กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย สามารถติดตามจับกุมตัวของน.ส.ศิราภรณ์ พุฒผล อายุ 27 ปี ชาว จ.จันทบุรี ครูสาวของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยสามารถจับกุมได้ในวันที่ 9 ก.พ.65 เวลา 14.00 น. บริเวณโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพ.ต.อ.สราวุธ จันมะโน ผกก.สภ.สันทราย ได้รับแจ้งจากหญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 30 ปี ว่าถูกหลอกจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ดูดวงความรัก” รับทำนายดวงความรัก การเงิน และการงาน เพราะผู้เสียหายกำลังอยู่ในภาวะกำลังอกหักจึงหลงเชื่อได้ง่าย แล้วโอนเงินไปให้น.ส.ศิราภรณ์ เพื่อทำพิธีเรียกแฟนหนุ่มกลับคืนมา แต่กลับต้องสูญเงินไปจำนวนหลายล้านบาท
กระทั่งศาลออกหมายจับ น.ส.ศิราภรณ์ และตำรวจ สภ.สันทราย สืบสวนจนติดตามจับกุมผู้เสียหายได้ที่ จ.จันทบุรี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าเป็นผู้ที่ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้จริง แต่ผู้เสียหายสมัครใจยินยอมไม่ได้บังคับขู่เข็ญแต่ประการใด ๆ
กระทั้งภายหลังที่รับแจ้งเหตุทางชุดสืบสวน สภ.สันทราย ได้ทำการสืบตามตัวในส่วนของผู้ก่อเหตุ จนไปตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นหญิงสาวอายุ 27 ปี ทราบชื่อคือ "นางสุพัชรา" (นามสมมุติ) มีอาชีพเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.จันทบุรี โดยทางทำรวจเองได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการนำข้อมูลต่างๆ ลงในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหลอกลวงประชาชน
โดยพฤติการณ์เบื้องต้นของ น.ส.ศิราภรณ์นั้น ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า น.ส.ศิราภรณ์ เปิดเพจชื่อ "ดูดวงความรัก รับทำนาย ดูดวง ความรัก การเงิน การงาน อนาคต" คล้าย ๆ กับเป็นเหมือนหมอดูออนไลน์ โดยจะมีค่าบริการครั้งละ 199 บาท ทั้งนี้ เมื่อทักเข้าไปทักหา น.ส.ศิราภรณ์ จะใช้กลอุบายหลอกให้ทำพิธีกรรมต่าง ๆ จนผู้เสียหายที่อยู่ในอาการอกหักหลงเชื่อ เพราะหวังอยากจะให้แฟนหนุ่มกลับมา และทำตามหมอดูดวงทำเสน่ห์ให้แก้กรรมต่าง ๆ
"พอนานวันไปเริ่มสนิทมากขึ้น ผู้ก่อเหตุก็ได้หลอกให้โอนเงินไปให้เป็นค่าครู และค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่าตอบแทนครั้งละหลักหมื่นบาท จำนวนนับไม่ถ้วน และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักหมื่นไปถึงหลักแสน 3-5 แสนบาท พร้อมให้ทำพิธีกรรมกรรมออนไลน์ เพื่อให้แฟนรักแฟนหลง สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้คือสูญเสียเงินไปกว่า 3.4 ล้านบาทภายใน 1 เดือน ซ้ำแฟนก็ไม่ได้กลับมา จนต้องมาแจ้งความดำเนินคดี" ผู้เสียหาย ระบุ
สำหรับไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีดังต่อไปนี้
-วันที่ 9 เม.ย.63 ทักไปยังเพจดังกล่าว เริ่มดูดวงจ่ายเงิน 199 บาท
-วันที่ 10 เม.ย.63 เพจทักมาหาว่ามีวิธีทำให้คนรักกลับมา ค่าทำพิธี 1,807 บาท
-วันที่ 11 เม.ย.63 หมอดูส่งรูปโปรโมชันทำพิธี รวม 1,498 บาท
-วันที่ 13 เม.ย.63 จ่ายค่าดูดวงเพิ่ม 99 บาท
-วันที่ 14 เม.ย.63 หมอดูอ้างว่าผู้ชายทำของดำใส่ ต้องแก้กรรม 50,084 บาท
-วันที่ 15 เม.ย.63 หมอดูอ้างต้องทำพิธีเพิ่มเติม โอนเงินไป 216,994 บาท
-วันที่ 16 เม.ย.63 หมอดูอ้างของยังออกไม่หมด ต้องใช้เงินอีก 245,904 บาท
-วันที่ 17 เม.ย.63 หมออ้างว่าผู้ชายทำพิธีเรียกจิต แก้กรรมสุดท้ายอีก 950,000 บาท
-วันที่ 18 เม.ย.63 โอนไปอีก 1,179,999 บาท หมอดูอ้างว่าแฟนจะกลับมารักตามเดิม
-วันที่ 19 เม.ย.63 โอนค่าทำพิธีที่ค้าง 48,000 บาท
-วันที่ 20 เม.ย.63 โอนเงินค่าทำพิธี 442,000 บาท
-วันที่ 21 เม.ย.63 โอนเงินค่าทำพิธี 75,099 บาท
-วันที่ 22 เม.ย.63 โอนเงินไป 20,000 บาท
-วันที่ 23 เม.ย.63 โอนเงินไป 56,500 บาท
-วันที่ 24 เม.ย.63 โอนเงินไป 159,000 บาท
-วันที่ 27 เม.ย.63 โอนเงินไป 9,999 บาท
-วันที่ 28 เม.ย.63 โอนเงินไป 10,000 บาท
-วันที่ 29 เม.ย.63 โอนเงินไป 4,999 บาท
-วันที่ 8 พ.ค.63 โอนเงินไป 1,000 บาท
-วันที่ 9 พ.ค.63 โอนเงินไป 2,000 บาท
-วันที่ 13 พ.ค.63 โอนเงินไป 3,000 บาท
-วันที่ 30 พ.ค.63 โอนเงินไป 7,096 บาท
-วันที่ 17 มิ.ย.63 โอนเงินไป 3,000 บาท
-วันที่ 26 มิ.ย.63 แจ้งหมอดูส่าไม่ขอจ่ายแล้ว แต่หมอดูบอกให้โอนเงินที่ค้างอีก 3,098 บาท
กระทั่งวันที่ 24 ตุลาคม 63 ผู้เสียหหายตัดสินใจทักไปหาหมอดู เพื่อขอเงินคืน แต่อีกฝ่ายอ้างว่านำเงินไปทำบุญหมดแล้ว ผู้เสียหายจึงอ้างว่าหากที่บ้านรู้จะต้องแจ้งความ หมอดูกลับอ้างว่าผู้เสียหายโอนเงินด้วยความเต็มใจ หลังจากนั้นหมอดูก็ติดต่อกลับมาในวันที่ 26 ตุลาคม 63 แต่ผู้เสียหายไม่ได้รับสาย อย่างไรก็ตาม ยอดเงินตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 63 จนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 63 เป็นเวลากว่า 3 เดือน ผู้เสียหายสูญเงินไปทั้งสิ้น 3,491,375 บาท ทั้งนี้ พฤติการณ์ของหมอดูจะอ้างสารพัด หากว่าไม่ทำตามก็จะพูดทำให้รู้สึกแย่
ทีมข่าวเดินทางไปบ้านของนางสาวศิราภรณ์ พุฒผล ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง ในพื้นที่ ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนางสร้อยทอง (นามสมมติ) ป้าผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์ว่า นางสาวศิราภรณ์ เป็นเด็กดีคนหนึ่ง ปัจจุบันทราบว่าทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ภายในจังหวัดจันทบุรี ตนก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าหลานสาวเท่าไร เจอกันครั้งล่าสุดก็ 2-3 เดือนก่อน และเห็นว่ามีบ้านน้าอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เลยไม่แน่ใจว่าตอนนี้นางสาวศิราภรณ์ ทำงานอะไร
สำหรับฐานะครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยมาก พ่อแม่ทำงานก่อสร้าง เลิกงานดึกทุก ๆ วัน ล่าสุดเหมือนไปอยู่ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนก็เพิ่งมาทราบข่าวว่า นางสาวศิราภรณ์ ถูกจับในข้อหาฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย 3.4 ล้านบาท ทั้งนี้เขาไม่ได้มีวิชาอาคมหรือไปร่ำเรียนการดูดวงจากที่ไหน ญาติ ๆ หลายคนยังเข้าใจว่าเขาทำงานเป็นครู ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ปรึกษาอะไร ก็คงจะเครียด ๆ ไม่กล้าบอกใคร แต่ในใจตนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าหลานสาวจะไปหลอกเอาเงินคนอื่นได้
ส่วนเฟซบุ๊กของ น.ส.ศิราภรณ์ ผู้ต้องหา ภายหลังหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไปจำนวนมาก ก็ได้โพสต์ข้อความอวดความรวยเป็นระยะ ๆ แต่ทำทีขายของออนไลน์บังหน้า สำหรับความเสียหายที่ผู้ต้องหาอาจไปกระทำต่อผู้เสียหายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสืบสวน หรือหากมีผู้เสียหายอื่นถูกกระทำตามพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเข้ามาที่ สภ.สันทราย ได้ตลอดเวลา
