กรณีแฟนเพจเฟชบุ๊ก "เจ๊ม๊อยV plus" โพสต์เรื่องราวอ้างว่า "#ผู้อำนวยการหื่น แอบดูครูอาบน้ำ แต่ก็ยังมาทำงานปกติ คุณต้องออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในบริเวณโรงเรียน ความเชื่อมั่นของนักเรียนคงหมดค่ะ" ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ในเขตพื้นที่อำเภอพรเจริญ จ.บึงกาฬ พบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา นักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประมาณ 1,000 คน พร้อมใจกันออกมาชูป้ายซึ่งเขียนข้อความ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการประท้วง ผอ.โรงเรียน และขับไล่ให้พ้นจากโรงเรียน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายโงกุน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี หนึ่งในนักเรียนที่ร่วมประท้วง ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่นักเรียนกว่า 1,000 คน ต้องขึ้นป้ายประท้วง ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว ก็เพื่อขับไล่ให้ออกจากโรงเรียน เนื่องจากเด็ก ๆ รับไม่ได้กับพฤติกรรม และเกรงว่าครูในโรงเรียนบางกลุ่มจะช่วยปิดข่าว แล้วทำให้เรื่องเงียบ พวกตนจึงต้องออกมาประท้วง ส่วนครูดอกไม้ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เขาก็เป็นครูที่ดี เป็นที่รักของนักเรียน จึงไม่น่าจะมาเจอเรื่องราวแบบนี้ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ยินข่าวว่า ครูดอกไม้จะย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่น ตนก็ไม่อยากให้เขาย้ายไปไหน และอยากให้สอนพวกตนต่อไป
จากการที่ตนดูภาพจากกล้องวงจรปิด คิดว่าคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิด คือ ผอ.โรงเรียนจริง ๆ โดยตั้งแต่เกิดเหตุ ผอ.โรงเรียน ก็ยังไม่ปรากฏตัวที่โรงเรียน เพราะเขาไม่ค่อยเข้ามาที่โรงเรียนให้นักเรียนเห็นหน้าสักเท่าไร เดือนหนึ่งจะมาพูดหน้าเสาธงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น และตนก็ได้ยินช่าวมาว่า ผอ.มีประวัติไม่ดีจากโรงเรียนเดิม กระทั่งถูกย้ายมาประจำที่โรงเรียนแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้ ผอ.โรงเรียน ออกมาชี้แจง และแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านครูดอกไม้ (นามสมมติ) กล่าวว่า ในวันนี้ที่ตนเห็นนักเรียนในโรงเรียนขึ้นป้ายขับไล่ ผอ.คนดังกล่าว ก็รับรู้ได้ถึงพลังของความรัก และความห่วงใยจากเด็กนักเรียนที่มีให้กับตน จึงอยากจะขอบคุณลูกศิษย์ทุกคน ตนคิดว่าเด็ก ๆ น่าจะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของ ผอ.คนดังกล่าว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ตนตัดสินใจยากมาก ๆ กว่าที่ตนจะกล้าออกมาเปิดเผย เนื่องจากตนเป็นเพียงครูผู้น้อย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ตนก็อยากได้ความถูกต้อง จรรยาบรรของวิชาชีพครูจะต้องประพฤติดีทั้งกาย วาจา ใจ โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นผู้บังคับบัญชา
"ครูมารับราชการที่โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนแรก คิดว่าอยู่บ้านพักใกล้ผู้บังคับบัญชาแล้วจะปลอดภัยที่สุด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนเป็นถึงระดับ ผอ.จะมาก่อเหตุแบบนี้ สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์ ครูไม่อยากพูดเพราะกลัวได้รับผลกระทบต่อรูปคดี ตำรวจได้ให้พาไปดูหลังบ้านพัก ก็พบว่ามีช่องรูหลายช่องที่ส่องเข้ามาเห็นในบ้านได้ ซึ่งครูก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีรูส่องเห็นได้ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้หญิงทุกคน ขอให้เคสแบบนี้เป็นกรณีสุดท้าย หลังจากนี้ครูจะย้ายไปสอนที่ จ.สกลนคร บ้านเกิด เนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ครูดอกไม้ กล่าวทิ้งท้าย
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปสำรวจยังบ้านพักหลังเกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้าน 2 หลัง บ้านหลังแรกเป็นบ้าน 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านของ ผอ.โรงเรียน ส่วนบ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านพักของครูดอกไม้ และเพื่อนครูดอกไม้ ที่พักอาศัยหลังเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
ทีมข้าวทดลองเดินจากหน้าบ้านพักของ ผอ.ไปยังด้านหลังบ้านพักของครูดอกไม้ จากนั้นใช้ศีรษะมุดเข้าไปในช่องระบายอากาศด้านหลังบ้านพักครูดอกไม้ พบว่าที่ช่องแคบ ๆ ด้านหลังบ้าน จะมีรูช่องระบายอากาศเล็ก ๆ หลายช่อง ที่สามารถส่องเข้าไปในบ้านพักได้ ทีมข่าวได้ใช้สายตามองเข้าไปในรูดังกล่าว ก็ปรากฏว่าสามารถมองเห็นบรรยากาศด้านในบ้านพักได้จริง ๆ
