สปสช.เตรียมแจก ชุดตรวจ ATK ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เฟส 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้

24 ก.พ. 65

สปสช.เตรียมแจก ชุดตรวจ ATK รอบที่ 2 สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทุกสิทธิ เริ่ม 1 มี.ค.นี้ เช็กเงื่อนไขและวิธีรับที่นี่

วันที่ 24 ก.พ.65 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ทำให้มีผู้ต้องการใช้ชุดตรวจ ATK มากขึ้น ทาง สปสช.จึงมีมติกระจายชุดตรวจ ATK รอบที่ 2 สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยในครั้งนี้ สปสช.เน้นเป็นชุดตรวจที่ผลิตในประเทศไทยที่อยู่ในรายการสินค้าบัญชีนวัตกรรม เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล

ประชาชนสามารถเข้าไปประเมินความเสี่ยงผ่านแอปฯ เป๋าตัง และแอปฯ จะแสดงหน่วยบริการใกล้เคียงได้แก่ ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นๆ ที่สามารถไปรับชุดตรวจได้ หากไม่มีแอปฯ เป๋าตังสามารถไปที่จุดบริการเพื่อขอรับชุดตรวจได้เช่นกัน

การกระจายชุดตรวจ ATK ในรอบนี้ สปสช. ได้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการใหม่ โดยให้หน่วยบริการจัดหาชุดตรวจ ATK บริการให้ประชาชน ก่อนจะมาเบิกจ่ายชดเชยมาที่ สปสช. ในอัตรา 55 บาทต่อชุด รวมค่าชุดตรวจ ค่าบริการในการให้คำแนะนำการใช้ชุดตรวจ การอ่านผล และการปฏิบัติตัวของประชาชน ประชาชนจะได้รับครั้งละ 2 ชุด ห่างกัน 10 วัน หมายความว่าหลังจากได้รับแจกไปแล้ว อีก 10 วันสามารถมาขอรับได้อีก โดยจะเริ่มแจกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 เป็นต้นไป

ด้าน นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ตามที่ธนาคารได้ร่วมกับ สปสช. กระจายชุดตรวจ ATK ผ่าน “โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19” ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้

กรณีรับบริการผ่านสมาร์ทโฟ

  • เข้าแอปฯ เป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”
  • ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนรับชุดตรวจโควิด-19
  • หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม
  • เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ
  • ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ

กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน

  • โทร 1330 หรือเข้าเว็บไซต์ สปสช.เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
  • เดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน/สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยงให้
  • หากมีความเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจและกลับมาแจ้ง ตัวแทนหน่วยบริการที่ให้บันทึกผลตรวจให้
  • สิ้นวัน ตัวแทนหน่วยบริการสแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจก (แจกได้ 100 คน/วัน)

1645694258998

ที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมกับ สปสช. เปิดให้ประชาชนจองสิทธิการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรครวม 16 บริการ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ หรือ Health Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ สิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐ ที่มอบให้กับประชาชน ในการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรก เกิดจนถึงวัยสูงอายุได้สะดวกรวดเร็วขึ้น

เริ่มตั้งแต่การจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 2564 การเปิดให้บริการ ชุดตรวจโควิด-19 “Antigen Test Kit (ATK)” ผ่าน “โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19” ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง และโครงการให้บริการจองสิทธิขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดผ่านกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) บนแอปฯ เป๋าตัง โดยธนาคารกรุงไทยมีความพร้อมในการพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้บริการทุกคน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet  โดยธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบแอปฯ เป๋าตัง เพื่อรองรับการดำเนินนโยบายของภาครัฐ และทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและสร้างความยั่งยืนให้สังคมในระยะยาวต่อไป

ด้าน รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศและยังรับสมัครเพิ่มเรื่อยๆ โดยการดำเนินการในรอบนี้ได้มีการปรับระบบใหม่ จากที่ร้านยารอรับ ATK จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเปลี่ยนเป็นให้ร้านยาสามารถจัดหาได้เอง

สปสช. จ่ายเงินให้เคสละ 55 บาท ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ร้านยามีความยืดหยุ่น สามารถจัดหา ATK ได้เหมาะสมตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น ซึ่งสภาเภสัชกรรมได้เจรจากับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดหา ATK แก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ เพราะการที่ อภ. ซื้อในล็อตใหญ่จะช่วยให้จัดหาได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำ

ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่มีสินค้าอยู่ในสต๊อกและยินดีขายในราคาพิเศษแก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ทางสภาเภสัชกรรมจะจัดทำรายชื่อบริษัทที่พร้อมขาย ATK ในราคาพิเศษให้ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้รับทราบและเตรียมสั่งซื้อต่อไป

"ส่วนการจ่ายเงินนั้น สปสช.จะจ่ายเงินผ่านระบบของแอปพลิเคชันเป๋าตังซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น 2 ประเด็นนี้จะเป็นหลักประกันช่วยทำให้โครงการเดินหน้าไปด้วยดี และหลังจากนี้จะมีการประชุมชี้แจงการปรับระบบให้ร้านยารับทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาแบบเดิมแล้ว และน่าจะทำให้ร้านยาสนใจเข้าร่วมกระจาย ATK มากขึ้น" รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ กล่าว 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- สปสช.แจก ชุดตรวจ ATK รอบ 2 ปรับรูปแบบ หน่วยบริการเบิกจ่ายชดเชย 55 บาท/ชุด
ศบค. ตั้งเป้าลดราคา ATK และค่าตรวจ RT-PCR คาดเริ่มได้ตั้งแต่ 1 มี.ค.นี้
ตรวจ ATK ก่อนซั่ม สธ. แนะคู่รัก เมกเลิฟฉลอง วาเลนไทน์ อย่างปลอดภัยช่วง โควิด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส