ระทึก! บุกจับไอ้คลั่งหลอนยานั่งแท็กซี่ฆ่าเพื่อนสนิท แม่สุดเศร้ากอดลูกตายคาอก (คลิป)

กรณีช่วงกลางดึกของวันที่ 25 มี.ค.65 พ.ต.ท.จักรวุฒิ พรมแดง สวป.สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก ชุมชนซอยร่วมใจพัฒนา ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู พบพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายทศพร พ่วงเรือ อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิตในห้องนอนชั้นล่าง

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นชุมชนอยู่ด้านหลังกองกำกับการสุนัขตำรวจ ลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยห้องที่เกิดเหตุ คือ ห้องนอนชั้นล่าง

ทีมข่าวสอบถามเพื่อนบ้าน กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ตนได้ยินเสียงปืนรัวดัง แต่กลัวจึงไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเหตุสงบลงจึงทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายทศพร พ่วงเรือ หรือ แคมป์ ถูกนายวรชิต แซ่เตีย หรือ เบนซ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงแล้วหลบหนี ซึ่งตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเขาทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ก่อนนายวรชิต ก็อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันตั้งแต่เล็ก ๆ ภายหลังย้ายออกไปอยู่ย่านคูคต จ.ปทุมธานี ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า แต่จะมาหานายทศพร เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นทั้ง 2 คนทะเลาะกัน เขาก็ดูรักกันดี แต่นายวรชิต เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดจาและมีอาการป่วยทางประสาท ตั้งแต่ช่วงอายุ 18 ปี ตนก็ไม่แน่ใจว่าขาดยารักษาหรือไม่ จึงทำให้เกิดภาพหลอน ส่วนนายทศพร เป็นคนนิสัยดีไม่เคยสร้างปัญหาให้กับคนรอบข้าง เพิ่งได้งานทำประมาณ 3 เดือน ส่งเงินให้พ่อแม่และลูกใช้ทุก ๆ เดือน 

ทั้งนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ คลิปที่ 1 ความยาว 10 วินาที จับภาพนายวรชิต นั่งรถแท็กซี่มาจอดที่แฟลตตำรวจ จากนั้นลงจากรถแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้เสียชีวิต

คลิปที่ 2 ความยาว 26 วินาที จับภาพนายวรชิตหลังก่อเหตุ เดินกลับมาขึ้นรถแท็กซี่

คลิปที่ 3 ความยาว 32 วินาที เวลาประมาณ 01.16 น. จับภาพรถแท็กซี่ ขับเข้ามารับนายวรชิต ขึ้นรถแท็กซี่

คลิปที่ 4 หลังก่อเหตุ ความยาว 1 นาที 28 วินาที จับภาพรถแท็กซี่เข้ามาส่งที่บ้าน นายวรชิต ลงจากรถ เดินออกจากบ้านอีกครั้ง หายไปประมาณ 2 นาที ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน

คลิปที่ 5 ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. จะเห็นพี่สาวคนก่อเหตุ และพี่เขยคนก่อเหตุเข้ามาที่บ้าน

คลิปที่ 6 ช่วงเวลาบุกจับ ความยาว 3 นาที 15 วินาที ตำรวจหิ้วตัวนายวรชิตออกมา จากนั้นมีการล็อกตัวและปฐมพยาบาลนายวรชิต นำส่งโรงพยาบาล

ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปยังวัดเทวสุนทร ในพื้นที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ภายในศาลาวัดที่ 6 ถูกจัดตั้งงานศพของนายทศพร พ่วงเรือ อายุ 26 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ทีมข่าวมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนางสาวศริกูล พันธุรี อายุ 56 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า นายทศพร เป็นลูกชายคนเล็กที่ยังอาศัยอยู่กับตน จึงมีความสนิทสนมกันมาก ๆ เขาเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร หรือคนก่อเหตุก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่เคยเห็นว่าทั้ง 2 คนมีปัญหากัน อีกทั้งนายวรชิต ก็มักจะเข้ามาเที่ยวเล่นที่บ้านเป็นประจำ ๆ  ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ขณะนั้นตนนอนหลับไปแล้วกับสามี ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ส่วนนายทศพร นอนอยู่ชั้นล่างคนเดียว ตนสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนกระทืบประตู จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกชายตะโกนว่า “เบนซ์ อย่า ๆ ๆ เบนซ์” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนรัวหลายนัด จังหวะนั้นตนและสามีวิ่งจากชั้น 2 ลงมาดูก็เห็นว่านายวรชิต รีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป

จากนั้นตนจึงรีบเข้าไปดูลูกชาย พบว่าถูกยิงหลายตำแหน่ง และเขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็สิ้นลมหายใจไปก่อน ตนไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไร และก็อยากถามนายวรชิต เช่นกันว่ายิงลูกชายของตนทำไม ทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนสภาพจิตใจของตน ขณะนี้ยังคงทำใจไม่ได้ หลังเกิดเหตุแม่ของนายวรชิต โทรศัพท์มาจากฮ่องกงเพื่อขอโทษ และแสดงความเสียใจ โดยจะยินยอมช่วยเหลือชดใช้ค่าใช้จ่าย และอ้างว่านายวรชิตป่วยทางจิต ฉะนั้นหากรู้ว่าป่วยก็ต้องเอาไปรักษา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นภัยสังคมแบบนี้ สุดท้ายลูกชายของตนก็ต้องมารับเคราะห์กรรม

"ไม่ได้ต้องการให้มารับผิดชอบอะไร แค่อยากได้ลูกชายคืน เพราะเขาเป็นคนดี และเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่วนคนก่อเหตุถ้ามีสำนึกก็อยากให้ขอขมาศพ แต่แม่จะยังไม่ขออโหสิกรรมให้ และอยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เพราะพี่เขยของผู้ต้องหาเป็นตำรวจชุดสืบสวนอยู่ที่สน.ทุ่งสองห้อง" แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวทิ้งท้าย 

นายสุรัตน คชสาร อายุ 61 ปี ญาติผู้ต้องหา กล่าวว่า นายวรชิตตอนเป็นเด็กนิสัยดี อาจจะมีเกเรบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย แต่ก่อนตนจะเป็นคนห้ามปราม เวลาเห็นนายวรชิตเกเร และช่วงเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 18 ปี นายวรชิตป่วยเกี่ยวกับจิตเวช เนื่องจากติดยาเสพติด ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังกินยาอยู่หรือไม่ แม่นายวรชิตเคยพาไปอยู่ที่ฮ่องกงด้วย แต่สุดท้ายก็ส่งกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากมีอาการหงุดหงิดง่าย โวยวาย ทำลายข้าวของ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังทานยารักษาอยู่หรือไม่ สอบถามจากพี่สาว ก็ไม่มีใครทราบ

ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนรักกัน ตนก็เห็นทั้งคู่มาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ส่วนหลานของตนเขาอาจจะเก็บกด และมีเรื่องของยาเสพติด รวมถึงขาดยารักษาตัว จึงอาจจะทำให้เกิดภาพหลอน แล้วลงมือก่อเหตุ อาวุธปืนไม่มีใครทราบว่านายวรชิตไปซื้อมาตอนไหน เพราะเคยเห็นแค่ชอบเล่นยิงธนู หลังจากเกิดเหตุก็ได้แต่ให้กำลังใจแม่ของนายทศพร เรื่องการประกันตัวครอบครัวก็ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน คาดว่าไม่น่าจะประกันตัว และเชื่อว่าหลายเขย เป็นตำรวจที่ดี จะไม่ช่วยนายวรชิต อยู่แล้ว เขาจะทำตามกฎหมายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ให้ข้อมูลว่า หลังจากจับตัวนายวรชิตได้ก็นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการสอบปากคำฝ่ายใด แต่มีรายงานว่าเกิดอาการหลอนจากการป่วยจิตเวช ซึ่งจะมีการตรวจหาสารเสพติดต่อไป และจะต้องสอบปากคำอย่างละเอียด หลังผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาล เบื้องต้นจะถูกตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น ไว้ก่อน