มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยผลตรวจ ไส้กรอก ในอยุธยา พบทุกตัวปนเปื้อนสารต้องห้าม

29 มี.ค. 65

29 มี.ค. 65 ผลตรวจ ไส้กรอก ในอยุธยา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ฉลาดซื้อจับมือองค์กรผู้บริโภคภาคกลาง เผยผลทดสอบวัตถุกันเสียในไส้กรอก พื้นที่ จ.อยุธยา พบทุกตัวอย่างปนเปื้อนสารที่ อย. ไม่อนุญาตให้ใช้

ฉลาดซื้อ ร่วมกับองค์กรผู้บริโภคภาคกลาง สสส. เผยผลทดสอบวัตถุกันเสียในไส้กรอก จำนวน 17 ตัวอย่าง ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตลาดวังน้อย เมืองใหม่, ตลาดเจ้าพรหม, ห้างแมคโคร อยุธยา และร้านซีพีเฟรชมาร์ท สาขาอยุธยา เดชาวุธ เนื่องจากพบโรงงานผลิตไส้กรอกไม่ได้มาตรฐานใน จ.พระนครศรีอยุธยา

ภก.สันติ โฉมยงค์ เภสัชกร องค์กรผู้บริโภคภาคกลาง กล่าวสรุปผลทดสอบว่า

1.พบสารไนเตรทในทุกตัวอย่าง ปริมาณตั้งแต่ 20.67 – 112.61 มก./กก. ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ. 2563 ไม่อนุญาตให้ใช้สารไนเตรทในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บดและผ่านกรรมวิธีโดยใช้ความร้อน (ไส้กรอกสุก หมูยอ ไก่ยอ ลูกชิ้น)

2.พบสารซอร์บิก ปริมาณเกินมาตรฐาน 1 ตัวอย่าง ได้แก่ ฮอทดอกไก่ (ไส้กรอกไก่) ตราพีแอนด์เจ ปริมาณ 2191.75 มก./กก. ซึ่งเกินมาตรฐานที่กำหนด ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ. 2563 ที่อนุญาตให้ใช้กรดซอร์บิก ซึ่งเป็นสารกันเสีย ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บดและผ่านกรรมวิธี ได้ไม่เกิน 1500 มก./กก. โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามใช้ร่วมกับสารกันเสียในกลุ่มไนไตรท์

3.พบสารเบนโซอิก 3 ตัวอย่าง ได้แก่ Kfm ไส้กรอกไก่รมควันหนังกรอบ ป๊อบปูล่า ปริมาณ 148.28 มก./กก., ฮอทดอกไก่ (ไส้กรอกไก่) ตราพีแอนด์เจ ปริมาณ 58.87 มก./กก. และ CFP ไส้กรอกจัมโบ้หมูรมควันหนังกรอบ ปริมาณ 41.05 มก./กก. ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ. 2563 ไม่มีเกณฑ์กำหนดให้ใช้วัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก

4.พบสารไนไตรท์ใน 12 ตัวอย่าง ไม่พบ 5 ตัวอย่าง ทั้งนี้ปริมาณที่พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (<10.00 – 53.74 มก./กก.) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ. 2563 อนุญาตให้ใช้สารกลุ่มไนไตรท์ ในปริมาณไม่เกิน 80 มก./กก.

นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล อนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาองค์กรของผู้บริโภคในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่แทนผู้บริโภค มีข้อเรียกร้องไปยัง อย. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล และข้อแนะนำไปยังหน่วยงานอื่นและผู้บริโภค เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าและบริการ ดังนี้

820457

1. เรียกร้องให้ อย. ประสานข้อมูลกับพื้นที่และพัฒนาระบบเฝ้าระวังและระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพและทันการณ์มากยิ่งกว่านี้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นซ้ำอีก โดยมีการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.1 เชื่อมโยงข้อมูลทั้งระบบเข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกในการส่งต่อข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ยังต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับสถานพยาบาลที่มักเป็นแหล่งที่มีผู้ป่วยจากการกินหรือใช้ผลิตภัณฑ์อันตรายเข้ารักษาตัวด้วย

1.2 นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงานเพื่อให้เกิดระบบการเฝ้าระวังและตรวจจับอัตโนมัติ เพื่อเตือนภัยผู้บริโภคได้ทันเหตุการณ์หากเจอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัย

1.3 สนับสนุนให้ผู้บริโภคและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง โดยใช้เทคโนโลยีที่ง่าย ไม่ซับซ้อนและส่งต่อข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ส่งต่อข้อมูลจากสถานพยาบาลไปยังจังหวัดที่พบเด็กป่วยจากการกินไส้กรอกและให้จังหวัดเหล่านั้นตรวจสอบพิสูจน์ต่อว่าโรงงานผลิตไส้กรอกที่มีอยู่ในจังหวัดขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และ ไส้กรอกที่ผลิตใส่สารกลุ่มไนเตรทหรือไนไตรท์เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากพบว่าผิดกฎหมายจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ผลิต ไม่ควรทำเพียงแค่การตักเตือน เนื่องจากมีผู้ที่ได้รับอันตรายจากการกินอาหารอันตรายเข้าไป

3. ผู้บริโภคจะต้องไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากระบุอยู่ และต้องให้ข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูลให้กับบุตรหลานและผู้บริโภครายอื่นๆ อีกทั้งยังต้องช่วยกันเฝ้าระวังและส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบติดตาม

อ้างอิง https://consumerthai.org/consumers-news/ffc-news/4701

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เผยผลตรวจ ไส้กรอก ทั่วประเทศพบ 22 ตัวอย่างไม่ได้มาตรฐาน-ใช้ไก่แทนหมู
- เช็ก 13 ยี่ห้อ ไส้กรอก -หมูยอ ถูก อ.ย. จับใน 2 โรงงานที่พระนครศรีอยุธยา
- ไส้กรอกทอด 1 ชิ้น เทียบเท่าน้ำมัน 3 ช้อนชา กินมาก สะสมนาน เสี่ยงอ้วน-คอเลสเตอรอลสูง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส