ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thongchai Vachirarojpisan โพสต์ข้อความชวนคิด พร้อมกับรูปภาพหน้ากากอนามัย ชนิดกันฝุ่นละออง โดยระบุข้อความว่า ""ป้าทำงานอะไร?" เภสัชกรร้านขายยาในตลาดเวิร์ดมาร์เก็ต ทวีวัฒนา ถามหญิงวัยกลางคนใส่เสื้อลายสก๊อตนุ่งกางเกงขาสั้นสีมอมๆที่มากับลูกสาวในชุดนักเรียนมัธยม สองคนแม่ลูกกำลังเลือกซื้อหน้ากากกันฝุ่น ผมยืนอยู่ข้างหลังเพื่อรอคิวจ่ายเงินซื้อหน้ากากกันฝุ่นเช่นกัน จึงได้ยินการสนทนาชัดเจน
"ทำงานก่อสร้าง" หญิงกลางคนตอบ และถามกลับว่า "หน้ากากนี้มันกันฝุ่นได้ไหม"
เภสัชกรตอบว่า "แบบนี้กันไม่ได้ 100% ราคา 95 บาทได้ 2 ชิ้น ถ้าจะเอาแบบกันได้ 100% ต้องซื้ออีกแบบ (ชี้ไปที่แบบทรงกระโหลกที่พับไม่ได้) ราคาชิ้นละ 85 บาท ก็จะกันฝุ่นได้ดีกว่า" สองคนแม่ลูกลังเล ปรึกษากันอยู่พักใหญ่ กว่าจะตัดสินใจเลือกซื้อแบบราคาถูกกว่า ซื้อไป 3 คู่ เป็นเงิน 285 บาท ผมยืนดูตอนที่หญิงกลางคนนับเงินย่อยในกระเป๋าตังค์เพื่อจ่ายค่าหน้ากากกันฝุ่น อย่างสะเทือนใจ
เภสัชกรบอกป้าด้วยความเห็นใจว่า "ป้าไม่ต้องเปลี่ยนทุกวันนะ ใช้สัก 3 วันค่อยเปลี่ยนก็ได้" ผมคิดในใจว่า ถ้าป้าได้ค่าแรงวันละ 300-400 บาท การซื้อหน้ากากกันฝุ่นราคาขนาดนี้ก็เป็นภาระทางการเงินที่หนักหนาสาหัสทีเดียว ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่ใช้อากาศเดียวกันหายใจ แต่กระทบอย่างมากกับคนที่มีรายได้น้อย
เราพึ่งรัฐไม่ได้ คนมีเงินพึ่งตนเองได้ แล้วคนที่มีรายได้น้อยจะทำอย่างไร
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Thongchai Vachirarojpisan