กุศลใหญ่ สาวไรเดอร์ประสบอุบัติเหตุสมองตาย บริจาคอวัยวะ ช่วยต่อ 6 ชีวิต

24 ม.ค. 65

24 ม.ค. 65 กรณี สาวไรเดอร์ บริจาคอวัยวะ วานนี้ ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้แจ้งเรื่องราวการทำกุศลใหญ่ หลังการเสียชีวิตของนางสาวชาลิสา วงษาวดี อายุ 29 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พนักงานฟู้ดแพนด้า ซึ่งประสบอุบัติเหตุสมองตาย โดยเจ้าตัวเคยบอกกับญาติในงานวันเกิดของป้า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าถ้าหากตนเองตายลง ก็อยากบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตคน

ต่อมาวันที่ 21 ม.ค. นางสาวชาลิสาได้รวมกลุ่มไปทำงานที่บ้านเพื่อน กระทั่งเวลา 02.00 น. นางสาวชาลิสาได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะกลับไปยังห้องพัก แต่มาประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง เมื่อรถจักรยานยนต์ของนางสาวชาลิสาที่ขี่มาเกิดไปชนเข้ากับท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง จนขาหัก หัวใจหยุดเต้น เหตุเกิดแถวบายพาส หน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษา ต้องทำการปั๊มหัวใจถึง 6 ครั้ง และแพทย์ได้บอกกับทางญาติว่า นางสาวชาลิสาขาดอากาศหายใจ มีอาการสมองตาย โดยญาติตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เวลา 15.52 น.

ทั้งนี้ ทางศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์จึงยื่นความประสงค์ในการขอรับบริจาคกับทางญาติ ญาติของผู้ป่วยจึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะในร่างกายให้กับทางสภากาชาดไทย เพื่อหวังให้บุญกุศลส่งให้ผู้ตายไปสู่ในภพภูมิที่ดี

แต่เนื่องจากสภาพทางกายของผู้ป่วย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทีมแพทย์ของทางสภากาชาดไทย จึงไม่สามารถเดินทางมารับบริจาคอวัยวะได้ทั้งหมด จึงได้แค่เพียงดวงตาทั้ง 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ ไต 2 ข้าง หลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบ ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้ถึง 6 ชีวิต

ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้น ทางญาติจะนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.บ้านติ้ว อ.เหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 27 ม.ค. ณ วัดศรีภูมิ ตำบลบ้านติ้ว อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

จากการสอบถาม นางระพีพร วงษาวดี อายุ 58 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ตนเองมีลูก 2 คน ส่วนผู้ตายเป็นน้องคนสุดท้อง ชอบเรียนภาษาอังกฤษมาก มีความฝันอยากไปทำงานต่างประเทศ เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ช่วงนี้น้องกำลังสอบภาษา น้องประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋งที่จอดอยู่ข้างทาง หมอแจ้งน้องอาการขาดออกซิเจนหลายนาทีและขาหัก ส่วนเรื่องการบริจาคอวัยวะเป็นความประสงค์ของน้องอยู่แล้ว เพราะน้องเคยพูดกับตนเองเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยังไม่ทันได้แจ้งความประสงค์ไปทางสภากาชาดไทย

ก่อนที่ลูกสาวจะประสบอุบัติเหตุ ตนก็ไม่เคยมีลางบอกเหตุ ว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้น ปกติทุกอย่าง ตัวน้องมีความใฝ่ฝัน อยากทำงานเกี่ยวกับภาษา อยากไปทำงานต่างประเทศ เพราะน้องอยากมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว

ในครั้งนี้ที่ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของน้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ยังมีชีวิตอยู่ และเพื่อให้เป็นกุศลต่อตัวน้อง น้องจะได้รับกุศลส่วนนี้ไปในภายภาคหน้า ที่น้องไม่ได้อยู่กับเราแล้ว จะได้เป็นโอกาสต่อชีวิตให้ผู้อื่น ซึ่งเป็นกุศลที่สูง หนุนนำให้น้องได้ไปเจอสิ่งที่ดี ในภพภูมิข้างหน้า

ขณะที่ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ก็ขอสาธุอนุโมทนาบุญ ให้กับครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งประสบอุบัติเหตุ เป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 27 ปี ซึ่งบริจาค ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ เส้นหลอดเลือดดำที่ขา ซึ่งสามารถนำไปช่วยเหลือคนได้ 6 คน

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลสามารถรับบริจาค ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพราะเรายังมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยทุกปี ตั้งแต่ ปี 2562 เป็นต้นมาเรามีการจัดหาอวัยวะ สำหรับผู้บริจาค ซึ่งทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็นสะพานบุญ

ปี 2563 ได้เคสบริจาคอวัยวะ 23 ราย ซึ่งเป็นไต 12 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 3 ดวงตา 27 ซึ่งหมายถึงเรามีอวัยวะไปให้ผู้ปลูกถ่าย 14 ท่าน

และปี 2564 เราได้ ไต 18 ข้าง ลิ้นหัวใจ 2 ดวงตา 45 ดวง มีผู้บริจาคอวัยวะ 39 ราย ไปช่วยคนที่รอปลูกถ่ายอวัยวะ 65 ราย ที่มีปัญหาทุกข์ทน ทุกข์ทรมานจากอวัยวะวาย ก็จะได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ

สำหรับปี 2565 นี้ เรามีการรับบริจาคอวัยวะไปแล้ว ไต 4 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 1 แล้วก็ดวงตา 6 ดวง จากผู้บริจาคอวัยวะ 8 ราย ซึ่งก็มีคน 13 คน ที่ได้อวัยวะ

ซึ่งทางโรงพยาบาล ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย เพราะอวัยวะได้มาจากผู้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เกิดภาวะสมองตาย และนำอวัยวะไปใช้ หรือดวงตา ซึ่งไม่มีข้อผูกห้ามทางการแพทย์ แต่ทางครอบครัวมีจิตศรัทธา เป็นสะพานบุญที่จะบริจาคอวัยวะให้กับผู้ที่รอคอย

สำหรับ น.ส.ชาลิสา วงศาวดี อายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตและญาติได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมานายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ได้มอบประกาศเกียรติคุณและหรีดแสดงความเสียใจจากสภากาชาดไทยโดยญาติได้นำร่างของน.ส.ชาลิสา วงศาวดี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 18ม.1.ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติ ๆ

น.ส.ปราณี วงษาวดี อายุ 66ปี ป้าและเป็นผู้ที่เลี้ยงน.ส.ชาลิสา มาตั้งแต่เด็กและได้ผูกเป็นบุตรบุญธรรมเปิดเผยว่าน.ส.ชาลิสาหรือน้องติ้ว ใฝ่ฝันที่จะไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากน้องติ้วจบเอกภาษาอังกฤษ เพื่อการธุรกิจจากมหาวิทยาลัยพิบูลสงครามจังหวัดพิษณุโลก แต่ระหว่างรอดำเนินการและจัดทำเอกสารก็ได้มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานของฟู๊ดแพนด้าประจำจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อรอเวลาไปก่อน

ล่าสุดที่ตนได้พบน้องติ้วคือวันที่ 15 ม.ค.2565 ซึ่งเป็นวันเกิดของตนเอง น้องติ้วได้มาร่วมงานวันเกิดหลังเลิกงานก่อนกลับไปที่พักน้องติ้วได้เข้ามาขอกอดโดยบอกว่าขอกอดแก้เหนื่อยหน่อยพร้อมทั้งหอมแก้ม ซึ่งตามปกติก็จะไหว้ธรรมดา ทีแรกก็แปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าการกอดครั้งนั้นจะเป็นการกอดครั้งสุดท้าย

หากดวงวิญญาณของน้องติ้วรับรู้ได้ตนก็อยากจะให้น้องไปอยู่ในที่สบาย ขออโหสิกรรมซึ่งกันและผลบุญที่น้องได้บริจาคอวัยวะขอให้ส่งผลให้น้องไปอยู่ในที่ดี ๆ เกิดชาติหน้าขอให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ

ด้านเพื่อน ๆ ที่มาร่วมงานศพได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม จนกระทั่งเรียนจบก็ยังพูดคุยติดต่อกันมาตลอด ล่าสุดที่ได้พูดคุยกับติ้วคือในช่วงเย็นของวันที่จะประสบอุบัติเหตุ โดยคุยกันทางโซเชียล พอตกดึกก็ทราบว่าประสบอุบัติเหตุอาการหนักจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และในโอกาสสุดท้ายนี้อยากจะบอกติ้วว่าเกิดชาติหน้าขอให้มาเป็นเพื่อนกันอีกตลอดไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ระทึก! หนุ่มเบญจเพสส่งลูกเรียนรถคว่ำชนสาวดับ 1 พ่อเหยื่อเผยลางบริจาคอวัยวะก่อนตาย (คลิป)
- การให้ที่ยิ่งใหญ่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ประสบอุบัติเหตุดับ บริจาคอวัยวะช่วยอีก 2 ชีวิต
- เด็กสาววัย 14 ประสบอุบัติเหตุสมองตาย แม่บริจาคอวัยวะช่วย 6 ชีวิต

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส