ศึกชิงสมบัติ! ภรรยา-น้องสามี หลังหมอดังด่านขุนทด เสียชีวิตทิ้งสมบัติ 14 ล้าน

ภรรยา หมอดังด่านขุุนทด ร้องขอความเป็นธรรม หลังน้องชายฮุบสมบัติสามีกว่า 14 ล้าน อ้าง พี่ชายตนระบุพินัยกรรมให้ไว้เลี้ยงดูคนในครอบครัว

วันที่ 9มีนาคม2565 จากกรณีเพจเฟชบุ๊คชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์part3 ได้แชร์คลิปวิดิโอพร้อมข้อความระบุว่า #เล่าเรื่องจากหลังไมค์ **อัพเดทคำชี้แจง...ในเม้นต์ดิฉันขอความเมตตาจากเพจนี้ด้วยค่ะช่วยเป็นกระบอกเสียงคืนความยุติธรรมของดิฉันกับสามีด้วยค่ะ เนื่องจากสามีได้เสียชีวิตลงเพราะวันนั้นสามีป่วยด้วยโรคตับระยะสุดท้ายและเป็นท้องมารต้องได้รับการรักษาด่วนและวันที่ 2ก.พ. จะเอาสามีมารักษาน้องชายกีดกันจนดิฉันไปขออำนาจศาลจะเอาสามีมารักษาแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

จนวันที่ 21กพ. สามีเสียชีวิตลงด้วยการเจ็บปวดทรมานถ้าวันนั้นน้องชายยอมให้สามีมารักษาคงไม่ต้องมาเสียชีวิตลงแบบนี้ ดิฉันไม่รู้สาเหตุเหมือนกันเพราะอะไรตอนสามีมีสติเค้าไม่เคยมายุ่งวุ่นวายแต่พอสามีไม่มีสติเค้ามากีดกันอยู่ด้วยกันมา 17 ปี ส่งเสียดิฉันเรียนจนจบปริญญาตรีสามีเป็นคนดีมากเรารักกันมากแต่สามีเคยบอกว่าญาติพี่น้องเค้าไม่เคยชอบดิฉันเลยแม้กระทั่งงานศพก็ไม่มีชื่อดิฉันหน้าดิฉันเค้ายังไม่อยากมองเลยเค้าบอกว่าแค่ใบทะเบียนสมรสใบเดียวไม่มีความหมาย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ คุณกาญจนา อ่อนอก ภรรยาในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดคลิปนั้นตอนแรกสามีตนเองชื่อนายแพทย์นิคม อ่อนอก เป็นแพทย์ประจำคลินิกแห่งหนึ่งในอ.ด่านขุนทดจ.นครราชสีมา และได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 64 จนกระทั่งทางน้องชายของสามีได้พาตัวออกไปจากโรงพยาบาลเพื่อไปรักษาต่อที่คลีนิกที่สามีทำงานอยู่โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวกับตนเองว่าจะนำตัวสามีออกไปรักษา

จนกระทั่งนำสามีไปรักษาเป็นเวลา 5 เดือน จนกระทั่งสามีนอนติดเตียงอยู่ที่คลินิกซึ่งตนก็อยากให้ทางสามีนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลให้ถูกต้องแต่กลับต้องมาเจอน้องชายของหมอกีดกันมาตลอดโดยอ้างว่าให้นอนอยู่ที่คลินิกเพราะมีหมอประจำอยู่แล้วที่มารักษาสามี

ตนเองซึ่งไปเยี่ยมก่อนเสียชีวิตตนทนเห็นสภาพของสามีไม่ไหวเพราะป่วยหนักและนอนติดเตียงจำอะไรไม่ได้ ตนจึงตัดสินใจไปดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวขอให้ศาลพิจารณาว่า คุณหมอเป็นบุคคลไร้ความสามารถและขอเป็นผู้อนุบาลบุกไปที่คลีนิกและเอาตัวสามีกลับก็เลยเกิดเหตุการณ์ขึ้นตามคลิปแต่ก็ไม่สามารถนำสามีออกมาได้

จนกระทั่งวันที่ 21กุมภาพันธ์65 สามีตนได้เสียชีวิตที่คลินิก ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนสามีป่วยทางน้องชายไม่เคยเข้ามาดูเลยมีแต่มาขอเงินซึ่งเรื่องสมบัติก็มีเงินจำนวน 14 ล้านบาท ที่เป็นเงินของสามีตนเก็บไว้ทางน้องชายก็เป็นคนฮุบไว้คนเดียวโดยได้บอกกับตนว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ทะเบียนสมรสก็แค่กระดาษใบนึง ซึ่งทำให้ตนคิดว่าทางสามีตนเองเสียชีวิตน้องชายมาทำแบบนี้เพียงเพราะหวังเอามรดก

ทั้งนี้ตนก็อยากร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วยเพราะทุกวันนี้ยังเสียใจมากๆ ที่ไม่สามารถนำสามีออกมารักษาตัวได้เพราะถูกน้องชายกีดกันไม่ให้ไปรักษาอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย

ด้านนายหลุยส์ อ่อนอก น้องชายของหมอเปิดเผยว่า สำหรับคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ตกใจว่าอยู่ดีๆ ทำไมภรรยาของพี่ชายจึงได้บุกมาแล้วมาโว้ยวายว่าจะเอาพี่ชายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้บอกไปแล้วว่าเอาพี่ชายไปรักษาและไปหาหมอมาแล้ว มีใบนัดหมอชัดเจนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด่านขุนทด ตนไม่เคยกีดกันให้มาพบกับพี่ชายเลยอยากมาเยี่ยมก็มาได้แต่อย่ามาถ่ายรูปแค่นั้นเอง

ในส่วนของเงิน 14 ล้าน ตนยอมรับว่าเอามาจริงเพราะเป็นความประสงค์ของพี่ชายตนเองที่ให้เอาเงินไว้เลี้ยงดูคนในครอบครัว โดยระบุไว้ในพินัยกรรมซึ่งตนและพี่ชายได้ไปทำไว้ที่อำเภอด่านขุนทดก่อนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามก็อยากฝากไปถึงทางภรรยาของพี่ชายว่าพี่ชายตนก็ให้อะไรมาเยอะมากและอยากให้นึกบุญคุณที่ทางพี่ชายเคยให้ไว้ด้วย