มีจริง! ป้าทำหลังคาคร่อมถนนจอดรถ ใครขวางฉะลั่นอยู่ก่อนไม่ผิด คนระอาขายบ้านหนี (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return part2" ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมบรรยายข้อความระบุถึง 2 เพื่อนบ้านคู่กรณี หลังเปิดศึกอัดคลิปโตเถียงกันและนำมาลง tiktok ภายในคลิปจับใจความได้ว่าคนโพสต์ไม่พอใจที่เพื่อนบ้านคู่กรณี
ปลูกต้นไม้ และทำหลังคายื่นจอดรถยื่นออกมาบนถนนสาธารณะ ทำให้มองว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนถึงเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ เนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นที่สาธารณะของหมู่บ้าน

วันที่ 24 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในพื้นที่หมู่บ้านสัมพันธ์วิลล่า 4 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อนบ้านคู่กรณีของคนโพสต์ ได้มีการการสร้างหลังคาจอดรถ และปลูกต้นไม้ ล้ำยื่นออกมาบนถนนสาธารณะของหมู่บ้านจริง ตามคลิปที่ปรากฏ

นางเยาวลักษณ์ ไชสาร อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ส่วนกลาง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มานานกว่า 20 ปี ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ามาอาศัยอยู่บริเวณข้างบ้านของคนโพสต์นั้น สังเกตเห็นว่ามีการจัดวางกระถางต้นไม้ไว้อยู่ก่อนแล้ว จากเจ้าของบ้านคนเก่า ก่อนที่ช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตนเพิ่งได้มาเริ่มสร้างหลังคาจอดรถเพื่อกันแดดกันฝน เพราะบ้านตนมีรถจอด 2 คัน และมองว่าบริเวณพื้นที่หน้าบ้านตนเป็นกำแพงตัน ไม่มีคนสัญจรเข้าออกอยู่แล้ว จึงใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ในการสร้างหลังคาจอดรถ ในรูปแบบเหล็ก สังกะสี ในราคาหลัก 10,000 บาท ก่อนคนโพสต์จะเข้ามาอยู่หลังตนได้เกือบ 2 ปี

ก่อนเริ่มมีปัญหาไม่พอใจตน เนื่องจากเจ้าตัวมีจุดประสงค์ต้องการอยากจะมาใช้พื้นที่บริเวณนี้จอดรถด้วย ส่วนกรณีที่คนโพสต์คู่กรณีกล่าวอ้างว่าตนไปทำการฉีดน้ำรดต้นไม้ใส่หน้าต่างบ้านเค้า จนได้รับผลกระทบน้ำกระเด็นเข้าบ้าน ในส่วนนี้ยอมรับว่าตนฉีดรดน้ำต้นไม้จริง แต่ตนไม่ทราบมาก่อนว่าน้ำที่ตนฉีดนั้นจะเข้าหน้าต่างบ้านของคนโพสต์ จนได้รบผลกระทบ ทำให้ตนเองจึงไม่ได้มีการแก้ไขพฤติกรรม เพราะทางคนโพสต์เองก็ไม่ได้มาบอกให้ตนทราบ ซึ่งในส่วนนี้หากก่อนหน้าตนรู้ก่อนก็คงจะทำการแก้ไขให้

ส่วนกรณีตามคลิปที่ปรากฏที่ตนและคู่กรณีมีการโต้เถียงกันนั้น คนโพสต์ได้จอดรถกระบะด้านหน้ายื่นล้ำมายังถนนฝั่งทางเข้าบ้านตน ซึ่งเป็นจังหวะที่ลูกสาวตนเลิกงานและขับรถกลับเข้าบ้าน ทำให้ลูกสาวไม่สามารถขยับรถเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้านได้ ซึ่งในส่วนนี้ตนเคยพูดคุยกับทางคนโพสต์หลายครั้งแล้ว แต่เจ้าตัวเองก็เกิดความไม่พอใจ ทำให้ล่าสุดเกิดปากเสียงขึ้น

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ตนยังคงยืนยันคำเดิมว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ใช้สอยหน้าบ้านของตน และตนจะไม่ทำการหรือถอนหลังคาจอดรถแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิด อีกทั้งยืนยันว่าหากเพื่อนบ้านคู่กรณีไม่พอใจ ก็ต้องมีหมายศาลหรือเอกสารสั่งหรือถอนจากทางเขตพื้นที่ดูแลรับผิดชอบเท่านั้น ตนจึงจะทำการขนย้ายออกให้

