กรณีพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 ราย ภายในหมู่บ้านพฤกษา 92 ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จึงรุดไปที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอย 14 พบศพผู้เสียชีวิตถูกยิงนอนหงายจมกองเลือด 2 ศพ
ทั้งนี้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายธานินทร์ ชลิงสุ หรือ ตั้ม อายุ 49 ปี สารวัตรกำนันตำบลบึงยี่โถ มีบาดแผลถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอก 2 แผล แขนซ้าย 1 แผล รวม 3 นัด ใกล้กันพบศพ นายวรพงษ์ พินทวัฒน์ หรือ มด อายุ 46 ปี นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้ากลางศีรษะ กกหูซ้าย แขนขวา รวม 3 นัด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพร้อมด้วยอาวุธปืน ก่อนจะกล่อมจนยอมมอบตัว ทราบชื่อว่า นายวรินทร แก้วชิงดวง อายุ 31 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขาข้างขวา จากการสอบถามทราบว่าทำปืนสั่นใส่ขาตัวเอง
ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น โดยบ้านของนายธานินทร์ ผู้ตาย คือหลังที่ 2 ฝั่งซ้าย ส่วนบ้านนายวรินทร คือหลังสุดท้ายขวามือ และบ้านนายวรพงษ์ อยู่ห่างไปทางหน้าปากซอย บริเวณจุดเกิดเหตุมีรอยกระสุนปืนที่พื้น ที่รถจักรยานยนต์ และบริเวณบ้านนายธานินทร์ ส่วนบ้านผู้ต้องหามีเลือดลักษณะเป็นรอยเท้าเต็มพื้น
นางสำลี ทับช้าง อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นนายธานินทร์ กับนายวรพงษ์ นั่งกินเหล้ากันอยู่หน้าบ้านของนายธานินทร์ ส่วนนายวรินทร ก็นั่งกินเหล้าที่บ้านคนเดียว หลังจากนั้นช่วงกลางดึกก็มีเสียงปืนดังรัวหลายนัด 2 รอบ ขณะนั้นตนกลัวมาก จึงวิ่งขึ้นไปหลบบนห้องชั้น 2 โดยไม่กล้าเปิดไฟและไม่ส่งเสียงดัง กลัวผู้ก่อเหตุจะคลั่งแล้วกราดยิงทั้งหมด
ในระหว่างนั้น ตนก็พยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ เพราะตนมองผ่านม่าน เห็นว่านายวรินทร ผู้ต้องหา เดินวนไปมาหน้าบ้าน มีภรรยาพยายามดึงตัวเอาไว้ไม่ให้ไปยิงซ้ำอีก ใช้เวลานานกว่า 30 นาที ตำรวจถึงจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ทั้งนี้ บริเวณบ้านของตนก็มีรอยกระสุนทั้งที่พื้น และหลังคา นอกจากนี้ รถเก๋งที่จอดหน้าบ้านก็มีรอยกระสุนยิงทะลุ 1 จุดที่กันชนหลัง ซึ่งเมื่อตรวจสอบดูก็พบหัวกระสุนปืนทะลุเข้าฝากระโปรงท้าย ตนสนิทกับทั้งมือปืนและคนตาย คาดว่าทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะมีปัญหากันอยู่แล้ว ปกติผู้ก่อเหตุเวลาเมาแล้วชอบโวยวาย หรือทะเลาะกับภรรยา
เวลา 15.00 น. ญาติ ๆ ได้รับศพนายธานินทร์ สารวัตรกำนัน ต.บึงยี่โถ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมูลจินดาราม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยภรรยาเดินถือธูปนำศพเข้ามาด้านในศาลา พร้อมร้องไห้ตลอดเวลา จนญาติต้องเข้าไปประคอง จากนั้นได้ทำพิธีรดน้ำศพ ก่อนที่ลูกชายวัย 20 ปี และลูกสาววัย 14 ปี จะเข้ามารดน้ำศพและกราบเท้าผู้เป็นพ่อ นอกจากนี้ ญาติ ๆ ได้อุ้มลูกสาววัย 3 ขวบของผู้ตายมารดน้ำศพและกราบศพพ่อด้วย
นางภิชญาดา สอนศรี อายุ 38 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุสามีของตนดื่มเหล้ากับนายวรพงษ์ อยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยนั่งดื่มตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 - 23.00 น. กำลังจะแยกย้าย นายวรพงษ์เดินกลับบ้าน จู่ ๆ ก็มีเสียงปืนรัวขึ้นหลายนัด ลูกสาวบอกว่า "พ่อถูกยิง ๆ" เมื่อตนออกไปดูพบว่าสามีกับนายวรพงษ์ ถูกยิงนอนแน่นิ่งแล้ว ในระหว่างนั้นนายวรินทร เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเดินถือปืนเข้ามาจะกราดยิงใส่ตนกับลูกชาย พร้อมกับบอกว่า "ถ้าออกมา จะฆ่าให้ตายหมด" ตนจึงรีบหลบเข้าไปในบ้านด้วยความกลัว
ในระหว่างนั้น ตนอยู่ในบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ และได้ยินเสียงปืนยิงใส่สามีและเพื่อนสามีอีกคนละ 2 นัด ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจจะยิงให้ตายคาที่ แต่ตนทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจนตำรวจเข้ามาจึงกล้าออกมาจากบ้าน และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ทั้งนี้ สามีกับผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงปีใหม่สามีไปยิงปืนฉลองที่ท้ายซอย ซึ่งอยู่ติดกับบ้านนายวรินทร โดยอีกฝ่ายคิดว่าสามียิงปืนใส่บ้านของเขา จึงโกรธจนมีปากเสียงกัน แต่ครั้งนั้นห้ามไว้ได้ทัน จึงไม่มีอะไรรุนแรง
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ตนก็บอกให้สามีไปขอโทษนายวรินทร และต่างฝ่ายก็จบเรื่องกันไป ทั้งนี้ ปกติแล้วนายวรินทร เวลาเมามักจะชอบอันธพาล ขณะนี้สภาพจิตใจของตนย่ำแย่มาก ๆ หลังเกิดเหตุนายวรินทรไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย ซ้ำยังบอกให้ญาติตะโกนขู่ลูกชายตนว่า "ยิงพ่อตายแล้ว ระวังมึงจะตายไม่ต่างจากพ่อ"
นายธนวัฒน์ ชลิงสุ อายุ 20 ปี ลูกชายนายธานินทร์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเล่นเกมอยู่บนห้อง แต่ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืน และเสียงแม่กรี๊ดดังลั่น ตนจึงวิ่งลงมาดู จู่ ๆ นายวรินทร ผู้ก่อเหตุ ก็หันกระบอกปืนมากราดยิง และบอกว่า "ใครออกมากูยิงหมด" ตนกับแม่จึงต้องวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับผู้ต้องหา ก่อนจะออกมาดูศพพ่อ
ทั้งนี้ ตนรู้สึกเจ็บจนอยากจะยิงตัวเองให้ตาย เพราะทำได้แต่มองพ่อผ่านกระจก ตนอยากจะเข้าไปกอดศพพ่อยังทำไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุถือปืนขู่อยู่หน้าบ้าน นาทีนั้นตนรู้ว่าพ่อตายแน่นอน เพราะไม่มีคนเข้าไปช่วยเหลือ
"พ่อกับผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันจริง แต่เคลียร์จบไปแล้ว ที่ผ่านมาทั้งคู่ยังคุยกัน ผมก็ยกมือไหว้ผู้ก่อเหตุเสมอ ๆ ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ หลังเกิดเหตุยังมีเพื่อนของผู้ต้องหามาขู่ว่า จะโดนแบบพ่อมึง และอ้างว่าพ่อผมไประรานก่อน ซึ่งผมยืนยันว่าไม่เป็นความจริงครับ" ลูกชายผู้ตาย กล่าว
