ชัยภูมิ ซ่อมถนนไม่มีไฟ-ป้ายเตือน เก๋งพุ่งตกสะพาน หวิดดับ เร่งหาสาเหตุกั้นแบริเออร์แล้ว
หลังจากมีการโพสต์ภาพจากผู้ประสบเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลพุ่งตกลงไปในจุดที่กำลังก่อสร้างถนน บริเวณการก่อสร้างสะพานถนนสายชัยภูมิ-บ้านเขว้า จนทำให้มีเพจดังในพื้นที่จับมาเป็นประเด็นสงสัยเตือนภัย ชาวโซเชียลวิจารณ์ยับบางคนก็ว่าเห็นบางคนก็ว่ามืดซึ่งผู้ประสบเหตุได้โพสต์ลงในFacebookด้วยข้อความว่าเส้นทางหนองบัวขาวไม่มีที่กั้นขับขี่ระมัดระวังด้วยค่ะ ทางจริงมืดมากอันนี้ใช้ nightmode ถ่าย พร้อมด้วยการโพสต์ภายในที่เกิดเหตุอีกจำนวน 2 ภาพ หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงยอดไลค์ยอดแชร์ขึ้นเป็นจำนวนมากรวมถึงคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกเพียบ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา19.10 น. เจ้าหน้ากู้ชีพรพ.ชัยภูมิ รับแจ้งมีรถเก๋งตกสะพานที่กำลังก่อสร้างบริเวณ บ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงทำการประสานต่อมายังอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม จ.ชัยภูมิและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบว่า จุดที่รถยนต์ตกลงไปนั้นเป็นเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ห่างจากโรงเรียนบ้านหนองบัวขาวมาประมาณ 300 เมตร โดยเปิดให้มีการใช้ช่องทางการจราจรฝั่งละ 1 เลน ส่วนจุดที่รถตกลงไปนั้น เป็นช่องทางการจราจรเลนกลางที่มีการก่อสร้างขุดลักษณะคล้ายจะทำสะพาน ดูจากภาพที่เห็นไม่พบว่ามีอุปกรณ์การกั้น ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกย2052 หมวดจังหวัดจันทบุรี
จากสภาพที่พุ่งตกลงไปทำให้ด้านหน้ารถพังได้รับความเสียหาย ตรวจสอบเพิ่มเติมพบผู้ที่ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวทราบชื่อต่อมาคือน.ส.ศิริพร แดงสระน้อย อายุ 38 ปี มีอาการจุกแน่นท้องและหน้าอกหายใจไม่สะดวก และน.ส.ลวัณรัตน์ เขียวโพธิ์ อายุ 38 ปี จุกแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมจังหวัดชัยภูมิให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ
หลังจากมีกระแสที่แชร์กันลงไปในโลกโซเชียล ทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่ามีการนำแบริเออร์มาวางกั้นช่องทางดังกล่าวทั้ง 2 ทิศทาง ทีมข่าวได้ทำการใช้รถยนต์ที่ติดไฟสปอร์ตไลท์รวมถึงไฟหน้ารวมกันถึง 6 ดวงขับผ่านบริเวณดังกล่าว พบว่าเส้นทางที่กำลังก่อสร้างรวมถึงจุดที่เกิดเหตุมีความมืดจริง ๆ จึงต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้จะมาจากสาเหตุใดทางทีมข่าวจะลงพื้นที่ทำการติดต่อสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ซึ่งหากมีการยืนยันว่าสาเหตุเกิดจากเส้นทางก็จะได้ติดต่อสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อฟังคำชี้แจงต่อไป
