลเรื่องของการรับสมัครครูต่างชาติมาให้ข้อมูลร่วมด้วย หลังจากที่ทางคุณครูได้ดูภาพดังกล่าวก็ให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นไม่เคยมีคุณครูที่ชื่อบังเเจ็ค ตามที่บังแจ็คบอกว่ามาเคยสอน ย้อนประวัติไป 10 กว่าปีก็ไม่พบ หากมองสิ่งที่เขาพูดอาจจะเป็นการแอบอ้าง เพราะโรงเรียนของเราเองเน้นรับสมัครครูผู้สอนเป็นชาวต่างชาติที่มาจากฝั่งยุโรปเป็นหลัก ไม่ได้เน้นครูชาวเอเชีย รวมไปถึงที่นี่ทางคุณครูจะไม่มีใครมีรอยสักนอกร่มผ้าด้วย "ยืนยันว่าโรงเรียนที่บังแจ็คมาเป็นครู ไม่ได้มีบังแจ็คมาเป็นครู"
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนอีกหนึ่งแห่งในพื้นที่ย่านแม่กลอง คุณครูให้ข้อมูลว่าจากการสอบถามบุคลากรครูคนเก่า ย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้ว ยืนยันว่าทางด้านบังแจ็คเคยมาสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษจริง ตามสัญญาอัตราจ้างบุคลากรครูสังกัดภาษาต่างประเทศ แต่ตอนนั้นกลับมีปัญหา เรื่องวุฒิที่มีการตรวจสอบภายหลังแล้วไม่ตรงกัน เลยทำให้บังแจ็คไม่ผ่านการคัดเลือก ส่วนถามว่าได้สอนสักระยะหนึ่งก่อนให้ออกหรือไม่ ในส่วนนี้ทางคุณครูเองไม่มั่นใจ เพราะค่อนข้างนานแล้ว อีกทั้งครูภาษาต่างประเทศเองก็เกษียณและผลัดเปลี่ยนไปหลายรอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพิ่งจะทราบชื่อและเรื่องราวว่าเขาเคยสอนที่นี่ หลังจากได้เห็นข่าวและคลิปเสียงที่ทีมข่าวเอามาให้ดู แต่ในส่วนเรื่องของคดีแตงโม ก็พอจะเห็นหน้าเขาผ่านหน้าสื่อบ้าง
ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับ บังแจ็ค หรือ ราชา ไฮเดอร์ เปิดเผยว่า ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าบังแจ็คไม่ยอมกลับมาที่เมืองไทยเลย ซึ่งส่วนตัวยืนยันว่ายังมีงานที่จะต้องทำอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่ไปเมืองไทยเพราะมีคดี เพราะจริง ๆ แล้วตัวเองไม่ได้มีคดีอะไร คดีเก่า ๆ ที่ผ่านมาก็หมดอายุไปนานแล้ว คดีหลบหนีเข้าเมืองก็ไม่เคยมี เพราะตอนที่ไปไทยก็เข้าไปด้วยวีซ่าคุณครูต่างชาติ 2 ปี ตนออกมาจากไทย 2-3 ปีแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่อยากกลับ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาเลย
ส่วนปัจจุบันได้เปิดบริษัทขายกัญชา รวมถึงยาสมุนไพรเกี่ยวกับกัญชา แล้วก็ยังขายอะไหล่ซูเปอร์คาร์ และบิ๊กไบก์ด้วย ทำให้ได้รู้จัก"ปอ"ด้วยเล็กน้อย รู้นิสัยกัน ก็เลยต้องเข้ามายุ่งมาเสื-กในคดีคุณแตงโมด้วย
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ตนเห็นข่าวพี่หนุ่ม กรรชัย ถูกบังแจ็คขู่ฆ่าจากเพจทนายตั้มแล้วแต่รู้สึกว่าเป็นข่าวเก่า เมื่อ 31 ธ.ค. 64 ปีที่แล้ว ตนไม่รู้ว่าผิดถูกอย่างไร แต่จำได้ว่าเป็นการขู่ตั้งแต่ตอนที่บังแจ็คออกรายการโหนกระแส ตนก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า
