ถึงทางตัน! แม่กรอกยาลูกพิการเซ่นเงินกู้ สุดสลดตายยกครัวเด็ก 13 กำพร้า

กรณีเวลา 16.45 น. ของวันที่ 19 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.กฤษณะ สระบัว รองสว. (สอบสวน) สธ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุพบศพคนกินยาฆ่าตัวตาย 2 ศพ เหตุเกิดที่หมู่บ้านท่าดินสอพอง หมู่ 7 ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณเตียงไม้ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านพบร่างของนางพยุง อายุ 51 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียง ในสภาพสวมเสื้อคอกระเช้า และสวมผ้าถุง ตามร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ พบเพียงซองยาฆ่าแมลงที่ถูกฉีกแล้ว พร้อมแก้วที่มียาฆ่าแมลงอยู่ภายในวางไว้ข้างเตียง

นอกจากนี้ ยังพบแก้วอีกใบที่มีการชงกาแฟผสมยาฆ่าแมลงวางไว้บนตู้เย็นด้านข้างเตียงอีกหนึ่งใบ ภายในบ้านบ้านยังพบร่างของ นางสาวจารุวรรณ อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าประตู เนื่องจากล้มลงไปกระแทกกับประตูกระจกหน้าบ้าน จนกระจกแตกกระจาย แต่ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลใด ๆ พบเพียงคราบยาฆ่าแมลงและคราบน้ำลายบริเวณปากของผู้เสียชีวิตเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังพบจดหมาย ที่ผู้ตายเขียนไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต โดยจดหมายระบุเนื้อหาว่า "ถึงเปิ้ล (นางพะเยา น้องสาวของผู้ตาย) ช่วยจัดการงานศพให้พี่กับน้องโบว์ด้วย ไม่ต้องสวด เผาเลย มีเงินสมาชิกหมู่บ้าน ในเขาน้อย ให้พัฒน์ ประกันสังคมด้วย มีเงินทำไว้ ในพัฒน์หมดเลย จัดการเรื่องบ้าน ให้เขายึดไปเลย รบกวนด้วยนะน้อง"

ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดหัวหิน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของของนางพยุง อายุ 51 ปี ผู้เป็นแม่ และนางสาวจารุวรรณ อายุ 23 ปี ผู้เป็นลูก โดยครอบครัวจะนำศพแม่วางไว้ด้านบน และนำศพของลูกสาววางไว้ด้านล่าง สำหรับวันนี้เป็นวันแรกในการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม และในวันที่ 23 มี.ค. 65 จะเป็นพิธีฌาปนกิจศพ

ลูกชายของนางพยุง อายุ 13 ปี กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่ตนเห็นแม่กับพี่สาว คือ เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.65) เวลาประมาณ 11.00 น. ก่อนที่ตนจะออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ สังเกตเห็นว่าทั้งคู่กำลังนอนตามปกติ และยังไม่เห็นว่ากินอะไร จนเวลาผ่านไปประมาณ 16.00 น. ตนกลับมาที่บ้าน และเห็นว่าแม่ยังนอนอยู่ เปิดพัดลมทิ้งไว้ แต่พอมองไปที่พื้น พบว่ามีรอยกระจกแตก ใกล้ ๆ กัน พี่สาวนอนน้ำลายยืด ตนเลยรีบไปหาเงินมาเติมโทรศัพท์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนในพื้นที่ ทั้งนี้ ใกล้ ๆกับจุดพบศพ มีแก้วน้ำวางอยู่ คาดว่าทั้งคู่น่าจะกินยาฆ่าแมลง แต่ตนไม่ทราบว่านำยามาจากไหน สาเหตุเกิดมาจากความเครียดเกี่ยวเรื่องหนี้สินและเรื่องสุขภาพ

สำหรับเรื่องหนี้สินนั้น แม่ของตนติดหนี้ประมาณ 3 เจ้า และแต่ละเจ้าไม่ต่ำ 2 หมื่นบาท ได้แก่ หนี้ไฟแนนซ์ เป็นรถจักรยานยนต์ ประมาณ 40,000 บาท และบ้านที่นำไปจำนองไว้ ประมาณ 60,000 บาท ส่วนหนี้นอกระบบ ประมาณ 25,000 บาท แต่ก่อนที่จะเกิดเหตุ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีใครมาทวงเงินที่บ้าน เพราะถ้ามาทวงก็จะโทรมาก่อน แต่เวลาพวกเขาเข้ามาทวงเงิน เขาจะพูดดี สอบถามว่า "มีเงินหรือยัง"

ด้วยเหตุนี้ตนเชื่อว่า นอกจากเรื่องหนี้สิน แม่น่าจะเครียดเรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะแม่มีโรคประจำตัวรุมเร้า ได้แก่ เบาหวาน ความดัน นิ่วในกรวยไต นิ่วในถุงน้ำดี เส้นเลือดในสมองตีบ โรคผิวหนัง อีกทั้งช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะไปผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งโรคประจำตัวนั้นส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต ทำให้แม่เดินไม่ค่อยได้ นอกจากนี้ แม่ของตนยังรับภาระทำงานเพียงคนเดียว ด้วยอาชีพขายพวงมาลัยตามท้องถนน ซึ่งรายได้จะอยู่ที่ประมาณ 50-300 บาท ถ้าวันโกน-วันพระ ก็อาจจะขายได้วันละประมาณ 350 บาท แต่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

หลังจากนี้ ตนคงจะต้องไปอยู่กับญาติ ๆ เพราะบ้านหลังนี้คงจะปล่อยให้เขายึด และที่บ้านไม่เหลือใครแล้วด้วย เนื่องจาก เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตอนที่ตนอยู่ ป.3 พี่สาวที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ส่วนเมื่อ 2-3 ปี ขณะที่ตนอยู่ ป.5 พ่อของตนก็เสียชีวิต ด้วยโรคประจำตัวเช่นกัน สำหรับหนี้สิน ตนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะตนยังเด็ก และคงจะไม่ได้ชดใช้คืน