นาทีสยอง! ลูกคลั่งยาฆ่าแม่เหล็กแป๊บทุบหัว อึ้งอดีตนักมวยเก่าฉุนถูกขวางซิ่งรถ (คลิป)

4 ก.พ. 65

จากกรณีหนุ่มวัย 31 ปี ใช้เหล็กแหลมกระหน่ำแทงใบหน้าแม่ตัวเองวัย 56 ปี แบบไม่ยั้ง แล้วเผาถุงพลาสติกคลุมใบหน้าซ้ำ หวังให้ตายสนิท ก่อนขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนี ชาวบ้านช่วยจับเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65

134379

ล่าสุด ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ หมู่ 13 ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูน 1 ชั้น มีรั้วรอยขอบชิด โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นหินกรวด โดยตอนที่ทีมข่าวมาถึง ลูกชายเจ้าของบ้านได้ล้างเลือดไปแล้วบางส่วน

410291

ทีมข่าวได้รับคลิปวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ช่วง 10.07 น. นายประวิทย์ สวมเสื้อสีน้ำเงินเดินเบ้ามาภายในบ้าน ก่อนจะพยายามมาลากรถจักรยานยนต์ออกไปขับ หลังจากนั้นก็มีนางสังวาลย์ แฟนของนายชาติ เดินเข้ามาห้ามนายประวิทย์ ไม่ให้เอารถออกไป หลังจากนั้นนางสำเนียง แม่ของนายประวิทย์ ก็เดินเข้ามาช่วยห้ามอีกคน แต่ถูกลูกชายผลักลงกระถางต้นไม้จนล้ม ผลักนางสังวาลย์ แล้วทั้งเตะต่อยถีบ ก่อนจะผลักแม่ไปยังจุดเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย มีท้ายของรถกระบะบังอยู่

680965

ก่อนจะวิ่งหนีออกไปนอกบ้านเพื่อตามหาคนมาช่วย หลังจากนางสังวาลย์หนีออกจากบ้านไปแล้วช่วงท้ายของคลิปยังเห็นอีกว่านายประวิทย์ได้มีการยกไม้ขึ้น และมีการทุบตีไปตามร่างกายของแม่อีกหลายครั้ง

700041

นายสิทธิพร นราชรัมย์ อายุ 22 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนเเละครอบครัวของผู้ตายถือเป็นญาติกัน เเละบ้านอยู่ติดกัน ตนไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเต่เหตุน่าจะเกิดช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. เท่าที่ทราบ นางสำเนียง ไพรวรรณ์ อายุ 56 ปี ผู้ตาย น่าจะมีการยื้อเเย่งกุญเเจรถจักรยานยนต์กับนายประวิทย์ ดีชัยรัมย์ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกชายคนเล็กของคนตาย ผู้เป็นเเม่มาห้ามไม่ให้ลูกเอากุญแจรถไป เเต่จะไปไหนตนก็ไม่ทราบ

ส่วนนิสัยของนางสำเนียงเป็นคนดี ชอบเข้าวัดทำบุญ ส่วนลูกชาย คือนายประวิทย์ พักหลังมาเหมือนมีอาการทางประสาท ไม่ค่อยได้กินยาระงับประสาท ส่วนตัวไม่ได้รู้จักนายประวิทย์เป็นการส่วนตัว เลยไม่ทราบว่านายประวิทย์เคยเสพยาเสพติดหรือติดเหล้าหรือไม่ เท่าที่อยู่กันมาตนยังไม่เคยเห็นนายประวิทย์ทำร้ายเเม่มาก่อน

746240

นางสังวาลย์ นราชรัมย์ อายุ 60 ปี น้องสะใภ้ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนั้นตนกำลังขายมันอยู่หน้าบ้านประตูอีกฝั่ง ส่วนหลานสาวอายุ 12 ปีอยู่ภายในห้องนอนในบ้าน นายประวิทย์ก็เดินเข้ามาไม่พูดไม่จา ยังไม่เห็นมีอาวุธอะไรติดตัว นายประวิทย์เดินเข้ามาจะมาเอารถมอเตอร์ไซค์ของบ้านตน จากนั้นนางสำเนียง ผู้เป็นเเม่ ก็เดินตามมาห้าม บอกว่า "อย่าให้มันไปเอากุญเเจออก" เพราะกลัวว่าลูกชายจะขับรถไปล้ม จากนั้น 2 เเม่ลูกก็พากันเเย่งกุญเเจมอเตอร์ไซค์ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามเข้าไปช่วยห้าม เเต่ก็ถูกหลานชายผลักอย่างเเรงจนเสียหลัก

จากนั้น นายประวิทย์ก็ผลักเเม่ตัวเองไปจัดเกิดเหตุ เริ่มใช้อาวุธที่หยิบจับได้เเถวนั้นทำร้ายร่างกายเเม่ตัวเองจนเเน่นิ่งไป ยอมรับว่าตอนนั้นตนกลัวมาก จนต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ไม่เช่นนั้นนายประวิทย์คงจะหันมาทำร้ายตนจนตายไปอีกคน ส่วนอาการบาดเจ็บเเละบาดแผลของตนมีเเค่รอยช้ำบริเวณเข่าข้างขวาเท่านั้น โดยรถจักรยานยนต์คันนี้เป็นของบ้านตน ส่วนสาเหตุว่าทำไมนายประวิทย์ถึงต้องมาเอารถคันนี้ตนเองก็ไม่ทราบ น่าจะเป็นที่อาการป่วยของนายประวิทย์ด้วย เหมือนเห็นรถคันไหนมีกุญแจก็จะขึ้นคร่อมเเละขับออกไป

398185

นายคาวี ดีชัยรัมย์ อายุ 33 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต พี่ชายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นิสัยใจคอของเเม่เป็นคนใจดีมาก ชอบไปวัดทำบุญทุกวัน ส่วนนิสัยของน้องชายก็ชอบให้คนเอาใจ เพราะเป็นลูกคนเล็ก เเม่ก็จะคอยเอาอกเอาใจดูแลตลอด ปกติน้องชายจะอยู่กับเเม่ที่บ้าน นอกจากนี้น้องชายมักจะรับจ้างทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ จากญาติ เช่น ถากหญ้า ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ ก่อนหน้านี้น้องชายของตนเคยมีการเสพยาเสพติดอย่างหนัก แต่เลิกมานานเเล้ว 5-6 ปี ปกติน้องชายจะไม่มีโรคประจำตัว เเต่พักหลังมาจะมีอาการชักบ่อยครั้ง นอกจากนี้น้องชายยังต้องไปหาหมอจิตเวช เเละเพิ่งจะได้บัตรผู้ป่วยมาได้มาประมาณ 3-4 เดือน

ก่อนหน้านี้ น้องชายขาดยากล่อมประสาท มานาน 1 สัปดาห์เเล้ว น้องไม่ยอมกิน เพราะคิดว่าหายเเล้ว ตนคาดว่าน้องน่าจะมีอาการเครียด เนื่องจากว่าช่วงประมาณวันที่ 1 ก.พ.65 น้องชายต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นลมชัก เเละเมื่อวานนี้ น้องชายจะได้ออกจากโรงพยาบาลหมอเรียกให้ไปรับยา เเต่น้องชายไม่ยอมบอกว่า "เอาไปก็ไม่กิน" ก่อนน้องชายจะเดินกลับบ้าน เเละพยายามหนี จนรปภ. ต้องมาช่วยกันจับตัวไว้ เเต่ก็จับไม่อยู่ เพราะน้องชายเเรงเยอะ เป็นนักมวยเก่า เเละมีการต่อย รปภ. ต้องใช้ รปภ. มากถึง 10 คน ถึงจะล้อมน้องชายไว้ได้

พอน้องชายกลับมาที่บ้าน ช่วงสายก็บ่นปวดหัว พร้อมกับถามว่า "ทำไมต้องตีผมด้วย ผมไปทำอะไรให้ ผมไม่รู้จักทำไมต้องทำผม" เเม่ก็พยายามปลอบว่า "ไม่รู้จักกันก็จริง เเต่ไปอาละวาดใส่เขาก่อน" พอเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้น ตนก็ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะต้องทำอย่างไรต่อไป ยอมรับว่าสะเทือนใจมากที่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวของตน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส