ร้านอาหาร แจงปีกไก่ทอดแพงเพราะใช้นํ้ามันมะกอกขวดละพัน ลูกค้ายันพร้อมจ่าย แต่ขอรัฐตรวจสอบ

24 ม.ค. 65

กรณี ร้านอาหาร ราคาทองคำ ปีกไก่ทอด จานละพัน กระเพาะปลาน้ำแดงหม้อละ 5,000 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านอาหารดังกล่าวปรากฏว่า เจ๊เจ้าของร้านไปต่างจังหวัดมีเพียงพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่ให้รายละเอียดแต่มีบางคำถามที่ไม่กล้าตอบจึงมีการต่อสายคุยกับเจ้าของร้านชื่อ ”เจ๊บิว”

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวก็ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องกดไปยังเบอร์โทรของนายเกียรติภูมิเพื่อให้ทั้งสองได้เจรจาทำความเข้าใจกัน ซึ่งเจ๊บิวอ้างว่าอาหารที่สั่งเป็นของสดทั้งหมดน้ำมันที่ทอดก็ใช้น้ำมันมะกอกราคาขวดละเป็นพัน ส่วนน้ำแข็งที่แพง เพราะคิดค่าละลายเร็วเนื่องจากอากาศข้างนอกมันร้อนแต่พร้อมจะพูดคุยกับลูกค้าซึ่งนายเกียรติภูมิยืนยันจะขอคุยต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น

เจ๊บิวเจ้าของร้านอาหารชื่อดังคู่กรณีเปิดเผยต่อว่ามีการตกลงราคากันก่อนที่ลูกค้าจะมาจัดเลี้ยงที่ร้านตามราคาที่ระบุตามบิลซึ่งยืนยันว่าใช้วัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานและไม่มีเจตนาฉวยโอกาสขึ้นราคาแต่อาจจะมีความผิดพลาดเรื่องปริมาณหรือการจัดเมนูโดยพร้อมที่จะเจรจากับลูกค้าลดราคาให้ตามสัดส่วน และพร้อมที่จะไม่คิดเงินที่เหลือหากลูกค้าไม่พอใจขอความเมตตาจากลูกค้าทุกท่านย้ำว่าทางร้านไม่เคยคิดฉวยโอกาส แต่อาจมีความผิดพลาดในการคิดราคาและพร้อมที่จะดูแลลูกค้าทุกท่านหากผิดพลาดขอกราบขอโทษลูกค้าและพร้อมที่จะร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดนครพนมส่วนบิลที่คิดเงินลูกค้าระบุว่าแพงจะมีการตรวจสอบพิจารณาตามความเป็นจริงยอมรับในความผิดพลาด

ล่าสุด วันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 09.30 น. นายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล อายุ 54 ปี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดนครพนมโดยกำเนิดแต่ไปประกอบอาชีพไกด์ทำงานอยู่จังหวัดอุดรธานีพร้อมด้วยนางปาริชาติดวงสงค์หรือกะตั๊วอายุ53ปีอาชีพธุรกิจส่วนตัวไดเดินทางไปพบกับนายชาญชัยคงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนมและนายไชยวุฒิวัชเรนทร์สุนทรนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนมณห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า)ในกรณีที่กำลังเป็นประเด็นร้อนจากการที่นายเกียรติภูมิได้โพส์ตลงในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับราคาอาหารจำนวน 31,501 บาทว่า มีความเหมาะสมกันหรือไม่

ทั้งนี้ นางปาริชาติ เปิดเผยว่า เป็นเพื่อนักเรียนรุ่นเดียวกับนายเกียรติภูมิได้ไปจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อนรุ่นเดียวกันประมาณ 30 คนโดยวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ตนพร้อมกลุ่มเพื่อนได้ปรึกษากันว่าจะเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนจะเลือกร้านอาหารไหนดีก็มีคนแนะนำว่าไปร้านอาหารคู่กรณีแห่งนี้พวกตนจึงไปทดลองชิมอาหารกับเจ๊บิวเจ้าของร้านพร้อมเป็นผู้กำหนดเมนูและราคาชุดละ 2,000 บาทรวมราคาที่สั่งเป็นเงิน 13,000 บาท โดยเบื้องต้นได้จ่ายเงินมัดจำไว้ 10,000บาท

ครั้นถึงวันที่ 21 มกราคม พวกตนได้ไปถึงร้านประมาณหกโมงเย็นเศษๆมีอาหารที่สั่งไว้มาวางบนโต๊ะชุดละ 2 จานซึ่งรู้สึกว่าอาหารในจานน้อยกว่าที่อื่นมากแต่ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรและได้ถ่ายรูปอาหารเหล่านั้นเก็บไว้พอมาถึงกระเพาะปลาที่ตนสั่งให้ใส่เนื้อปูปรากฏว่าควานหาเนื้อปูเท่าไหร่ก็ไม่เจอมีแต่เนื้อไก่และหน่อไม้โดยแต่เดิมนั้นตกลงราคากันที่หม้อละ 4,000 บาทเมื่อตนต้องการให้ใส่เนื้อปูราคาจึงเพิ่มเป็นหม้อละ 5,000 บาท

ต่อจากนั้นสอบถามเด็กเสิร์ฟว่าอาหารหมดหรือยังได้คำตอบว่าทุกอย่างลงบนโต๊ะหมดแล้วตนเริ่มมีความไม่สบายใจถึงปริมาณอาหารเป็นอย่างมากกระทั่งเวลาประมาณ 22.30น. จึงสั่งเช็คบิลก็มีการรอบิลนานมากพอเห็นราคาสามหมื่นกว่าบาททุกคนต่างตกใจมากไม่คิดว่าจะแพงถึงขนาดนี้จึงยังไม่ขอจ่ายเงินแต่ขอไปปรึกษากันก่อนว่าราคาขนาดนี้สมควรจ่ายหรือไม่

นางปาริชาติ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างไม่ติดใจเพราะราคาตนเป็นคนกำหนดแม้แต่ค่านักดนตรีซึ่งทีแรกตกลงกันที่ 4,000 บาทเล่นตั้งแต่ 18.00น. ถึง 22.00 น. นักดนตรีมาหกโมงกว่าเลิกก่อนสี่ทุ่มแต่คิดราคาเป็น 5,000 บาท ก็ไม่ว่ากันถือว่ารับได้ส่วนราคาน้ำแข็ง 111 ถังเขาจะบอกกี่ถังก็ได้เพราะไม่เคยไปนั่งนับแต่ถามว่า คนอายุ 50 กว่าปีกินน้ำแข็งมากมายขนาดนี้เชียวหรือพวกตนติดใจที่ปริมาณอาหารเท่านั้นหากตกลงยินดีโอนให้เดี๋ยวนี้ทันที “เราไม่ชักดาบพร้อมจ่ายคะ” นางปาริชาติ กล่าว

ด้าน เจ๊บิว อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถมาพบกับคู่กรณีได้ซึ่งนายไชยวุฒิบอกว่าเขาบอกเป็นคน จังหวัดพิษณุโลก มาทำธุรกิจอยู่ นครพนม แต่ในกลุ่มเพื่อนของ นายเกียรติภูมิ และ นางปาริชาติ กระซิบบอกผู้สื่อข่าวเจ้าของร้านเป็นคนจังหวัดนครพนมอยู่อ.ท่าอุเทนไม่ใช่เป็นจังหวัดพิษณุโลกตามที่อ้าง

นายชาญชัย คงทัน รองผวจ.นครพนม กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวรู้สึกไม่สบายใจเพราะนครพนมกำลังบูมจากการท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงต้องเชิญมาคุยกันก็ยังต้องรอทางเจ้าของร้านว่าจะเอาอย่างไร และจะหามาตรการมาควบคุมดูแลผู้ประกอบการร้านอาหารซึ่งนายเกียรติภูมิเสนอว่าควรมีสมาคมหรือชมรมร้านอาหารให้เขาดูแลกันตนในฐานะเป็นไกด์ไปในหลายประเทศไม่เคยเจอร้านอาหารลักษณะแบบนี้จึงควรให้ตั้งกลุ่มขึ้นมา เพราะตนในฐานะเป็นคนนครพนมโดยกำเนิดไม่อยากเห็นจังหวัดของตนเกิดเรื่องราวน่าละอายเช่นนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ช็อก! ลูกค้าร้อง ร้านอาหาร สุดแพง ปีกไก่ทอดจานละพัน กระเพาะปลาน้ำแดงหม้อละ 5,000
- หนุ่มแชร์ประสบการณ์อึ้ง สั่ง ผัดกะเพราปู สิ่งที่คิด Vs สิ่งที่ได้ ไม่ปูตรงไหนปากกามาวง
- ขยี้ตาแรง! ข้าวผัดยุค หมูแพง เจอเศษหมู 2 ชิ้น คิดราคากล่องละ 50 บาท

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส