แม่ร้องสื่อฯ ลูก 2 ขวบ กระดุมติดในจมูก หมอตรวจ 5 นาที บอกไม่พบ ถ้าไม่สบายใจให้มาใหม่พรุ่งนี้

26 ม.ค. 65

กระดุมติดจมูกหนูน้อย วัย 2 ขวบ แม่พาไปหาหมอโรงพยาบาลรัฐฯ หมอตรวจ 5 นาที บอกไม่พบ ถ้าไม่สบายใจให้มาใหม่พรุ่งนี้ แต่ด้วยความเป็นแม่จึงได้นำลูกที่เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน จึงพบว่ามีกระดุมอยู่ในจมูกของลูกสาวจริง

จากกรณีที่เพจ โหดจัง-จังหวัดภูเก็ต โพสต์แม่ร้องสื่อกระดุมเสื้อติดในจมูกลูกสาววัย 2 ขวบ รพ.รัฐฯ ตรวจแค่ 5 นาทีไม่เจอให้กลับบ้านบอกให้มาใหม่พรุ่งนี้และถ้ารีบให้ไปหาโรงพยาบาลเอกชน หมอมีเคสด่วนต้องตรวจคนไข้คนอื่นต่อจากนั้นแม่ก็พาลูกสาวไปยังโรงพยาบาลเอกชนและหมอก็ตรวจพบว่ามีกระดุมอยู่ในจมูกลูกสาวจริง

ล่าสุดวันนี้ (26 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบกับ นางพิจิตรา ซึ่งเป็นแม่ของหนูน้อยวัย 2 ขวบซึ่งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังพร้อมทั้งเตือนเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับการตรวจของหมอโรงพยาบาลของรัฐฯ ว่า

ย้อนไปเมื่อวัน 24 ประมาณ 19:00 น. ที่บ้านได้โทรมาบอกว่าน้องได้เอากระดุมใส่เข้าไปในจมูกแล้วพยายามเอาออกแต่น้องเขาซื้ดเข้าไปแล้วออกไม่ได้ก็เลยรีบกลับบ้านพาน้องไปโรงพยาบาลประมาณ 19:20 น. ไปถึงก็รอคิวได้ตรวจประมาณ 2 ทุ่มกว่าที่โรงพยาบาลของรัฐหลังจากนั้นก็มีคุณหมอเราไม่ได้ดูชื่อไม่ทราบชื่อแต่เห็นผมสีฟ้าเขียวๆคือเด่นเลยก็ส่องดูหูกับจมูก 2 อย่าง เขาบอกว่าไม่เจอ เขาบอกว่าแม่เห็นใช่ไหมว่าอยู่ในจมูก แม่และพี่เลี้ยงน้องก็เห็นแต่หมอบอกว่าไม่มีนะคะ หมอดูแล้วแล้วก็ถามน้องว่าเจ็บตรงไหน น้องก็บอกว่าขวา น้องพูดไม่ได้ น้องก็แค่สั้นๆ ว่าเจ็บ หมอกดข้างขวาน้องก็บอกว่าเจ็บหมอกดข้างซ้ายน้องก็บอกว่าเจ็บแล้วหมอบอกว่าไม่มีนะแม่

มันไม่มีอ่ะค่ะเหมือนกับจะให้เรากลับ แต่แม่บอกว่าแม่รอมาตั้งนานนะจะตรวจแค่นี้เหรอ หมอบอกว่าถ้าคุณแม่ไม่สบายใจจะมาพรุ่งนี้เช้าไหม แม่ก็เลยบอกว่าถ้าแม่มาพรุ่งนี้เช้าแล้วคืนนี้ถ้าน้องเป็นอะไรไปจะทำยังไง ก็เลยถามหมอไปแบบนี้ หมอบอกว่าพยาบาลด้านหน้าประเมินมาแล้วว่าน้องอาการไม่ค่อยหนักเอาคิวที่หนักก่อน ถ้าแม่ไม่สบายใจก็มาหาหมอเฉพาะทางพรุ่งนี้ แม่บอกว่าถ้าคืนนี้เป็นอะไรจะทำยังไง หมอก็ยืนยันว่าน้องไม่เป็นอะไรและไม่มีอาการเล็บม่วง หมอจะทำใบนัดให้ ถ้าแม่ไม่สบายใจให้มาพรุ่งนี้แล้วหมอก็หายไปเลย

หมอจะออกใบนัดให้นะคะจะให้แม่มาพรุ่งนี้เช้าน้องพูดได้เป็นคำๆ คือเจ็บ หมอบอกว่าถ้าแม่ไม่รอพรุ่งนี้ แม่ก็พาไปโรงพยาบาลเอกชนถ้าแม่ไม่รอมาพรุ่งนี้เพราะว่าทำอะไรไม่ได้แต่แม่บอกว่าแม่รอคิวมาตั้งนาน หมอก็พูดแค่นั้น หมอก็เข้าไปข้างในเลยห้องที่ทะลุได้แล้วทิ้งแม่กับน้องไว้ตรงนั้น หมอแค่บอกว่าถ้าแม่รีบก็แม่ไปโรงพยาบาลเอกชน รอสักพักก็มีพี่บุรุษพยาบาลผู้ชายเอารถเข็นมาเข็นน้องออกไปจากห้องฉุกเฉินไปเอกซเรย์ เขาก็พาน้องเข้าไปแล้วก็กลับมาแจ้งว่าไม่เห็นอะไร ไม่มีอะไรก็กลับมา

แม่ก็ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะหล่นลงไปในกระเพาะอาหารลำไส้ แม่เลยถามว่ามันไม่อันตรายใช่ไหมที่ลงไปแล้ว เขาบอกว่าไม่อันตรายแล้วเพราะมันอยู่ในท่ออาหารแล้วหมอก็พูดแล้วว่ามันไม่มีอะไร รอสักพักก็ไม่เจอหมอ เจอแค่ครั้งเดียวแล้วเขาก็เอาแค่ใบเสร็จใบเดียวที่เราต้องจ่ายเงิน

หลังจากนั้นแม่ก็ขอใบรับรองแพทย์ด้วยว่ายืนยันว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เพราะน้องพูดอะไรไม่ได้ พอจ่ายตังค์เสร็จแม่ก็พาน้องกลับบ้านแต่พี่เลี้ยงน้องที่บ้านยังไม่เชื่อว่ามันไม่มีเพราะน้องเหนื่อยเวลาพูดก็เลยเอาไฟฉายดูในโพรงจมูกน้องก็เห็น แม่ก็เห็นแค่ไฟฉายบ้านๆ ก็เห็นแม่ก็เลยถามน้องไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วก็แจ้งกับทางพยาบาล

แม่ก็แจ้งกับทางพยาบาลที่รับเรื่อง แม่พาน้องไปโรงพยาบาลแรกมาแล้วนะคะ แต่ว่าเขาบอกว่าไม่มีเขาเลยบอกว่าคุณแม่รอตรวจก่อนนะคะ แม่ก็รอตรวจน้องเข้าไปไม่ถึง 20 นาทีก็ส่องเห็นเลยหมอก็ใช้ที่ส่องธรรมดาเหมือนกันไม่ได้เอกซเรย์อะไรที่โรงพยาบาลเอกชนนี้ ก็เป็นหมอเวรเหมือนกัน แม่ก็เลยขอกระดุมเม็ดนั้นกลับแล้วก็ขอใบรับรองแพทย์มาด้วยออกจาก รพ. ก็เลยพาน้องกลับไปโรงพยาบาลรัฐฯ ดังกล่าวอีกรอบหนึ่ง

แม่ก็ไปติดต่อหน้าห้องฉุกเฉินฯ ว่าขอพบหมอที่ออกใบรับรองแพทย์ว่าแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนมาได้กระดุมออกมาจริงๆ หมอที่นั่นก็เป็นหมอธรรมดาเป็นแค่หมอเวรไม่ได้ทำอะไรเลยแค่ส่องอย่างเดียว

ก็ได้ใบรับรองแพทย์มาก็ได้มายื่นขอพบหมอที่ตรวจแต่เขาไม่ได้ออกมา แต่มีพยาบาลออกมา 2 คนบอกว่าเป็นหัวหน้าเวร แม่ก็อธิบายให้เขาฟังไปแล้วให้ทุกอย่าง เขาดูแล้วพอตรวจออกจากที่นี่แม่ก็ไปที่โน่นแล้วแม่ก็กลับมาที่นี่เขาบอกว่าถ้าแม่ไม่โอเคให้แม่สามารถเขียนร้องเรียนได้แต่เขียนร้องเรียนในที่นี้ไม่ได้เขียนว่าโรงพยาบาลไม่ดีแค่เฉพาะหมอที่เป็นความผิดพลาด

แม่ก็เป็นคนธรรมดาแม่ก็ต้องเชื่อหมออยู่แล้วแล้ว ถ้าแม่ไม่ได้กลับไปส่องอีกมันก็ติดอยู่ในจมูกนานๆ แล้วก็อันตรายอยากฝากเตือนว่าบางครั้งเราต้องสังเกตลูกเราด้วย อย่าบอกว่าไม่เชื่อหมอก็ไม่ได้เพราะหมอบอกว่าไม่มีแต่เรายังคิดว่ามี

untitled202255815022020020-55_1

1643208559979copy

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส