กรณีนายวินัย รำเทียมเมฆ สามีของนางสุภา รำเทียมเมฆ ร้องเรียนไปยังหมอปลาเพื่อให้ตรวจสอบ หลังเมียนับถือเจ้าแม่กวนอิม แต่มีลักษณะคล้ายเป็นร่างทรง มีการไปเชื่อหมอดูและคนอื่น จนกระทั่งไม่สามารถเข้าใกล้สามีได้ และสามีไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวได้นั้น
วันที่ 25 ม.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางไปที่ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวินัย รำเทียมเมฆ เจ้าของบ้านพาทีมข่าวสำรวจและดูจุดต่าง ๆ ของบ้าน เป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว รอบบ้านเป็นสวนยางพารา อยู่กันมานานกว่า 30 ปี ในบ้านอาศัยกันอยู่ 5 คน คือ พ่อ แม่ และลูกสาว 3 คน ชีวิตความเป็นอยู่ ต่างคนต่างอยู่ ต่างกิน และแยกกันนอนคนละห้อง แยกครัว และแยกหิ้งการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ
นายวินัย พาทีมข่าวเข้าไปดูภายในห้องนอนซึ่งอยู่ใจกลางบ้าน เดิมทีเคยกินนอนอยู่กับนางสุภา ภรรยา แต่หลังจากที่ภรรยาไปรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากร่างทรงมาบูชาไว้ที่บ้าน ทำให้ต้องแยกกันนอนและแยกกันใช้ชีวิต แต่สำหรับภายในห้องนอนของนายวินัย สังเกตว่านอกจากจะมีที่นอนและมุ้งกางเอาไว้อยู่ ฝั่งขวาของเตียงนอน ทำเป็นลักษณะหิ้งครูบูชา บนหิ้งสังเกตว่ามีหน้ากากของพรานบุญ ซึ่งเป็นตัวแทนของหมอครูทางใต้ โดยนายวินัยได้ไปรับหน้ากากครูดังกล่าวมาจากพ่อที่เสียชีวิตเมื่อปี 2551 เอามาบูชาไว้ในบ้าน และมักจะมีการจุดเทียนธูปบูชาเป็นประจำ ส่วนบนหิ้งก็ไม่ได้มีสิ่งของอื่นแปลกปลอมวางอยู่ นอกจากพระเครื่องจำนวน 3 องค์
นายวินัย เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปในอดีตตนเองกับนางสุภาคบหาและย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งลูกสาวคนโตไปกราบนมัสการพระรูปหนึ่งในพื้นที่อำเภอกันตรัง จังหวัดตรัง จากนั้นถูกทำนายว่าพ่อและแม่จะล้มป่วยหนัก ให้มีการทำพิธีบางอย่างเพื่อปกปักรักษา ทำให้ครอบครัวจึงตัดสินใจอนุญาตให้พระรูปดังกล่าวเข้ามาทำพิธี โดยให้พระเข้ามาฝังแผ่นทอง จำนวน 9 แผ่นรอบบ้าน พร้อมทั้งมีการจัดเตรียมเครื่องสังเวยมาประกอบพิธีอีกหลายอย่าง และพระรูปดังกล่าวก็ให้ตนเองเป็นเจ้าภาพถวายเสาโบสถ์ 2 เสา รวมค่าถวายเสาและค่าประกอบพิธี จ่ายไปทั้งสิ้น 50,000 บาท และพระรูปดังกล่าวก็ยังมีการเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านออกไป มีแต่แผ่นทองที่ฝังรอบบ้านเอาไว้เท่านั้น
หลังจากที่มีการประกอบพิธีแล้ว ตนเองป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาท ส่วนภรรยาแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ไปหาหมอรับการรักษามานานหลายเดือนแต่ก็ไม่หาย ตนเองนอนป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ครอบครัวก็ไปเจอกับร่างทรงคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการนั่งดูดวงและทำนายทายทักว่า พระรูปที่มาประกอบพิธี มีการฝังของไม่ดีเอาไว้ในบ้าน จากนั้นจึงทำให้คนในบ้านล้มป่วย ให้มีการขุดเอาแผ่นทองทั้งหมดไปประกอบพิธีเผา ตอนนั้นตนเองมีการขุดแผ่นทองออกไปได้เพียงแค่ 8 แผ่น ส่วนอีก 1 แผ่น ยังไม่รู้ว่าถูกฝังเอาไว้มุมไหนของบ้าน เพราะยังหาไม่เจอ หลังจากที่มีการทำลายแผ่นทองทิ้งแล้ว ร่างทรงก็ได้มีการตั้งศาลพระภูมิและศาลตายาย ซึ่งมีการย้ายจุดในบ้านมากกว่า 5 ครั้ง หมดเงินไปอีกครั้งละ 20,000 บาท หลังจากนั้นตนเองและภรรยาก็ดีขึ้นจนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังจากหายดีนางสุภาภรรยาของตนเอง ก็ได้ไปหาเจ้าแม่กวนอิมมาบูชา เชื่อตามที่ร่างทรงบอก จากนั้นภรรยาของตัวเองก็เริ่มมีอาการแปลก เวลาที่นอนกับตนเองก็มักจะพูดว่าเจ้าแม่กวนอิมเป็นเทพสูงส่ง ส่วนตนเองนับถือครูมโนราห์ใต้ เป็นเพียงแค่หมอครู หรือผีบรรพบุรุษ ซึ่งต่ำกว่าเทพที่ภรรยานับถืออยู่ จึงทำให้ไม่สามารถนอนและใช้ชีวิตร่วมกับตนเองได้ จึงตัดสินใจที่จะแยกห้องไปอยู่เพียงลำพัง
ช่วงระยะหลัง ตนเองก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตร่วมกับภรรยาได้อีกเลย ไม่ว่าจะเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ การจับเนื้อต้องตัว หรือแม้แต่การกินข้าวใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้าน เพราะภรรยาอ้างว่าเหม็นสาบ หรือแม้แต่ถ้าหากกินน้ำแก้วเดียวกันก็จะอ้วก กินข้าวต่อจากตนเองหรือคนอื่นทานก่อนก็จะอ้วกเช่นเดียวกัน ยอมรับว่า 7 ปีที่ผ่านมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านไม่เคยมีความสุข ต่างคนต่างใช้ชีวิต และไม่สามารถที่จะพูดคุยอะไรกันได้ เสมือนเป็นการถือเทพถือครูคนละสาย ดังนั้น ตนเองจึงอยากจะให้หมอปลาเข้ามาดูความผิดปกติภายในบ้าน หากจะมีการทุบทำลายหรือจะแนะนำให้มีการแก้ไขอย่างไรตนเองก็พร้อม เพราะถือว่าอย่างน้อยคนในครอบครัวก็จะได้ใกล้ชิดกัน กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากขึ้น
ด้านนางสุภา รำเทียมเมฆ ภรรยาของเจ้าของบ้าน พาทีมข่าวไปดูที่กลางบ้าน มีหิ้งพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประธานของบ้านติดอยู่ข้างผนังแล้ว สังเกตว่ายังมีหิ้งสีแดง ที่ทำเป็นชั้น คล้ายโต๊ะหมู่บูชา ด้านบนสุดมีการวางองค์เจ้าแม่กวนอิม ขนาบข้างด้วยเทพนาจา และยังมีองค์เทพจีนอื่น ๆ วางลดหลั่นตามกันมา มีการบูชาถวายด้วยชา จำนวน 9 ถ้วย ใช้เทียนธูปสีแดงในการบูชา ใกล้กันมีหิ้งสีขาว ซึ่งมีการวางรูปปั้นเทพฮินดูหลายองค์
นางสุภา ภรรยาของนายวินัย เปิดเผยว่า การที่ตนเองเป็นอยู่แบบนี้เป็นเพราะต่างคนต่างนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ได้โทษใคร แต่การที่ตนเองนับถือและปฏิบัติก็เป็นสิ่งที่เลือกแล้ว ตนเองนับถือองค์เจ้าแม่กวนอิม ท่านก็ปกปักรักษา คอยดูแลตนเองให้ปลอดภัย รวมทั้งไม่มีโรคหรืออาการแน่นหน้าอกเหมือนเช่นเคย เมื่อตนเองถือองค์เทพจะแม่กวนอิมแล้วก็เลยยึดถือปฏิบัติ และให้คำมั่นว่าจะถือศีลกินเจทุกวันพระ วันเกิด จะไม่มีอะไรหรือแตะเนื้อต้องตัวกับผู้ชาย เพื่อเป็นการถวายให้กับเจ้าแม่กวนอิม ที่สำคัญตนเองก็ไม่เจ็บป่วยด้วย และการที่ตนเองถือปฏิบัติหรือเป็นคล้ายร่างทรง ก็ไม่ได้ไปหลอกลวงหรือไปรักษาใคร ถือปฏิบัติเพราะไม่ต้องการให้ตนเองป่วยเท่านั้น
