ตำรวจมีเขิน! พ่อค้าบุกจับโจร โดดขวางรถทวงเงินค่าโกงสินค้า แฉโทรหาตำรวจไม่มา (คลิป)

กรณีกล้องวงจรปิดของร้าน มังกรทอง ขายของชำ ในพื้นที่หมู่ 1 ถ.พิกุลทอง ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง บันทึกภาพกระบะโตโยต้าแต่งซิ่ง ทะเบียน บพ 5529 ชัยภูมิ ซึ่งเป็นกลุ่มของแก๊งตบทรัพย์ พบเป็นชายจำนวน 3 ราย ขับเข้ามาในร้านของชำดังกล่าว เพื่อหลอกเสนอขายสินค้าอุปโภคและบริโภคในราคาถูก โดยแก๊งตบทรัพย์พยายามใช้กลอุบายลวงให้เจ้าของร้านซื้อสินค้าด้วยการจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น เพราะจะได้ไม่มีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

ล่าสุดวันที่ 6 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายชาญวิทย์ ศรีจรรยา หรือกร อายุ 33 ปี เจ้าของร้านชำดังกล่าวและเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า เวลาประมาณ 13.09 น. ของวันที่ 3 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุมาเสนอขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ขับรถกระบะก่อนเดินลงมา 1 คน ตอนแรกตนก็ปฎิเสธไป ตนจึงเสนอให้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์และไลน์เอาไว้ แต่แก๊งตบทรัพย์กลับบอกว่า "ไม่ได้ เดี๋ยวผิดกฎบริษัทฎ ตนก็เลยถามถึงราคาสินค้า พวกเขาก็ตอบได้หมดอย่างละเอียด ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดจริง ตนจึงแจ้งว่าจะเอาสินค้าบางรายการเท่านั้น 

แต่แก๊งตบทรัพย์กลับบอกตนว่า เลือกเอาบางรายการไม่ได้ เปิดบิลครั้งแรกจะต้องเอาตามรายการที่กำหนดมาแล้วเท่านั้น ก่อนที่ตนจะปฎิเสธอีกครั้ง แต่พวกเขากลับเสนอว่าหากสินค้าไหนที่ไม่ขายให้รับไว้ก่อน แล้วค่อยแลกสินค้าอื่นในรอบหน้า ตนจึงตอบตกลงและสั่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย แต่พวกเขาบอกว่า "วันนี้ไม่ได้นำมา จะเอามาให้วันถัดไป" ก่อนที่จะมีการคำนวณราคาเป็นเงินทั้งหมด 27,636 บาท จึงตกลงซื้อขาย และมีชายอีก 2 คน ยกของลงมาจากรถ ก่อนจะมาเรียงสินค้า และให้ตนตรวจเช็กสินค้า จำนวน 60 รายการ ทุกรายการจะเป็น 2 แพ็ก 2 โหล หรือ 2 กล่อง โดยธรรมชาติของการเช็กสินค้าจำนวนมาก ตนจะอ่านแค่ชื่อรายการสินค้ากับจำนวนแพ็ค โดยไม่ได้ดูราคา

ทั้งนี้ ก่อนที่ตนจะจ่ายเงินด้วยการโอน พวกเขากลับบอกว่า โอนไม่ได้ การเปิดบิลครั้งแรกจะต้องจ่ายเงินสด ก่อนที่ตนจะนับเงินสดเป็นธนบัตร 1,000 บาท ธนบัตร 100 บาท และธนบัตร 20 บาท เมื่อยื่นให้เขากลับนับเฉพาะธนบัตรใบละ 1,000 และ 100 โดยที่ไม่นับธนบัตรใบละ 20 ก่อนจะขับรถออกไปทันที

"ปกติผมไปซื้อของที่ห้างฯ ในราคา 2 หมื่นกว่าจะได้ของมากกว่านี้ เลยตรวจสอบรายการสินค้าอีกครั้ง ปรากฏว่าบิลไม่มีโลโก้บริษัทฯ ไม่มีที่อยู่ ไม่มีสำเนา เมื่อโทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุไว้ กลับติดต่อไม่ได้ และรายการสบู่ทั้งหมด 20 แพ็ก เขาคิดเป็นแพ็กละ 998 บาท รวมราคา 20 แพ็ก 19,960 บาท เลยเช็กราคาสบู่ปรากฏว่าราคาจริง ๆ อยู่ที่แพ็กละ 90 บาท ก็รู้ทันทีว่าถูกหลอกแล้ว ก็รีบไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ย่านตาขาว" เจ้าของร้านชำ กล่าว 

โดยที่ร้อยเวรให้ตนกลับมาหาหลักฐาน ก่อนจะได้ภาพกล้องวงจรปิดที่ร้าน 1 ตัว และไปขอดูกล้องจากเทศบาล ต.ย่านตาขาว เมื่อไล่กล้องพบว่าคนร้ายเดินทางมาจากตัว อ.เมืองตรัง โดยเจาะจงขับรถมาที่ร้านตน แต่ทุกกล้องไม่สามารถจับทะเบียนรถไว้ได้ เนื่องจากเป็นทะเบียนที่สีไม่ชัดเจน ซึ่งตนก็ได้มาตรวจสินค้าอื่น ๆ ก็รู้ว่าน่าจะซื้อมาจากห้างฯ ขายส่งแห่งหนึ่ง จึงเดินทางไปขอดูกล้องวงจรปิด แต่ห้างฯ แจ้งว่าจะต้องทำเรื่องไปถึงส่วนกลาง ทันใดนั้นรถยนต์ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาที่ห้างฯ ขายส่งแห่งนั้นจริง ๆ ตนจึงออกไปซุ่มดู เป็นชายทั้ง 3 คน เดินเข้าไปซื้อของ จึงถ่ายรูปรถและทะเบียนที่ซีดมาก แล้วก็รีบประสานร้อยเวรเพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ แต่กลับได้รับคำตอบว่า "ไม่มีชื่อ ออกหมายจับไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้" ตนจึงนั่งเฝ้ารถร่วมกับ รปภ. ประมาณ 30 พวกเขาก็เดินออกมา

หลังจากนั้น ตนจึงขับรถไปขวางหน้ารถพวกเขา ตนก็ชี้หน้าด่าว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ เขาจำตนได้และเดินเข้ามาเจรจาว่าจะคืนเงินให้ตน 28,000 บาท โดยในกระเป๋าเงินของพวกเขามีเงินสดเยอะมาก ซึ่งเงินที่คืนมานั้นมากกว่าราคาสินค้าที่ตนได้รับด้วยซ้ำ และเขาก็ไม่ขอของคืนด้วย ก่อนจะรีบขับรถหนีไปทันที 

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากเตือนร้านค้าอื่น ๆ ให้ระวังแก๊งพวกนี้ ซึ่งน่าจะไปก่อเหตุซ้ำอีกในพื้นที่อื่น ๆ จึงอย่าไปหลงเชื่อกลลวงว่าสินค้าราคาถูกจะมีอยู่จริง แต่ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ตนเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ และตนก็เสียความรู้สึกกับตำรวจมาก ๆ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตนได้เลย