จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 62 พ.ต.ท.บุญชู มีศรี รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวจมน้ำ บริเวณใต้สะพานห้วยป่าขี ริมแม่น้ำเหืองพรมแดนไทย - ลาว หมู่ 5 บ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย จ.เลย จากการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ถูกมีดอีโต้ฟันที่ติ่งหูซ้าย ถูกมีดฟันจนฉีกขาด แก้มขวามีรอยถูกฟัน 1 แผล และท้ายทอยถูกฟัดจนเป็นแผลขนาดใหญ่ถึงกระดูกคอ และบริเวณลำคอถูกฟันอีก 2 แผล (อ่าน :
เปิดพิรุธฆ่าฟันคอแม่ค้าลอตเตอรี่สาวลาว อึ้งคราบเลือดคลายปม แต่เพื่อนร่วมชาติปัดเอี่ยว)
วันที่ 17 ม.ค. 62 ที่ ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย จ.เลย
นางอ้วน (นามสมมติ) ผู้ต้องหา รับรถจักรยานยนต์คืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และกล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่นางวัน ผู้ตายชาวลาวเสียชีวิต มีคนขายลอตเตอรี่ มาแจ้งกับตนว่า “ศพแดง ๆ เสียชีวิตแล้ว” ตนจึงโทรศัพท์หานางบุ๋ม จำนวน 4 ครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับโทรศัพท์ จากนั้นสามีจึงนำรถยนต์ไปเติมลมแถวร้านสะดวกซื้อ แต่หลังจากเติมลมรถแล้ว รถสตาร์ตไม่ติด สามีจึงโทรศัพท์เรียกตนออกไป
ส่วนกรณีวานนี้ (16 ม.ค.) เจ้าหน้าที่มาตรวจรถจักรยานยนต์ของตน แล้วพบรอยเลือดนั้น เพราะเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ตนไปซื้อไก่สดมาจากตลาด โดยแขวนถุงไก่ไว้ด้านหน้ารถจักรยานยนต์ ซึ่งหากคราบดังกล่าวคือเลือดจริง ตนก็คาดว่าเป็นเลือดสัตว์ ไม่ใช่เลือดคน
ส่วนที่เครื่องซักผ้ามีคราบคล้ายดินโคลน ก็คาดว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนเสื้อผ้าของสามีตน ที่ไปทำงานก่อสร้างแล้วมีคราบดินติดมาด้วย ซึ่งคนก่อสร้างไปทำงานก็ต้องสกปรก ทำให้เสื้อกับกางเกงมีคราบดินโคลนติดเป็นปกติ
ทั้งนี้
นางอ้วน ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางวัน และไม่ได้รู้สึกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนกับคนตายไม่สนิทกัน
ต่อมา ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ใต้สะพานห้วยป่าขี ริมแม่น้ำเหืองพรมแดนไทย-ลาว หมู่ 5 บ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย พบว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำที่กั้นออกแล้ว
ด้าน
นายบุญเทศ ฤทธิ์ศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนาข่า เผยว่า วันเกิดเหตุ ตนผ่านที่จุดเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. เห็นผู้หญิงใส่เสื้อสีกรมเดินเข้าไปตรงช่วงริมห้วย บริเวณที่มีโขดหิน ซึ่งเมื่อตนจะข้ามสะพานก็หันไปมองอีกครั้งหนึ่ง จึงเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวซึ่งมีรูปร่างท้วม ผมสั้นประบ่า นั่งอยู่ตรงโขดหิน นอกจากนี้ ทีมข่าวได้นำภาพนางอ้วนให้นายบุญเทศดู ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าลักษณะคล้ายกับคนที่ตนเจอในวันเกิดเหตุ
กระทั่งเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ภุชงค์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผกก.สภ.ด่านซ้าย พร้อมด้วยพ.ต.ท.สนอง อุปลา สว.กก.สส.ภ.จว.เลย ตร.ภาค 4 และชุดสืบสวน สภ.ด่านซ้าย ทำการสอบนางอ้วน กระทั่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางวัน แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน โดยโกรธแค้นที่ผู้ตายมากระชากผม จึงใช้มีดอีโต้ฟันที่คอบริเวณท้ายทอยจนเสียชีวิต
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนางอ้วน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย
นางอ้วน บอกเพียงสั้น ๆ ว่า สาเหตุที่ต้องทำร้ายร่างกาย เพราะผู้ตายเอาหัวตัวเองฟาดพื้น และหลังจากนั้น ก็มีเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่ถ้าตนไม่ฟันผู้ตาย ผู้ตายก็คงจะกระทำเช่นนั้นกับตน
โดยก่อนเกิดเหตุ นางอ้วนและผู้ตาย ขี่รถจักรยานยนต์มาได้ 7 กิโลเมตร จากนั้นจึงแวะร้านขายของชำ โดยผู้ตายซื้อผ้าอนามัย ส่วนนางอ้วนได้แวะซื้อเบียร์ 2 กระป๋อง จากนั้นผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่เกิดเหตุ ห่างกันร้านค้าประมาณ 30 กิโลเมตร ผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์ริมทาง นางอ้วนและผู้ตายเดินลงไปที่ริมน้ำเหือง พรมแดนไทย-ลาว บ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย ระหว่างที่นางอ้วนนั่งกำลังปัสสาวะอยู่ก็ได้มีปากเสียงกับผู้ตาย โดยผู้ตายบอกว่า “มึงเอาความลับไปเล่าให้คนอื่นฟังหมด” นอกจากนี้ ยังได้ยินผู้ตายมีการพูดคุยโทรศัพท์กับผู้ชายจึงเกิดความหึงหวง
หลังจากนั้น ผู้ตายได้กระชากผมของตนเองหลายครั้ง ด้วยความโมโห นางอ้วนจึงหยิบมีดอีโต้ในย่าม ฟันที่ผู้ตายหลายครั้ง ที่บริเวณคอจนเสียชีวิต
นอกจากนี้ นางอ้วนได้จุดธูปขอขมาผู้ตาย ซึ่งทีมข่าวพยายามพูดคุยกับนางอ้วนว่าอยากจะขอโทษ และอยากบอกอะไรกับสื่อมวชนหรือไม่ แต่นางอ้วนก็ไม่ตอบ
ขณะที่
นายคำคิด (สงวนนามสกุล ) สามีของนางอ้วน เผยว่า จากที่นางอ้วนถูกจับกุม ตนไม่คาดคิดมาก่อนว่าภรรยาตนจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กรณีดังกล่าวตนเห็นว่าภรรยาตนมีจิตใจโหดร้ายเกินไป และตนตัดสินใจจะเลิกกับนางอ้วน เพราะกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อีกฝ่ายยังสามารถลงมือกระทำได้ขนาดนี้
นายคำคิด พูดทั้งน้ำตาว่า นางอ้วนเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ชอบทำร้ายร่างกายตนถึงขั้นเอาไม้ตีบ่อย แต่ที่ไม่เลิกกับอีกฝ่าย เนื่องจากตนกังวลว่าจะไม่มีคนดูแลลูก แต่ตนรู้สึกเสียใจกับการกระทำของนางอ้วน และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ตนอยากถามกับนางอ้วนว่า “ทำทำไม ทำเพราะอะไร ทำไมถึงทำกับผู้ตายเช่นนี้ และทำไมถึงไม่คิดถึงลูกที่มีด้วยกัน"
อย่าไงรก็ตาม ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุได้ โดยกล้องตัวที่ 1 วันที่ 14 ม.ค. เวลา 12.08 น. นางวัน ผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์เยื้องกับร้านขายของชำ ซึ่งนางอ้วนได้ลงจากรถจักรยานยนต์ หลังจากนั้น ผู้ตายก็ได้กลับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านขายของชำ และนางอ้วน ก็ได้เดินข้ามฝั่งมาเพื่อเข้ามาที่ร้านขายของชำ จากการสังเกตเห็นนางอ้วนสะพายกระเป๋ามาด้วย
กล้องตัวที่ 2 เวลาประมาณ 12.09 น. พบว่านางอ้วนได้ไปหยิบกระป๋องเบียร์ 2 กระป๋องที่ตู้เย็น ส่วนผู้ตายหยิบผ้าอนามัย
กล้องตัวที่ 3 เวลาประมาณ 12.10 น.ทั้ง 2 คน จ่ายเงินที่โต๊ะจ่ายเงินหลังจากนั้นทั้ง 2 คน ก็นั่งดื่มเบียร์กัน และนั่งดื่มจนถึงเวลา 12.35 น.
จากนั้น กล้องตัวที่ 1 ช่วงเวลา 12.35 น. ก็พบว่าคนตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดฝั่งตรงข้ามร้านขายของชำ ส่วนนางอ้วนก็เดินข้ามถนนไปขึ้นรถ และขับรถออกไปด้วยกัน