กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า ไม่พอใจร้านชาบูที่ปรับเงินสูงถึง 1,000 บาท เนื่องจากสั่งอาหารมาแล้วแต่กินไม่หมด ซึ่งที่ทำให้ไม่พอใจ คือ ทางร้านตักเศษอาหารในหม้อและในถ้วยไปชั่งน้ำหนัก เพื่อคิดเป็นเงินค่าปรับ ทั้ง ๆ ที่หมูเหนียวจนกลืนไม่ลง และอ้างว่าพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟให้ผิดเมนู สั่งหมูแต่ได้บะหมี่หยก จึงต้องกินบะหมี่หยกจนอิ่ม
ล่าสุดวันที่ 28 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ร้านชาบูตัวดี จังหวัดนครปฐม พบว่ามีป้ายเงื่อนไขการทานบุฟเฟต์แปะประกาศอยู่ที่บานประตูของร้าน โดยมีข้อความระบุว่า ถ้าทานไม่หมด ทางร้านจะขอคิดค่าปรับ และหากถ้าสั่งผิด สามารถเปลี่ยนคืนได้ภายใน 5 นาที
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายภาสกร มีมูลทอง อายุ 24 ปี เจ้าของร้าน ได้มอบภาพวงจรปิดช่วงที่พนักงานนำคอนโดอาหารของลูกค้ามาเก็บ เพื่อยืนยันว่าลูกค้าทานเหลือเยอะมากถึง 20 กว่าคอนโด
นายภาสกร เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุลูกค้าโต๊ะดังกล่าว เข้ามานั่งทานบุฟเฟต์ จำนวน 7 คน คิดค่าหัวเริ่มต้นคนละ 199 บาท และค่าบุฟเฟต์น้ำคนละ 59 บาท รวมเป็นคนละ 258 บาท ซึ่งในช่วงแรก ๆ ลูกค้าสั่งอาหารทีเดียว 50 คอนโด กระทั่งช่วงจ่ายเงินลูกค้าทานอาหารไม่หมด เหลืออาหารอีก 20 คอนโด ทางร้านจึงจำเป็นต้องปรับค่าอาหาร เนื่องจากเหลืออาหารเยอะเกินไป
โดยอาหารในหม้อมีประมาณ 3 ขีด เนื้อล้วน ๆ ไม่มีเศษหมูและไม่มีน้ำ ส่วนในคอนโด 1.7 กิโลกรัม ทางร้านจึงปรับขีดละ 50 บาท ซึ่งลูกค้าทานเนื้อเหลือถึง 20 ขีด จึงรวมค่าปรับเป็นเงิน 1,000 บาท รวมยอดค่าอาหารและค่าปรับเป็นเงิน 2,806 บาท ซึ่งเนื้อที่ลูกค้ากินเหลือก็ห่อให้ลูกค้ากลับบ้าน
ในช่วงที่แจ้งลูกค้าว่า "มีค่าปรับนะ" ลูกค้าก็ยินยอมและจ่ายเงินตามปกติ กระทั่งในช่วงเวลา 22.00 น. หนึ่งในลูกค้านำสลิปค่าอาหารไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และกล่าวโจมตีที่ร้านปรับเงินค่าอาหาร ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าลูกค้าจะติดใจ เพราะเขาไม่ได้แสดงอาการหรือแสดงออกอะไร อีกทั้งในช่วงก่อนสั่งอาหาร พนักงานก็แจ้งกฎก่อนอยู่แล้วว่า "ถ้าท่านไม่หมดจะต้องมีค่าปรับ" รวมถึงมีประกาศติดทั่วร้าน และประตูทางเข้าเพื่อให้ลูกค้าสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการ ตนก็ไม่อยากจะปรับลูกค้า แต่จำเป็นต้องตั้งกฎมาเพื่อให้ลูกค้าสั่งอาหารแต่พอดี ในเคสนี้ลูกค้าทานเหลืออาหารมากเกินไป ตนก็จำเป็นต้องปรับเป็นเงิน และห่อให้ลูกค้ากลับบ้านด้วย ซึ่งตนก็อยากให้ลูกค้าเห็นใจ เพราะวัตถุดิบทุกอย่างก็มีต้นทุนสูง ในเบื้องต้น ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม เพราะลูกค้าผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กทำให้ร้านเสียชื่อเสียง ซึ่งล่าสุดคู่กรณีโทรศัพท์มาหา แต่ตนก็ยังไม่ได้พูดคุยอะไร และตนทราบเรื่องว่าคู่กรณีลบโพสต์ไปแล้ว
