สมภารล่องหน! สาวบุกแจ้งจับฉ้อโกงโยงร่วมแม่ชีร่างทรงลวงเงินล้าน วัดโต้สีกาคนธรรมดา (คลิป)

กรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี และทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พาผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกเจ้าอาวาสวัดดังในจังหวัดราชบุรี หลอกทำบุญยกช่อฟ้ากว่าล้านบาท เพราะหากไม่ทำจะเป็นบาป และตกนรก แต่สุดท้ายเงินจำนวนดังกล่าวที่โอนให้เจ้าอาวาส กลับไม่ได้นำไปใช้สร้างช่อฟ้า ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 30 มี.ค. 65 เวลา 10:00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางกนกพร หนูเรขา หรือ เก๋ อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย และนางดวงกมล เจนพาณิชการ หรือ ก้อย อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาพร้อมทนายพุฒิธร คงถาวร เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพระครูปลัดประพลณศักดิ์ เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก และนางสุมาลี แม่ชีร่างทรง ในฐานฉ้อโกงหลอกให้ทำบุญยกช่อฟ้าวิหารพระนอน มูลค่าความเสียหาย 1,100,000 บาท

นายพุฒิธร ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้นในวันนี้ตนพาผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เข้ามาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพระครูปลัดประพลณศักดิ์ ในฐานความผิดฉ้อโกง ซึ่งเจ้าพนักงานก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว ส่วนพฤติกรรมของพระครูปลัดประพลณศักดิ์ อ้างว่าจะให้ผู้เสียหายเป็นเจ้าภาพเฉพาะการสร้างช่อฟ้า แต่ภายหลังจากที่โอนเงินไปให้แล้วกลับไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังเร่งให้ผู้เสียหายคนที่ 2 โอนเงินให้ พร้อมกับพูดจาหว่านล้อม

กระทั่งโอนเงินไปให้ยอดแรก จำนวน 500,000 บาท และยอดที่ 2 จำนวน 100,000 บาท หากรวมกับเงินสดที่นำไปถวายครั้งแรก ก็รวมเป็นเงิน 1,100,000 บาท ส่วนตนมองว่าในการทำบุญ หรือการเป็นเจ้าภาพไม่สมควรที่จะเร่งให้โอนเงิน ส่วนนางสุมาลี ที่ได้มีการพูดจาหว่านล้อม ยังไม่ได้แจ้งความ คาดว่าพนักงานสอบสวนจะเรียกมาให้ปากคำในภายหลัง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับแม่ชีพร ประจำสำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก กล่าวชี้แจงว่า แม่ชีชื่อสุมาลี และแม่ชีฟ้า ที่ไปทวงเงินค่าทำบุญที่บ้านของผู้เสียหายนั้น ตนยืนยันว่าทั้งคู่ไม่ใช่แม่ชี และที่สำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก มีแม่ชีที่ชื่อสุ จริง จึงทำให้แม่ชีสุ เสียชื่อเสียง ส่วนคนที่ไปทวงเงินชื่อ สุมาลี เคยมาถือศีลปฏิบัติธรรม แต่ไม่ได้บวชเป็นชี และคนชื่อฟ้า เคยมาบวชชีจริง แต่สึกไปแล้ว ดังนั้นเจ้าอาวาส ไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนไปหลอกล่อหาเงินมาทำบุญแบบนี้ ตนทราบแค่ว่าทั้งคู่จะไปหาเงินมาช่วยสร้างช่อฟ้า แต่ไม่รู้ว่าจะหามาด้วยวิธีการเช่นนี้

ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นลูกศิษย์เจ้าอาวาส มาบวชเป็นชีอยู่ที่นี่ ตนก็ไม่เคยเห็นเจ้าอาวาสเรียกรับเงินจากใคร นอกจากนี้ ท่านมีญาณที่สื่อและดูได้ แต่ไม่เคยอวดอ้างเรียกเงินเรียกทองกับใคร เจ้าอาวาสเป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้ยากไร้ เป็นผู้ให้ ใครไม่มีข้าวกินก็มาขอที่วัดก็ได้ให้ทุกอย่าง ขณะเดียวกันตนอยากถามหมอปลาว่า นับถือศาสนาอะไร ทำไมถึงทำกับศาสนาพุทธเช่นนี้

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปทึ่ สำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก อ.สวยผึ้ง ราชบุรี อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงพบว่าพระครูปลัดประพลณศักดิ์ เจ้าอาวาสวัด ไม่ได้อยู่ภายในวัด เหลือเพียงแค่แม่ชี และพระส่งรูปอื่น ๆ เท่านั้น

ทีมข่าวได้สอบถามแม่ชี ประจำสำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น.วั พระครูปลัดประพลณศักดิ์ เจ้าอาวาสวัด ก็ได้ออกจากกุฏิ แต่ไม่ได้บอกว่าจะเดินทางไปที่ไหน ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเดินทางเข้าพบเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี แต่อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตเจ้าอาวาส ก็ยังคงไม่มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด หลังเกิดเรื่องก็มีพระผู้ใหญ่ และลูกศิษย์ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนมองว่าเจ้าอาวาสน่าจะไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากเท่าที่ได้สัมผัส เจ้าอาวาสเป็นพระปฏิบัตดี จึงอยากให้กำลังใจ "สู้ ๆ" เพราะตนมั่นใจว่า หลังจากนี้ความจริงจะปรากฏว่าเป็นมาอย่างไร

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนางสุมาลี ที่อ้างตัวเป็นแม่ชีร่างทรง ภายในพื้นที่ ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล และเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หลอกให้เหยื่อทำบุญยกช่อฟ้า แต่เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่ ประตูบ้านถูกปิดล็อกด้วยแม่กุญแจ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางนิด (นามสมมติ) เพื่อนบ้านสุมาลี กล่าวสั้น ๆ ว่า นางสุมาลี เป็นเพื่อนบ้านที่มีนิสัยคบได้ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน แต่กรณีที่ว่านางสุมาลี เป็นร่างทรง ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ไม่รู้ว่าเป็นร่างทรงของอะไร แต่จากการสังเกตเวลาเข้าทรงก็มักจะร้องไห้อยู่ตลอด อีกทั่งมักชอบชักชวนให้ตนร่วมทำบุญด้วย ซึ่งตนก็ร่วมทำตามกำลังศรัทธา กระทั่งมาทราบข่าวตนก็ไม่พบหน้าเขาอีกเลย ก็ไม่รู้ว่าออกไปไหน ทั้งนี้ ในฐานะเพื่อนบ้านก็รู้สึกตกใจ หากนางสุมาลี ไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวจริง ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ให้การกับตำรวจ นางดวงกมล เจนพาณิชการ หรือ ก้อย อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย กล่าวยืนยันว่า ขณะที่ไปทำบุญที่วัด พระครูปลัดประพลณศักดิ์ เป็นคนพูดจาหว่านล้อมพร้อมกับทักตนว่า “ดวงไม่ดี ต้องทำบุญในที่สูง ยกช่อฟ้าเท่านั้น” ประกอบกับพ่อของตนไม่สบายทำให้ตนกลัว จนหลงเชื่อจำยอมโอนเงินให้เจ้าอาวาส ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสเบิกเงินออกมาก่อสร้างแล้วนั้น อยากให้ตำรวจสืบสวนและขยายผลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและบัญชีของเจ้าอาวาสด้วย เพราะอาจเข้าข่ายการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อสอบถามไปยังพระครูจริยาธรรมานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ให้ข้อมูลว่า อาตมารับทราบเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากข่าวแล้ว ขณะนี้คณะสงฆ์กำลังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นก็ได้ติดต่อสอบถามไปยังพระครูปลัดประพลณศักดิ์ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจะต้องสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป