ผัวเมาคลั่งยิงเมียเจ็บระเบิดขมับตัวลาโลก ลูกเศร้าเผยจ่อบวชกลายเป็นงานศพ (คลิป)

18 มี.ค. 65

จากเหตุการณ์ผัวปืนโหด “นายกันหา โนทิพย์” อายุ 46 ปี ประกอบอาชีพลูกจ้างของหน่วยป้องกันรักษาป่ากรมป่าไม้แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ลำปาง ก่อเหตุยิงภรรยา “น.ส.รัตนา ขัดใจวงศ์” อายุ 57 ปี ด้วยปืนลูกซองสั้น เข้าบริเวณหน้าท้องจำนวน 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะตัดสินใจก่อเหตุยิงตัวตาย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.10 น. ของวันที่ 18 มีนาคม 2565 บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง

945525

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในสวนยาง พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สำรวจภายในบ้านมีเพียงเตียงไม้ 1 หลังพร้อมเสื่อ หมอน ผ้าห่ม พัดลม กองเสื้อผ้า ท่อนไม้ยาวขนาด 40 ซม. 1 ท่อน และโครงเหล็กที่ใช้สำหรับก่อสร้าง ส่วนบริเวณหน้าบ้านพบคราบเลือดของผู้ตายหลงเหลืออยู่ พบเบียร์ 3 ขวดอยู่ตรงกองไม้ข้างบ้าน และใกล้กันพบขวดน้ำพลาสติกเปล่าสำหรับใส่เหล้าขาวอีกประมาณ 3-4 ขวด อยู่ในลังกระดาษ

173573

นางเพียร ขัดใจวงศ์ อายุ 64 ปี พี่สาวของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า นายกันหา ผู้ตาย และน้องสาว คบหากันมาประมาณ 16 ปี ไม่ได้มีลูกด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกสาวที่มีกับสามีเก่า ก่อนจะมาปลูกบ้านที่นี่ได้ 1 เดือน และช่วยกันสร้างบ้านตามประสา 2 คนผัวเมีย เพิ่งจะขนข้าวของทั้งหมดมาพักอาศัยได้ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น

960617

ที่ผ่านมานายกันหาเป็นคนที่ชอบดื่มสุราหนักมาก จะเน้นไปที่เหล้าขาว อาจจะมีบ้างที่ดื่มเบียร์ ส่วนใหญ่จะดื่มที่บ้านกับภรรยาหรือน้องสาวตน น้อยครั้งที่จะออกไปข้างนอก บางครั้งเมื่อทั้งคู่เมาก็จะมีปากเสียงทะเลาะกัน เถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง จับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันมาก่อน กระทั่งเมื่อวานนี้ 17 มีนาคม 2565 ช่วงกลางวัน ตนเห็นว่านายกันหานั่งดื่มสุราอยู่ที่แคร่หน้าบ้านคนเดียว สลับกับผสมปูนเพื่อฉาบบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าดื่มไปเยอะขนาดไหน

ต่อมาช่วงประมาณ 17.00-18.00 น. น้องสาวก็กลับมาจากทำงาน นั่งดื่มสุรากับนายกันหาจนถึงค่ำ ตนได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป จึงไม่ได้ออกมาดู จนเวลา 02.10 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตอนแรกคิดว่าชาวบ้านยิงไก่เพื่อเอาไปทำแกง แต่หลังจากนั้นประมาณ 2 นาที น้องสาวก็วิ่งร้องไห้หอบผ้ากองโต กุมท้องมาหาตนที่บ้าน สภาพคือมีเลือดเปื้อน และมีกระสุนติดอยู่บริเวณเสื้อผ้าที่น้องสาวกุมไว้ด้วย บอกว่า "ช่วยด้วย มันยิงน้องแล้ว จะตายแล้ว" คาดว่าตอนที่โดนยิง น้องสาวกำลังเก็บผ้าที่ตากไว้ตรงคานเหล็กหน้าบ้านพอดี แล้วเกิดทะเลาะกัน ตนจึงรีบโทรหาญาติเพื่อจะพาน้องสาวไปโรงพยาบาล

865850

แต่ไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นนัดที่ 2 คาดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า แล้วอีกประมาณ 5 นาทีก็ได้ยินนัดที่ 3 ซึ่งขณะนั้นญาติกำลังพาน้องสาวไปโรงพยาบาลพอดี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงพบว่าสภาพศพของนายกันหา ถูกยิงบริเวณขมับด้านขวาจนกะโหลกเปิด สมองกระจายนอนเสียชีวิตจมกองเลือด คาดว่าน่าจะจ่อปืนเข้าปากแล้วยิง จนกระทั่งทะลุขมับขวา ส่วนตัวมองว่าปัญหาน่าจะมาจากเมาแล้วทะเลาะวิวาท พูดจาไม่ถูกคอกันมากกว่า ถ้ามองถึงเรื่องชู้สาวหรือปัญหาเงินทองก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะทั้งคู่รักกัน ไม่เคยมีเรื่องชายอื่นหญิงอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินด้วย ต่างก็ช่วยกันทำงาน เก็บเงินสร้างบ้าน ไม่ได้มีความเครียดจนต้องทะเลาะกันเลย

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวในฐานะพี่สาวของผู้ได้รับบาดเจ็บก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับครอบครัวนายกันหา เพราะมองว่าผู้ก่อเหตุก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ยินดีอโหสิกรรมให้ และตนก็จะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ รวมถึงหากมีการนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน ก็จะเดินทางไปแสดงความเสียใจด้วย ส่วนอาการของน้องสาว ล่าสุดก็ออกจากห้องผ่าตัดและปลอดภัยแล้ว เพราะกระสุนไม่ได้เข้าไปลึก เนื่องจากมีกองผ้ากันไว้ แต่ทางโรงพยาบาลยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล

514538

นายศิรวัฒน์ โนทิพย์ อายุ 23 ปี ลูกชายคนเดียวของผู้ตายที่มีกับภรรยาคนเก่า ขออนุญาตจากกรมทหารลาออกมาจัดงานศพให้พ่อ เนื่องจากปัจจุบันเป็นทหารเกณฑ์ ทีมข่าวสังเกตดูเจ้าตัวยังคงอยู่ในอาการช็อก พูดอะไรไม่ออก บอกว่า ตัวเองไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกับพ่อมากนัก เพราะด้วยความที่เป็นผู้ชายด้วยกัน จึงเขินที่จะแสดงออก เจอหน้ากันครั้งล่าสุดคือเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตนขอลากลับบ้าน ตอนนั้นก็เป็นการพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกัน พ่อไม่ได้มีเรื่องเครียดเลย

เมื่อช่วงพฤศจิกายน 2562 หลังจากตนทราบว่าต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ ก็ได้สัญญากับพ่อไว้ว่าหากปลดประจำการจะกลับมาบวชทดแทนบุญคุณให้ เพราะพ่อเคยบ่นไว้ว่าอยากจับผ้าเหลืองลูกก่อนตาย บวกกับตนเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อด้วย

ตามกำหนดการคือช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ก็จะครบกำหนดประจำการ แต่ต้องมาสูญเสียคุณพ่อไปกะทันหันเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ตนตั้งใจไว้แล้ว เบื้องต้นจะขอบวชหน้าไฟให้กับพ่อก่อนรอบหนึ่ง แล้วเมื่อปลดประจำการก็จะบวชพระให้พ่อแม่อย่างเป็นทางการด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส