กรมการค้าภายใน ยืนยัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขึ้นราคาเฉพาะขายส่ง ไม่กระทบผู้บริโภค

9 มี.ค. 65

กรมการค้าภายใน ยืนยัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขึ้นแค่ราคาขายส่ง ราคาขายปลีกเท่าเดิม ไม่กระทบผู้บริโภค  

จากกรณีมีรายงานข่าว ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 เป็นต้นไป ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้แจ้งขอปรับขึ้นราคาต้นทุนซองละ 25 สตางค์ ส่งผลให้กำไรร้านค้าลดลงเหลือเพียงซองละ 75 สตางค์ จากเดิมที่ได้กำไรซองละ 1 บาทนั้น

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึง กรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอปรับขึ้นราคาสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อกล่อง 30 ซองขึ้นอย่างน้อย 2 บาท กับผู้ค้าส่งในช่วงต้นเดือนเมษายน 2565 ตามที่สมาคมค้าส่งค้าปลีกไทยแจ้งนั้น ถือว่าเป็นการปรับระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าส่งเท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องต่อราคาค้าปลีก ที่ยังจำหน่ายซองละ 6 บาทเท่าเดิม โดยผู้ผลิตยืนยันว่า จะยังให้ความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ ตรึงราคาขายต่อไปจนกว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลาย เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน

ส่วนกรณีผู้ผลิตนมสดและนมข้นหวานกระป๋องรายใหญ่ เตรียมปรับขึ้นราคาขายในเดือนมี.ค.-เม.ย.2565 เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะทินเพลต (เหล็กทำกระป๋องบรรจุ) มีราคาสูงขึ้น กรมฯ จะต้องพิจารณาโครงสร้างต้นทุนก่อนว่าเพิ่มจริงหรือไม่ หากเพิ่มขึ้นจริง เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด โดยต้องพิจารณาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รอดได้

สินค้าปุ๋ยเคมี ที่สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทยได้ทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ ขอให้ยกเลิกมาตรการตรึงราคา หลังราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น เพราะผลของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ได้ประกาศห้ามส่งออกปุ๋ย กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ค้ามาโดยตลอด และขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขอความร่วมมือตรึงราคาขาย หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ คงต้องพิจารณาร่วมกันอย่างละเอียด รอบคอบที่สุด เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับสินค้าอื่น ๆ หากจะขอปรับขึ้นราคาขาย เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ก็ต้องทำเรื่องมาที่กรมฯ และจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาขาย และยังไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นราคาขาย โดยเฉพาะสินค้าใน 18 กลุ่ม เช่น เนื้อสัตว์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปุ๋ยเคมี ยาจำกัดหรือปราบศัตรูพืช และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการหารือ เพื่อหามาตรการลดผลกระทบให้กับผู้ผลิตอาหารสัตว์ และกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ โดยผู้ผลิตอาหารสัตว์ มีหลายข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ทั้งลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง ที่ปัจจุบันเก็บที่ 2% ลดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการซื้อข้าวโพดเลี่ยงสัตว์ในประเทศ ที่ปัจจุบันกำหนด 3 ต่อ 1 และขยายเวลาการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน ที่กำหนดเดือนก.พ.-ก.ย.ของทุกปี เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาผลดีผลเสียของทุกข้อเสนอ และหากเห็นชอบให้ใช้ข้อเสนอใดแล้ว ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ หรือเกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศ เช่น ข้าวโพด ไม่ให้ได้รับผลกระทบด้วย และหากได้ข้อสรุป ก็จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายสินค้าเกษตรแต่ละชนิด รวมถึงคณะกรรมการนโยบายอาหาร พิจารณาให้ความเห็นชอบด้วย

อ้างอิง - https://www.commercenewsagency.com/news/4870 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกินต้าน! บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จ่อปรับขึ้นราคาต้นทุน ซองละ 25 สต.เมษานี้
ราคาข้าว อ้อย ปาล์มพุ่งต่อ รับพิษสงครามยูเครน-รัสเซีย ยืดเยื้อ
- เงินเฟ้อก.พ. พุ่งสูงสุดรอบ 13 ปี! ผลพวงสงครามรัสเซีย ยูเครน ดันราคาน้ำมันและก๊าซแพง

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม