ปรเมศวร์ดับฝันพวกเชียร์ "คดีแตงโม" ยังไม่เข้าเกณฑ์ให้ DSI ทำ (คลิป)

28 มี.ค. 65

วันที่ 28 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายไตรยฤทธ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยคณะแพทย์จากสถาบันนิติเวชวิทยา สตช. และคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แถลงการประชุมร่วมคณะแพทย์ เพื่อวางแผนการสืบสวนสอบสวน กรณีการเสียชีวิตของแตงโม เนื่องจากมีผู้เข้ายื่นหนังสือขอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ

661274

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริง เพราะคดีมีความซับซ้อน อาจมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน หรือเบี่ยงเบนการชันสูตรการเสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดนั้น ซึ่งตามกฎหมายประชาชนทั่วไป นิติบุคคลสามารถร้องเรียนได้

การประชุมครั้งแรกในวันนี้ ดีเอสไอเชิญผู้แทนแพทย์จาก 2 หน่วยงาน เป็นผู้เริ่มผ่าศพครั้งแรกและครั้งที่ 2 มาให้ข้อเท็จจริง เป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเพื่อประกอบสำนวน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือน เม.ย. ก่อนส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มี นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษสรุปว่ารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

592975

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า ส่วนแม่ของแตงโมไม่ต้องการให้เป็นคดีพิเศษนั้น แต่หากเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องพิจารณาตามขั้นตอนเพราะอาจเข้า 5 เงื่อนไข เช่น คดีมีความซับซ้อน, เป็นที่สนใจของสังคม, กระทบต่อความมั่นคง, เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และเกี่ยวข้องผู้มีอิทธิพลหรือเจ้าหน้าที่รัฐก็สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้

623781

อย่างไรก็ตาม คดียังอยู่ในความรับผิดชอบตำรวจหากสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องอัยการไปก่อน ดีเอสไอจะไม่สามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อได้ เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ดีเอสไอจึงสามารถรับมาพิจารณาเป็นคดีพิเศษต่อไปได้

โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้เรื่องนี้ตัวผู้เสียหายโดยตรงจะมิได้มาร้องขอ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่สาธารณชนมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ประกอบกับเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐมีหน้าที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาต่อไป

ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีดีเอสไอพิจารณาคดีแตงโมว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังมีผู้ที่เข้าร้องเรียน ระบุว่า ปกติการทำคดีพิเศษ คือคดีลักษณะที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เป็นคดีที่มีความซับซ้อน ซึ่งคดีของแตงโม เชื่อว่าตำรวจสืบสวนสอบสวนจนเกือบจบแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็ถือเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาของดีเอสไอโดยตำแหน่ง เชื่อว่าการพิจารณาก็ต้องถามความเห็นจาก ผบ.ตร. ก่อนอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาก็ทราบว่า ผบ.ตร. ติดตาม และสั่งการทางคดีมาตลอด จึงคิดว่าไม่น่าจะโอนสำนวนคดีไปดีเอสไอ ซึ่งหากดีเอสไอรับคดีไปจริง ก็เป็นการนำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการต่อ ไม่ใช่การทำใหม่ โดยจากการดูองค์ประกอบในคดีแตงโม มองว่ายังไม่เข้าองค์ประกอบที่จะรับเป็นคดีพิเศษ เพราะผู้กระทำความผิดก็ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงไม่ได้เป็นคดีที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ

240070

โดยกรณีที่อดีตผู้พิพากษาบางราย โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ถ้าดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ก็ให้รับสารภาพเสียเถอะ เพราะคดียอมความไม่ได้" ตนมองว่าไม่เกี่ยว บางคดีที่ดีเอสไอทำ ผู้ต้องหาปฏิเสธออกมาต่อสู้ไม่ต้องติดคุกก็มี เช่น คดีบิลลี่ ที่นายชัยวัฒน์เป็นผู้ถูกกล่าวหา หรือบางคดีที่ตำรวจทำ ก็มีทั้งยกฟ้องและติดคุก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ส่วนกรณีที่แม่ยื่นหนังสือต่อ กมธ.สิทธิมนุษยชน ให้ยุติบทบาทการพิจารณาคดีแตงโมนั้น ตนมองว่าแม่และทนายเดชายอมรับได้ในเหตุผลที่ตำรวจอธิบายให้ฟัง เช่น เรื่องผลชันสูตรทั้ง 2 ครั้งที่ตรงกัน ซึ่งสามารถเข้าใจได้ โดยอาจจะรู้ข้อเท็จจริงบางอย่างที่ประชาชนทั่วไปยังไม่รู้

กรณีที่มีบุคคลจำนวนมากออกมายื่นหนังสือ รวมถึงร้องให้สอบเกี่ยวกับคดีแตงโม ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี สังคมบางส่วนก็วิเคราะห์ว่าหิวแสงอยากดัง ซึ่งตนก็ไม่รู้วัตถุประสงค์ของคนกลุ่มนี้ เข้าใจว่าอยากเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ถามกลับว่าแล้วคดีอื่นไม่ต้องเรียกร้องความเป็นหรือ โดยคดีนี้อยากให้รอบทสรุปจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน คาดว่าจะมีการแถลงข่าว หลังจากนั้นสังคมค่อยพิจารณา และตัดสินอีกครั้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส