หนุ่มลักปาล์มถูกยิงดับ แม่ลั่น 3 วันไม่คืบขอตายตาม เจ้าของสวนปัดฆ่ายันผัวติดคุก (คลิป)

13 ก.พ. 65

กรณีนางโสภา แป้นพรม อายุประมาณ 70 ปี เข้าไปร้องเรียนตำรวจให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงลูกชาย เสียชีวิตในวันที่ 26 พ.ย.64 แต่เรื่องเงียบหายไม่มีคืบหน้าใด ๆ โดยในคลิปนางโสภา ใช้คำพูดแทนตัวเองว่า “แม่” ระบุว่าลูกชายถูกยิงตาย มีพ่อป่วยเป็นอัมพาตติดเตียง มีลูก 3 คน ภรรยาโดนพิษโควิด-19 ตกงานไม่มีงานทำ ตอนนี้ได้รับความลำบากเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

846663

โดยก่อนหน้านี้ ลูกชายที่ถูกยิงตายเป็นกำลังสำคัญในการทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อหารายได้ แม้แต่ขึ้นไปเก็บยอดขี้เหล็กมาขายก็ทำ โดยเฉพาะต้นขี้เหล็กหน้าโรงพัก คุณยายจะมาเก็บใบและดอกขี้เหล็กทุกวัน ใคร ๆ ก็รู้จัก ตอนนี้คุณยายต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และมาขึ้นไปเก็บใบและดอกขี้เหล็กต้นหน้าโรงพักแทนลูกชาย 

คุณยายโสภา กล่าวกับตำรวจด้วยน้ำตานองใบหน้าว่า "แม่มาขอเรียกร้องความเป็นธรรม ลูกชายถูกยิงตาย ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ไม่เคยแจ้งความคืบหน้าใด ตำรวจไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม่ให้เวลาตำรวจ 3 วัน นับได้เลยตั้งแต่วันนี้ทุกคุณไปดูศพแม่ที่หน้าบ้านได้เลย แม่จะเขียนรอบตัวว่าฆ่าลูกแม่ทำไม ตำรวจไม่ได้ช่วยอะไรเลย"

642604

ล่าสุดวันที่ 13 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มาพูดคุยกับนางโสภา แป้นพรม อายุ 70 ปี แม่ของนายประสาน แป้นพรม เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตนไปร้องไห้ที่โรงพักและบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนจะผูกคอตายภายใน 3 วัน ก็เพราะว่า ลูกชายของตนถูกยิงเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.64 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และตำรวจก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ตนจึงตัดสินใจอยากจะจบชีวิตตามลูกชาย

707439

โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 พ.ย.64 เวลาประมาณ 20.30 น. นายประสาน ได้ขี่รถมอเตอไซค์ออกจากบ้านเพื่อไปส่งภรรยาและลูกกลับบ้านอีกหลัง ห่างจากบ้านของตนประมาณ 100 เมตร เมื่อเขาไปส่งภรรยาและลูก ๆ เสร็จ นายประสานก็ขี่รถมอเตอไซค์กลับมาที่บ้านของตนอีกรอบ จากนั้นลูกชายก็ขี่รถกลับบ้าน

cg_11

ในระหว่างที่ลูกชายขี่รถกลับบ้าน ตนก็เห็นชายสูงวัย 2 คน ขี่รถมอเตอไซค์มาวน ๆ ดูที่บ้านของตน แต่ตนเห็นหน้าพวกเขาไม่ชัด จากนั้นตนจึงเดินออกไปที่ถนนหน้าบ้าน เพื่อดูว่าชาย 2 คนนั้นเป็นใคร จังหวะที่ตนเดินไปดูที่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด มาจากทางบ้านของลูกชาย ตอนนั้นตนคิดว่าวัยรุ่นเขาคงมีเรื่องกัน ไม่คิดว่าลูกชายโดนยิง กระทั่งผ่านไปประมาณ 2 นาที ก็มีชาวบ้านวิ่งมาบอกตนว่า ลูกชายถูกคนร้ายยิงที่ถนนก่อนจะถึงบ้าน

804673

"แม่ก็คิดว่าชายต้องสงสัย 2 คน ที่เห็นขี่รถมอเตอไซค์มาวนเวียนที่หน้าบ้านก่อนเกิดเหตุ เขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกชายแม่ ลูกชายคนนี้เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิต เขาต้องดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียง ดูแลแม่ ดูแลน้องสาว ดูแลภรรยา และลูก ๆ อีก 3 คน รวมทั้งหมด 9 ชีวิต แต่พอขาดเสาหลักครอบครัวไป ทุกชีวิตก็ลำบาก" นางโสภา กล่าว 

552675

นางโสภา เปิดเผยด้วยว่า ช่วงเดือนตุลาคม 64 นายเอ็ม ชาวบ้านในพื้นที่ได้มาบอกกับตนว่า นายประสาน ได้ไปขโมยปาล์มน้ำมันของเขา จำนวน 100 กิโลกรัม ซึ่งตอนนั้นลูกชายตนก็ยอมรับว่าขโมยจริง แต่ตอนนั้นนายเอ็ม ก็ไม่ได้เอาเรื่องลูกชายของตนแต่อย่างใด หลังจากนั้นลูกชายก็ไม่ได้ก่อเหตุขโมยปาล์มน้ำมันของชาวบ้านอีกแล้ว เพราะตนสังเกตพฤติกรรมลูกชายตลอดเวลา จึงไม่รู้ว่าทำไม่คนร้ายถึงมายิงลูกชายตนเสียชีวิต และตนก็เชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายถูกยิง น่าจะมาจากเรื่องที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าลูกชายไปขโมยปาล์มน้ำมัน

224088

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนเก็บรองเท้าของลูกชายไว้ 2 คู่ คู่แรกคือรองเท้าแตะ เป็นรองเท้าที่ลูกชายสวมในวันที่เสียชีวิต อีกคู่หนึ่งเป็นรองเท้าบู๊ตที่ลูกชายใส่ทำงาน ซึ่งตนเก็บไว้เพื่อหากวันใดตำรวจจับคนร้ายได้ จะให้คนร้ายมากราบขอขมารองเท้าของลูกชาย และตนอยากถามคนร้ายว่า "ยิงลูกชายแม่ทำไม" เขายิงลูกชายตนคนเดียว แต่เขาทำให้อีก 9 ชีวิตต้องใช้ชีวิตลำบาก

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้มาพูดคุยกับนางสาวปลาน้อย (นามสมมติ) ภรรยาของนายเอ็มชาวบ้านที่นายประสาน ผู้เสียชีวิต เคยขโมยปาล์มน้ำมัน ก่อนจะเสียชีวิต 1 เดือน

975357

นางสาวปลาน้อย เปิดเผยว่า เมื่อเดือนตุลาคม 64 นายประสาน เขาแอบเข้าไปขโมยปาล์มน้ำมันในสวนของตน ขโมยไปได้ประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งมีพยานเป็นครูที่โรงเรียนใกล้ที่เกิดเหตุเห็นตอนที่นายประสานเข้าไปขโมย ทำให้สามีของตนตามมาสอบถามครอบครัวของนายประสาน กระทั่งนายประสาน เขาได้ยอมรับว่าก่อเหตุจริง ตนและสามีจึงไม่ติดใจเอาความ เพราะสงสารครอบครัวเขา เห็นว่ามีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดู

หลังจากนั้น นายประสาน ก็ไม่ได้มาให้ตนเห็นหน้าอีกเลย แต่ตนก็ได้ยินข่าวว่าเขาไปก่อเหตุขโมยปาล์ม ส้มโอ และมะขามของชาวบ้านรายอื่น ๆ เพื่อนำมาไปขาย ซึ่งมีชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายคน กระทั่งเขามาถูกยิงเสียชีวิต หลังจากนายประสานเสียชีวิต ครอบครัวของเขาก็ได้สงสัยสามีของตน เพราะครอบครัวตนได้มีเรื่องกับเขาเป็นรายสุดท้าย ทำให้ตำรวจ สภ.สิชล เชิญตัวสามีไปสอบปากคำ

734046

แต่สามีของตน เขาก็ให้การยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ตอนนั้นตนรู้สึกเครียดมาก ๆ เพราะถูกชาวบ้านตราหน้าว่าสามีเป็นคนผิด เวลาลูก ๆ ของตนไปโรงเรียน ก็จะถูกเพื่อน ๆ ในโรงเรียนล้อว่า พ่อเป็นคนร้าย ขณะนี้สามีตนถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และตอนนี้ก็อยู่ในห้องคุมขัง และไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนายประสาน แต่อย่างใด

"ฉันยืนยันได้เลยว่า ช่วงวันที่เกิดเหตุสามีอยู่บ้านตลอดเวลา เพราะตอนนั้นสามีถูกงูกัด เขาจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน สามีไม่มีทางไปก่อเหตุแน่นอน เหตุที่เกิดขึ้นฉันคาดว่านายประสาน น่าจะถูกยิงเพราะเรื่องที่เขาไปขโมยของชาวบ้าน เพราะเขาไม่ได้ขโมยเฉพาะของฉัน แต่มีผู้เสียหายอีกหลายคน" นางสาวปลาน้อย กล่าวทิ้งท้าย 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส