เนย แฟน “เก่ง ลายพราง” ลั่นฟ้อง “บังแจ็ค” ขู่ทวง 2 ล้านปล่อยภาพลับ ชี้ไม่มีจริง รูปก็ตัดต่อ (คลิป)

31 ธ.ค. 61
จากกรณีเฟซบุ๊ก Raja Zulqarnain Haider ของบังแจ็ค ที่โพสต์เรื่องราว การขู่ปล่อยคลิปหลุดของน้องเนย แฟนเก่งลายพราง และยังโพสต์ทวงเงิน 2 ล้านบาท อ้างว่าถ้าไม่ได้คืน สังคมต้องตาสว่าง ระบุว่า บอกเลย อย่ามาเล่นกับกู
นางสาวสายธาร ยิ้มอำไพ หรือ เนย แฟนสาวเก่งลายพราง
นางสาวสายธาร ยิ้มอำไพ หรือ เนย แฟนสาวเก่งลายพราง เปิดเผยว่า ระยะช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา บังแจ็ค อยู่ต่างประเทศ ใช้เฟซบุ๊กทักมาหาตน บอกทำนองว่า เห็นใจที่เก่งลายพรางติดอยู่ในเรือนจำ และตนต้องทำงานหาเงินเอง โดยเสนองานให้มีรายได้เสริม ให้ช่วยขายมือถือ iPhone Xs Max มูลค่าเครื่องละ 30,000 บาท บังแจ็คได้ขอเลขที่บัญชี อ้างว่าจะใช้เพื่อการโอนเงินเดือนให้ จากนั้นไม่นาน ก็มียอดการโอนเงิน 30,000 บาท โดยผู้ที่สั่งซื้อมือถือโอนเข้ามาในบัญชีของตนเอง ซึ่งบังแจ็คอ้างว่า ไม่มีบัญชีที่ประเทศไทย ขอฝากเงินโอนเข้าบัญชีของตนก่อน จากนั้นเวลาผ่านไป มีผู้เสียหาย 2 ราย ที่โอนเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้รับของ จึงเข้าไปแจ้งความเอาผิดตนในฐานะเจ้าของบัญชี ตนเองจึงไปแจ้งความที่ สน.บางเขน พร้อมได้เริ่มทะยอยใช้เงินส่วนตัว โอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย เพราะเงินที่ได้รับโอน 2 รอบ จากผู้เสียหาย ตนก็โอนไปให้บังแจ็คที่ต่างประเทศแล้ว จึงไม่มีเงินส่วนนั้นเหลืออยู่ในบัญชี ทั้งนี้ นางสาวสายธาร กล่าวถึงกรณีการคืนเงิน 2,000,000 บาท เพื่อแลกกับการถูกเผยแพร่คลิปหรือภาพลับ ว่า จำนวนเงิน 2,000,000 บาท ไม่มีอยู่จริง ตนเองไม่เคยยืม หรือเคยได้รับเงินจากบังแจ็ค แต่เกิดจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 61 บังแจ็คได้ติดต่อมา โดยอ้างว่ามีเพื่อนสนิทชาวต่างชาติคนหนึ่ง ต้องการจะซื้อเฟซบุ๊กเก่งลายพราง เพราะเจ้าตัวติดคุก จึงอยากได้ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งเก่งก็บอกว่าขายได้ ตนเองจึงตอบตกลงกับบังแจ็คไป แต่เมื่อตกลงกันแล้ว บังแจ็คอ้างว่ายังไม่พร้อมโอนเงิน รอทะยอยโอนให้ ซึ่งได้ชื่อเข้าใช้งานและพาสเวิร์ดไปก่อน ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงปฏิเสธ ไม่ขายให้บังแจ็ค ซึ่งจุดนี้ทำให้กลายเป็นปัญหาที่ขัดกันเรื่องผลประโยชน์ จากนั้นบังแจ็คจึงอ้างเรื่องปมเงิน 2,000,000 บาท
เปรียบรอยสักของเนยและผู้หญิงภายในคลิป
เปรียบรอยสักของเนยและผู้หญิงภายในคลิป
ส่วนกรณีคลิป และภาพนิ่งที่บังแจ็คขู่จะปล่อยออกมานั้น ยอมรับว่า บังแจ็คไม่มีภาพเหล่านั้น ภาพทุกภาพเกิดจากการตัดต่อทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องที่บังแจ็คเชี่ยวชาญ ตนมองว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการสร้างกระแสของบังแจ็ค เพื่อหวังให้เฟซบุ๊กมียอดฟอลโล่เพิ่มขึ้น แต่พฤติกรรมครั้งนี้ ทำให้ตนเองเสียหาย และถูกกระแสโซเชียลโจมตี ขขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย เพื่อจะดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