นอยากวอนคนในสังคม ที่ได้ติดตามข่าวดังกล่าวให้ฟังความทั้งสองข้าง เพื่อจะได้ตัดสินว่าใครเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ระหว่างตนที่ใช้พื้นที่ส่วนกลางในการปลูกต้นไม้ส่วนตัวและโรงจอดรถ กับอีกฝ่ายที่ร้องเรียนว่าตนไปทำให้เขาเดือดร้อน พร้อมทั้งอยากจะฝากถึงบุคคลที่อาศัยอยู่ในชุมชนหรือหมู่บ้านในลักษณะเดียวกับตน ให้ควรมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนบ้าน จะได้ไม่เกิดปัญหาเหมือนกรณีที่เกิดขึ้น

นายธวัชชัย จันทร์ลำ อายุ 29 ปี คนโพสต์ผู้เดือดร้อน เล่าว่า ตนซื้อบ้านหลังดังกล่าวภายในหมู่บ้าน ในราคา 1,500,000 บาท ก่อนที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนเข้ามาอยู่ก็พบว่าบ้านของคู่กรณีอยู่บริเวณข้างบ้านตน ระยะห่างเพียง 3- 4 เมตร ได้ทำการปลูกต้นไม้และสร้างหลังคาเหล็กเพื่อจอดรถ ล้ำยื่นออกมาติดกับฝั่งทางบ้านตน อยู่ก่อนแล้ว

แต่ในตอนแรกตนเห็นว่า คู่กรณีมาอยู่ก่อนจึงไม่อยากมีปัญหา แต่พออาศัยอยู่ก็เริ่มได้รับผลกระทบ เมื่อช่วงเดือน ต.ค. 64 คู่กรณีได้ทำการนำสายยางฉีดรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้ข้างบ้านตน ทำให้แรงดันน้ำที่ฉีดนั้นพุ่งกระเด็นมายังหน้าต่างไม้ ซึ่งเป็นห้องนั้งเล่นของตน ทำแบบนี้เป็นประจำจนหน้าต่างที่เป็นไม้เปื่อย น้ำทะลุซึม เข้ามายังตัวบ้านของตนจนได้รับความเดือดร้อน

โดยหลังเกิดเรื่อง ตนได้พยายามเจรจากับเจ้าของบ้านคู่กรณีแต่ก็ไม่เป็นผล และยังคงทำพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำ ๆ ตนจึงต้องแก้ปัญหาโดยการต้องเปลี่ยนหน้าต่างใหม่จากของเดิมที่ติดมากับตัวบ้านตอนซื้อเป็นไม้ ก็เปลี่ยนเป็นเหล็กโลหะ ในราคา 6,000 บาท
เพื่อแก้ปัญหาน้ำกระเด็นซึมเข้ามาทางหน้าต่าง พร้อมทั้งจำเป็นต้องเอารถกระบะที่ตนใช้ส่งพัสดุ มาจอดล้ำที่บริเวณหน้าบ้าน เพราะบ้านของคู่กรณีมีรถ 2 คัน จอดอยู่ที่จอดรถข้างบ้านตนจนเต็ม ทำให้ตนไม่สามารถไปจอดบริเวณนั้นได้ ทั้งที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ ถนนของหมู่บ้าน

กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 65 ช่วง 21.00 น. ขณะที่ตนนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านคู่กรณี ตะโกนโวยวายด่าทอตน หาว่าตนจอดรถขวางทางเข้าออกรถบ้านเขา ถ้าหากสังเกตตามคลิปจะสังเกตได้ว่าตนก็ได้เว้นช่องให้รถสามารถเข้าออกได้ประมาณ 2-3 เมตรแล้ว แต่คู่กรณีก็ยังเกิดความไม่พอใจและมาต่อว่าตนตามคลิปที่ปรากฏนานเกือบ 1 ชั่วโมง ตนจึงจัดสินใจทำการไลฟ์สดเพื่อบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ตามคลิปดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าก่อนหน้านี้ตนเคยขอร้องและเจรจากับเพื่อนบ้านคู่กรณีมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงมีการประสานไปยังเขตพื้นที่ปากเกร็ด และโครงการหมู่บ้าน ให้ช่วยเข้ามาดูแลตรวจสอบในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น สุดท้ายนี้ตนอยากบอกกับเพื่อนบ้านคู่กรณีว่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ควรจะมีความคิดเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จะได้ไม่ต้องเกิดความวุ่นวายและเกิดเหตุดังกล่าวซ้ำอีก