หมอเจี๊ยบ ลลนา โพสต์อยากให้เป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย ต้องโฟกัสมาจากโครงสร้าง!

26 ม.ค. 65

สำหรับการเสียชีวิตของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เสียชีวิตจากการถูกรถบิ๊กไบค์ชนขณะข้ามทางม้าลายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้านหมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินท์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับ หมอกระต่าย ก็ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความอาลัย ล่าสุด (25 ม.ค.65) หมอเจี๊ยบ ก็ได้ออกมทโพสต์ข้อความเคลื่อนไหวไอจีส่วนตัวอีกครั้งเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า

 

 

 

ไม่อยากเรียกว่าเกิดอุบัติเหตุ เพราะการเรียกว่าอุบัติเหตุ จะถือว่ามันป้องกันไม่ได้ ส่วนตัวซื้อคำว่า จิตสำนึก แค่ส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมดซะทีเดียว เพราะจริงๆคนในประเทศที่เค้าพัฒนาแล้ว ไม่ได้มีจิตสำนึกเหมือนกันหมดทุกคน แต่เค้ากลัวกฎหมาย และบทลงโทษที่รุนแรง จึงไม่กล้าทำผิดและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้จริงภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องโฟกัสมาจากที่โครงสร้าง ไม่ใช่ด้วยการแค่หวังหรือการทำแคมเปญรณรงค์ ขอความร่วมมือให้ประชาชนแต่ละคนพึงมีจิตสำนึกกันเอง #ส่งหมอกระต่าย #RIPKT #อยากให้เป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย credit : @promegranate

s__98533516
ต้องใหญ่โตถึงระดับไหน ? ถึงจะเปลี่ยนแปลงการคมนาคมขนส่งและการจราจรในบ้านเมืองนี้ได้?
ในเมื่อทุกคนเห็นและรับรู้ปัญหาเหมือนๆกัน


- ทางเท้า/ทางจักรยานต่างๆ ที่ไม่ปลอดภัยและใช้งานไม่ได้จริง

-ทางม้าลายที่มีไว้ให้รถไปก่อน

-ไฟทางสวยงามทั่วประเทศ ต้องติดให้เยอะๆ? เพราะใช้งานจริงมันจะติดบ้างไม่ติดบ้าง

- ทางกลับรถบนถนนใหญ่สายหลัก ในจุดเสี่ยง ที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำบ่อยๆ เลยต้องเอาแบริเออมากั้นปิดตาย แต่ไม่มีงบสร้างสะพานกลับรถดีๆสักที

-ใช้งบไปแก้ซ่อมทางรายปี ที่ยังไม่ทันพังก็จะซ่อมวนไปทั้งปี

- ป้าย "ง่วงไม่ขับ", "ง่วงจอดพัก" เต็มถนนสายหลัก แต่ไม่มีจุดปลอดภัยที่ให้จอดได้

-ป้ายจำกัดความเร็วและป้ายบังคับต่างๆที่ขัดกันเอง (เคยเจอ ป้ายบังคับความเร็ว 30, 60 kph สองป้ายที่ปักห่างกัน 10m จะเอาไง?)
s__98533515

-คนจอดรถกันตรงที่ห้ามจอด หรือไม่ควรจอด(เคยเจอรถบัสและรถตำรวจจอดแช่ค้างคืน กันอยู่หน้าป้ายรถเมล์ที่ทาขาวเหลืองต้องออกมายืนโบกรถเมล์กลางถนนทุกวัน)

- รถเมล์จอดรับส่งผู้โดยสารที่เลนส์กลาง และบางทีไม่ต้องหยุดสนิท วิ่งชะลอให้คนวิ่งตาม ขึ้น-ลง เอา
เอง

s__98533496
- ขนส่งมวลชนที่ขาดแคลนทั้งปริมาณและคุณภาพ(ยิ่งช่วงโรคระบาดก็ลดรอบ ลดจำนวนไป ให้ยิ่งแออัดอีก)

- ตามมาด้วยปัญหามอเตอร์ไซค์ และ taxi เกลื่อนเมือง(รถยิ่งติด และอุบัติเหตุยิ่งมากขึ้น)

- ส่วนที่คิดว่าพอจะสะดวกบ้าง(BTS/MRT)ก็ปรับราคาโครตแพงไปเรื่อยๆ จนคนไม่ไหวกันไปเอง

-ขนส่งมวลชนระบบรางของประเทศที่ห่วย ขนอะไรใหญ่ๆไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน? เลยต้องใช้รถพวงวิ่งขนส่งกันเกลื่อนเมือง

- รถเก่าๆรุ่นที่เคยเห็นตั้งแต่เราเรียนประถม ก็ยังต่อ พรบ. ได้ ออกมาวิ่งกันปกติ

- คนโดยสารรถส่วนตัวอย่างไม่ปลอดภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซ้อนกันเต็มที่ นั่งกันจนล้นซาเล้ง หรืออัดกันมาหลังรถกระบะ

-คนขี่มอเตอร์ไซค์ก็ยังไม่ใส่หมวกกันน๊อค (ขนาดเห็นว่าเดี๋ยวนี้ใส่ mask กันได้ทุกคน

- ใบรับรองแพทย์ไปออกใบขับขี่ที่แทบจะอะไรๆก็ได้หมด เพราะ
ตรวจสอบข้อมูลเจ็บป่วยไม่ได้จริง(แบบป่วยรักษา รพ .นี้ แต่ไปขอใบรับรองแพทย์อีก รพ. แจ้งว่าแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว ทั้งที่กินยาคมอาการอยู่)

- อายุเท่าไรก็ขับรถได้ แม้จะเด็กอายุยังไม่ถึง เกณฑ์ใบขับขี่ หรือแก่จน 80+ แล้ว ก็ยังให้ขับ แม้ว่าจะตัดสินใจได้ช้ากว่าความเร็วรถไปมากก็ ok?

ลองมองรอบตัวว่ามีใครไม่เคยสูญเสียคนที่รัก
จากระบบการจราจรของไทย คงจะไม่มี
#ส่งหมอกระต่าย #RIPKT
#อยากให้เป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย
#ประเทศที่คนตายจากอุบัติเหตุจราจรเป็นอันดับ3ของ
โลก

s__98533498

s__98533499

s__98533500
s__98533501

s__98533502

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส