วันที่ 3 ธ.ค. 62 ที่ จ.นครศรีธรรมราช แม้ว่าพายุโซนร้อน "ปาบึก" จะยังไม่เข้าสู่ฝั่ง แต่สถานการณ์เตรียมการรับมือ เริ่มมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เริ่มมีการอพยพประชาชนจากชุมชนริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตลอดแนวอำเภอเมือง อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล อำเภอขนอม อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร โดยทั้ง 6 อำเภอ มียอดรวมการอพยพของประชาชนร่วม 30,000 คน กระจายไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวของแต่ละอำเภอที่มีอยู่กว่า 40 จุด
ขณะที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอสิชล พร้อมด้วยกำลังทหารร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 เข้าอพยพประชาชนจากชุมชนบ้านฝายท่า หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล รวมกว่า 2,400 คน ไปยังโรงเรียนวัดห้วยทรายทอง ซึ่งอยู่ออกไปราว 5 กม. โดยใช้อาคารเรียนของโรงเรียนเป็นที่พักชั่วคราว
นายอำเภอสิชล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้าแล้ว สามารถดำเนินการอพยพประชาชนใน 9 ตำบลชายฝั่ง ไปยังศูนย์อพยพได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเตรียมพร้อมด้านเครื่องอุปโภคบริโภค ในศูนย์อพยพไว้ ให้ผ่านสถานการณ์ไปได้
ขณะที่
นางนงเยาว์ รอดแก้ว ชาวตำบลทุ่งใส ระบุว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ต้องอพยพ ครั้งแรกสมัยพายุเกย์ ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ ครั้งนี้มีความพร้อมของหน่วยราชการสูงกว่ามาก แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความหวาดกลัวกับสถานการณ์ ซึ่งขอให้รอดพ้นปลอดภัย ส่วนพื้นที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าอาจเป็นพื้นที่แนวปะทะของพายุโซนร้อนปาบึก ได้มีการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยไปอาศัยอยู่ที่อาคารโรงยิมเนเซียมเทศบาลเมืองปากพนัง ห่างจากแนวชายฝั่งแหลมตะลุมพุก กว่า 20 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่นั้น ยังคงกังวลกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านเรือน