รวบเดนนรกปาดหน้าฉุดสาวอุ้มขึ้นกระบะ แมสก์ปิดตาขยี้กาม เหยื่อเล่านาทีตายทั้งเป็น (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 นายปัญญา อ่วมบัวทอง หรือ แจ้ อายุ 33 ปี ได้ก่อเหตุข่มขืน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเอกชน ขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาไปแจ้งความที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากนั้น เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด

ล่าสุด วันที่ 27 ม.ค. 65 ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มตั้งแต่จุดที่ขับรถยนต์ปาดจักรยานยนต์ผู้เสียหายบริเวณถนนเลียบคลองแอน 8 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จุดที่เป็นบ้านพักบริเวณคลองเก้าลำลูกกา ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ลงมือข่มขืน และบริเวณถนนคลองเก้าลำลูกกา-ธัญบุรี ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นจุดที่นำตัวผู้เสียหายมาปล่อยเพื่อให้เดินทางกลับ หลังทำแผนเสร็จสิ้นได้นำตัวผู้ต้องหากลับไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

นางปวีณา หงสกุล ได้เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมนำตัว น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 พร้อมมารดา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา, พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รองผกก.สส.สภ.ลำลูกกา

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายปัญญา หรือ แจ้ อ่วมบัวทอง อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น,

ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น

โดยจากพฤติการณ์ที่ผ้ต้องหารับสารภาพว่ามีการขับรถขนต์ประกบเพื่อให้จอดแล้วฉุดกระชากผู้เสียหาย บังคับให้ขึ้นรถกระบะไปที่บ้านเพื่ออนาจาร โดยระหว่างนั้นได้ใช้แมสก์ปิดตาผู้เสียหายด้วย

นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่สืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีมาจนได้ การสืบสวนจับกุมครั้งนี้ถือเป็นไปด้วยความยาก เพราะผู้เสียหายถูกคนร้ายปิดตาตลอดเส้นทาง ในสถานที่เกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ไม่มีกล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดของหน่วยงานราชการเสียทั้งหมด

โดยต้องอาศัยกล้องวงจรปิดจากเอกชนในการหาเบาะแสคนร้าย ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องไฟฟ้าส่องสว่าง กล้องวงจรปิด ตนเองอยากให้ผู้ที่มีทุนทรัพย์ หรือมีจิตศรัทธาช่วยกันจัดหาทุนในการทำจุดพักสายตรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นประจำ

สำหรับผู้เสียหายรายนี้ถือว่ามีสติสัมปชัญญะดียิ่ง ไม่เช่นนั้นคงถูกคนร้ายทำร้าย ทั้งนี้ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยใช้เวลาเพียง 7 วัน จึงสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่ ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บ้านของนายปัญญา อ่วมบัวทอง ใช้เป็นที่ก่อเหตุโดยระหว่างทางที่ทีมข่าวเข้ามาเป็นทางลูกรัง ไม่ค่อยมีบ้านคนอยู่อาศัย ส่วนใหญ่ตามข้างทางจะเป็นสวนกล้วย และที่รกร้าง ระหว่างทางที่เข้ามาไฟส่องสว่างค่อนข้างน้อย ทำให้มืดและเปลี่ยว เป็นบ้าน 2 ชั้น สภาพรกร้างและโทรม ไม่มีคนอยู่อาศัย

นายสายัน ทองเอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.บึงทองหลาง เล่าว่าวันเกิดเหตุตนไม่ทราบเหตุการณ์ มาทราบอีกทีหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ติดต่อมา ปกติแล้วบ้านของนายปัญญา ผู้ต้องหา จะอยู่กันเพียง 2 คน คือ ปู่และพ่อของนายปัญญา ส่วนนายปัญญานั้นติดคุก ซึ่งปัจจุบันปู่ของนายปัญญาเสียชีวิตไปได้ 2 ปีกว่าแล้ว ทำให้บ้านไม่มีคนอยู่และรกร้าง ส่วนทางพ่อของนายปัญญานั้นติดคุกข้อหายาเสพติดหลายปีแล้ว ยังไม่พ้นโทษ และนายปัญญาเองก็เคยติดคุกข้อหาคดียาเสพติด พกอาวุธปืนเถื่อน และล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2554 ถูกจับข้อหาชิงทรัพย์ เพิ่งถูกปล่อยตัวเมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยตนนั้นอยู่ที่นี่มา 15 ปี และได้รู้จักพูดคุยกับปู่ของนายปัญญาซึ่งเป็นคนจิตใจดี ส่วนนายปัญญานั้นตนเพียงเคยเห็นหน้า แต่ไม่เคยพูดคุยกัน หลังจากที่นายปัญญาพ้นโทษออกจากคุกมานั้นตนทราบข่าว แต่ไม่เห็นนายปัญญากลับมาแถวบ้านปู่ จนกระทั่งมาทราบอีกทีหลังจากที่นายปัญญา ก่อเหตุข่มขืม โดยปกติทุกทีตนจะสอดส่องดูแลความปลอดภัยของลูกบ้าน แต่เมื่อวันที่เกิดเหตุ อาจเพราะเป็นเวลากลางคืนค่อนข้างดึก ตนไม่พบความผิดปกติ ๆ ใด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจจับกุมผู้ต้องหานำผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ตนรู้สึกดีใจที่จับคนร้ายได้ และให้คนร้ายได้รับโทษตามความผิดที่ได้ก่อไว้ ท้ายนี้ขอเตือนภัยสำหรับผู้หญิงให้ระมัดระวังตัวเอง ไม่สามารถไว้ใจใครได้