แต่ในทางกลับกัน ตนเองมองว่าคนที่น่ากลัวที่สุดคือสามี เพราะหลังจากที่พ่อเสียชีวิต ก็ได้ไปรับเอาหมอครูมโนราห์ และผีบรรพบุรุษเอามาไว้ในบ้าน ทำให้ตนเองไม่สามารถที่จะนอนและใช้ชีวิตร่วมกับสามีได้ เพราะการนอนแต่ละครั้ง มักจะมีสิ่งที่มองไม่เห็น มาทำให้อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นในตอนนอน โดยจะมี 3 ร่างคอยทำร้ายตนเอง คล้ายกับคนมีอะไรกัน บางครั้งสังเกตว่าเป็นหน้าของสามี บางครั้งสังเกตเป็นหน้ายักษ์ ผู้ชายมีเขี้ยว บางครั้งก็เป็นผู้ชายมีลิ้นยาว ใช้พันคอบีบรัดตนเอง ดังนั้น หลังจากที่ตนเองเจอกับเหตุการณ์เวลาที่นอนกับสามีและมี 3 ร่างแบบนั้น ทำให้เลือกที่จะถอยห่างออกมา และนับถือเจ้าแม่กวนอิม จนทำให้ชีวิตของตัวเองเป็นปกติสุขทุกวันนี้
ขณะที่สามีของตนเองเดินทางไปเจอกับหมอปลา ตนเองก็ทราบ เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สามีอยากหาทางออกให้กับคนในครอบครัว โดยตนเองก็ไม่ได้ขัดขวางหรือไม่ต้องการที่จะได้รับการแก้ไข แต่อยากให้คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะอย่าลืมว่าถ้าหากหมอปลาเดินทางมาก็จะต้องมีการทุบทำลายรูปปั้น และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองเคารพนับถือ ถ้าหากมีการทำลายหรือแก้แล้วดีขึ้น ตนเองก็พร้อมที่จะน้อมรับ แต่ถ้าหากมีการทำลายแล้วไม่ได้ทำให้คนในบ้านดีขึ้น แต่ทำให้แย่ลง หรือทำแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ หมอปลาจะร่วมผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นความเชื่อของแต่ละคน เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวของแต่ละคนที่จะมีสิทธิ์ที่จะทำ
จากนั้น ทีมข่าวจึงได้มีการเชิญนายวินัยทำการทดสอบ เทน้ำใส่แก้ว 2 ใบ ใบหนึ่งให้นายวินัยดื่ม คือแก้วที่เป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายบวก ของสภากาชาดไทย หลังจากนั้นก็ได้นำแก้ว 2 ใบไปพิสูจน์ นางสุภาพร้อมหยิบน้ำไปดื่มทั้ง 2 แก้ว โดยไม่มีอาการอาเจียนออกมาแต่อย่างใด หลังดื่มแก้วที่นายวินัยดื่มแล้ว นางสุภาบอกว่า "แก้วนี้มีคนเท ไม่รู้ว่านักข่าวหรือสามีเป็นคนเท แต่ยืนยันว่ายังไม่มีใครดื่ม"
ด้านนายจิระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า จากกรณีเคสที่มีการร้องเรียนนั้น เป็นความเชื่อของคนในบ้านที่ไปคนละทิศทาง โดยเฉพาะการเคารพนับถือสิ่งที่เป็นคนละสายกัน แต่ไม่มีความเชื่อในตัวของตนเอง และไม่เคยเชื่อคนที่อยู่ใกล้ชิดกัน แต่กลับความเชื่อคนนอกมากกว่า และสิ่งที่คนในบ้านกำลังงมงายอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ และไม่ได้เป็นการทำให้คนในบ้านมีความสุข เพราะเชื่อแต่สิ่งที่คนอื่นบอกมาอีกที ฉะนั้นจึงทำให้เป็นสาเหตุที่ทำให้คนในครอบครัวไม่สามารถที่จะหันหน้าคุยกันได้ และไม่มีความสุข
ดังนั้นหากคนในบ้านอนุญาตให้ตนเองเข้าไปช่วยแก้ปัญหา และเข้าไปดูเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นอยู่ ยอมรับว่าจะเกิดสิ่งไม่คาดคิดขึ้นแน่นอน เพราะคงทุบทิ้งหมด ฉะนั้นถ้าหากตนเองมีโอกาสผ่านลงไปพื้นที่ภาคใต้ก็จะแวะเข้าไปดูให้ เบื้องต้นตอนนี้อยากจะให้คนในครอบครัวหันหน้าพึ่งพุทธศาสนา ลองปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เชื่อคนใกล้ตัวมากกว่าเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น เพื่อที่จะให้คนในครอบครัวหันน่ามาคุยกันได้
