"ปรเมศวร์" ป้องษิทราไม่ใช่กุนซือก๊วนเรือ "สันธนะ" จ่อแฉพยานมัดแตงโมถูกเชือด (คลิป)

กรณี อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผมให้สัมภาษณ์ว่าที่ห้าคนแจ้งความช้า เพราะมีนักกฎหมายแนะนำ แต่ผมไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร ตั้มน้องชายผมไม่เกี่ยวครับ" จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเริ่มจากในตอนแรก อ.ปรเมศวร์ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่ามีนักกฎหมายคนหนึ่ง ห้ามคนบนเรือไม่ให้ไปหาตำรวจ แต่ต้องไปพบกับนักกฎหมายคนดังกล่าวก่อน แต่มีสื่อบางสื่อไประบุว่าเป็นทนาย "ต" ทำให้อ.ปรเมศวร์ มีความกังวลว่าจะเกิดความเข้าใจผิด

หลังจากนั้น อ.ปรเมศวร์ จึงได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่รู้ว่านักกฎหมายคนดังกล่าวเป็นใคร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ทนายตั้ม และบอกว่าตนเป็นน้องรักของเขา ซึ่งในกรณีดังกล่าวตนและ อ.ปรเมศวร์ ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ตนก็เข้าใจว่า อ.ปรเมศวร์ ไม่ได้กล่าวถึงตน ซึ่งในส่วนนี้ตนขอยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนอยากฝากถึงสื่อดังกล่าวว่า หากจะลงข้อมูลอะไรก็อยากให้ตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นสื่อที่นำเสนอว่า เป็นทนาย "ต" ก็ได้มาขอโทษตนเป็นเรียบร้อย และบอกว่าจะแก้ไขเนื้อหาข่าว ทำให้ตนเข้าใจว่าที่ทำไปเพราะทำตามหน้าที่ แต่ก็อยากให้นักข่าวไตร่ตรอง เพราะการนำเสนอผ่านสื่อจะทำให้คนในสังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ 

ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่า กรณีทนายดังแนะนำกับก๊วนบนเรือ ว่ายังไม่ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนมองว่าเป็นเทคนิคของทนายความที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ตัวเอง ซึ่งอาจจะยังไม่ทราบเรื่องรายละเอียดทั้งหมด และก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนด้วย ที่หละหลวมไม่ได้เรียกสอบตั้งแต่เดี๋ยวนั้น ส่วนประเด็นเรื่องบาดแผลที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนมุ่งไปแต่เกิดเหตุบนเรือ คราบเลือดก็ต้องตรวจเจอถ้าเกิดบนเรือ หรือไม่ก็ต้องพบดีเอ็นเอปัสสาวะของสาวแตงโมท้ายเรือ ซึ่งตนไม่เคยระบุว่าเกิดขึ้นบนเรือ แต่มั่นใจว่าเกิดขึ้นบนบก และไม่ใช่คนบนเรือด้วย และเมื่อสาวแตงโมทราบข้อเท็จจริง ก็อาจจะขัดขืนต่อสู้จนเกิดบาดแผล

ทั้งนี้ สิ่งที่ตนออกมาพูดไม่ได้กล่าวปากเปล่า แต่พูดจากข้อมูลพยานแวดล้อมที่ได้สืบหามา และรวบรวมข้อมูลไปให้พนักงานสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.65 ซึ่งตนไม่รู้ว่าว่าจะถูกเมินเฉยหรือไม่ และไม่ยอมเปิดประเด็นนี้ อีกทั้งยังมีการลงบันทึกประจำวันไว้ในแต่ละพื้นที่ที่พบพยานแวดล้อม ส่วนที่ตนยังไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะหลักฐานจากปากคนบนเรือไม่เพียงพอ และจากข้อมูลที่มีไม่พบหลักฐานที่เข้าข่ายว่าคืออุบัติเหตุ ตนยืนยันว่าข้อมูลที่มีเชื่อถือได้ ผลชันสูตรบางส่วนออกมา ยิ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ตนมี และคดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่สังคมจับจ้อง

"ตอนนี้รอผลชันสูตรแบบ 100% ออกก่อนครับ ซึ่งจะมีการนำหลักฐานที่ผมมีเพิ่มไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน ถ้ายังนิ่งเฉยต่อข้อมูล ก็จะพับสนามแล้วจะทำให้ดู เริ่มจากการดำเนินการเอาผิดพนักงานสอบสวน เนื่องจากละเว้นหน้าที่ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังมั่นใจว่าเป็นการฆาตกรรม" พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวทิ้งท้าย 

นอกจากนี้ แฟนเพจเฟซบุ๊ก @กฎหมายชนบท โพสต์ข้อความว่า "...ผมฝันอีกแล้ว...ผมฝันว่าคดีกำลังจะพลิกจาก "ประมาท" กลายเป็นเจตนาฆ่า...ถ้าความฝันผมเป็นจริง คงมีการพลิกลิ้นไม่มีกระดูกกันยกใหญ่...ขออย่าให้เป็นจริงเลยนะ...จะประมาทเลินเล่อหรือจงใจก็เป็นละเมิด ทั้งสิ้น...(ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน)...เหนื่อยหน่อยนะอยู่กับฉัน..."